นายกฯ อนุทิน  ชู 3 แนวทางเวทีเอเปค

Date:

วันที่ 1 พฤศจิกายน เวลา 10.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นเมืองคยองจู ซึ่งเร็วกว่ากรุงเทพฯ 2 ชั่วโมง) ณ ห้อง 300C ชั้น 3 ศูนย์ประชุม Hwabaek International Convention Centre (HICO) เมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 32 รอบที่ 2 (The 32nd APEC Economic Leaders’ Meeting – Session II) ภายใต้หัวข้อ “Preparing a Future-Ready Asia-Pacific” 

ภายหลังประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีกล่าวเปิดการประชุม ได้เชิญให้ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคกล่าวถ้อยแถลง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถ้อยแถลงเป็นลำดับที่ 3 ต่อจากสหรัฐฯ 

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอชื่นชมสาธารณรัฐเกาหลีสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและการจัดงานเลี้ยงต้อนรับที่น่าประทับใจ ในช่วงกว่า 36 ปีที่ผ่านมา เอเปคเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนภูมิภาคให้เป็นเครื่องยนต์แห่งการเติบโตของเศรษฐกิจโลก แต่ปัจจุบันโลกกำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งจากเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร และภูมิอากาศ ซึ่งล้วนท้าทายความสามารถในการรับมือของภูมิภาค ดังนั้น เอเปคจึงต้องคงไว้ซึ่งบทบาทในฐานะภูมิภาคที่มีเสถียรภาพ นวัตกรรม และความสามารถในการปรับตัว เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต โดยไทยเสนอแนวทางสำคัญ 3 ประการ ได้แก่

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า 1.ยึดมั่นในการส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาคและการเติบโตอย่างครอบคลุม เพราะความมั่งคั่งจะไม่มีความหมาย หากยังมีคนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ไทยเชื่อว่าการบูรณาการทางเศรษฐกิจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นจะช่วยให้ทุกภาคส่วนได้รับประโยชน์ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางในสังคม

2.ต้องเป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล ด้วยการสร้างความเชื่อมั่น ความปลอดภัย ความรับผิดชอบในการใช้เทคโนโลยี AI และการเข้าถึงอย่างเท่าเทียม ไทยได้จัดทำแนวปฏิบัติจริยธรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI Ethics Guidelines) เพื่อให้แน่ใจว่าเทคโนโลยีจะถูกออกแบบมาให้ใช้ได้อย่างปลอดภัยและเป็นธรรม พร้อมกันนี้ เอเปคต้องทำให้มั่นใจว่าผลประโยชน์จากการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล ทั้งในเชิงเนื้อหาและแพลตฟอร์มออนไลน์ จะได้รับการนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่และเท่าเทียม เพื่อให้นวัตกรรมสามารถเสริมสร้างศักยภาพให้แก่ประชาชนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภูมิภาคได้อย่างแท้จริง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ไทยยังได้เน้นย้ำถึงการเร่งแก้ไขปัญหาอาชญากรรมในโลกไซเบอร์ โดยเฉพาะการหลอกลวงออนไลน์และการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นอาชญากรรมข้ามพรมแดนที่ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมกัน ผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูล การบังคับใช้กฎหมายที่สอดคล้องกัน และการสร้างความตระหนักรู้ให้แก่สังคม พร้อมขอบคุณสาธารณรัฐเกาหลีและสหรัฐอเมริกาสำหรับบทบาทนำในเรื่องนี้ โดยไทยพร้อมทำงานร่วมกันผ่านศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC) และเวที APEC Online Scams Exchange Forum

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า และ3.เอเปคต้องเสริมพลังให้กับทุกกลุ่มในสังคม โดยเฉพาะในยุคที่ประชากรกำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย จึงต้องส่งเสริมการจ้างงานที่ครอบคลุม มีระบบดูแลสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ และส่งเสริมการเรียนรู้ทุกช่วงวัย สำหรับไทยได้ผลักดันนโยบายการจ้างงานผู้สูงอายุ การขยายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และการวางแผนครอบครัวอย่างชาญฉลาด เพื่อสร้างความเป็นอยู่ที่ดีในทุกช่วงวัย

“ในยุคที่โลกไร้พรมแดนและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ไม่มีเขตเศรษฐกิจใดสามารถยืนอยู่ได้เพียงลำพัง หากเอเปคสามารถปรับทิศทางร่วมกันได้ เอเปคจะยังคงเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนความก้าวหน้าของโลก แม้เส้นทางข้างหน้าจะไม่ง่าย แต่เอเปคจะเดินไปด้วยกัน ด้วยความร่วมมือที่แน่นแฟ้นและเป้าหมายร่วมกัน เพื่อสร้างภูมิภาคที่เชื่อมโยง ยั่งยืน และพร้อมรับอนาคตอย่างแท้จริง” นายกรัฐมนตรีกล่าวปิดท้าย

ภายหลังการประชุมฯ ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคได้ถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน  จากนั้น นายกรัฐมนตรีจะเดินทางออกจากท่าอากาศยานฐานทัพอากาศกิมแฮ นครปูซานในเวลา 16.15 น. และจะเดินทางถึงประเทศไทย ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ในเวลาประมาณ 21.00 น.

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

แอร์บัส และคาเธ่ย์จับมือร่วมลงทุนเชื้อเพลิง SAF

แอร์บัส และคาเธ่ย์จับมือร่วมลงทุน เดินหน้าผลักดันการใช้เชื้อเพลิง SAF

เวียตเจ็ท ซื้อเครื่องบินแอร์บัส เอ321นีโอ จำนวน 100 ลำ

เวียตเจ็ท ลงนามสัญญาสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส เอ321นีโอ จำนวน 100 ลำ

นายกฯ อนุทิน ดีใจ ประเทศไทยได้กลับมาในเวทีโลก

นายกฯ อนุทิน ดีใจ ประเทศไทยได้กลับมาในเวทีโลก ผู้นำหลายประเทศตอบรับดี

“ซิตี้” คว้ารางวัลสุดยอดธนาคาร

“ซิตี้” ผงาดคว้ารางวัลสุดยอดธนาคารจาก Euromoney 2025