นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า คาดว่าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในเดือน ส.ค. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างน้อย 0.25% โดย ธอส. จะตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้บ้านไว้ให้นานที่สุดเพื่อไม่ให้ลูกค้าได้รับผลกระทบ
อย่างไรก็ตาม ธนาคารจะปรับดอกเบี้ยเงินกู้บ้านในเดือน ต.ค. ไม่เกิน 0.15% ต่อปี ซึ่งลูกค้ากู้บ้านทั้งหมดของ ธอส. 1.4 ล้านล้านบาท จะไม่ได้ผลกระทบ โดยหากเงินงวดยังเพียงพอชำระเงินต้น ลูกค้ายังจ่ายค่างวดได้เท่าเดิม
นายฉัตรชัย กล่าวว่า โครงการบ้านล้านหลังเฟส 2 ยังมีวงเงินสินเชื่อเหลือ 4 พันล้านบาท เป็นดอกเบี้ยคงที่ 1.99% คาดว่าจะได้รับความสนใจจากลูกค้ามาก ในช่วงภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น ดังนั้นในเดือน ส.ค. นี้ จะเสนอให้คณะกรรมการธนาคาร พิจารณาเพิ่มวงเงินอีก 20,000 ล้านบาท เพื่อเสนอกระทรวงการคลัง และ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่วนอัตราดอกเบี้ยอาจจะไม่ได้คงที่ 1.99% ส่วนจะคงที่เท่าใด ขึ้นอยู่กับ ครม. จะพิจารณาชดเชยส่วนต่างในอัตราเท่าใด
นอกจากนี้ สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ เตรียมส่งหนังสือถึงกระทรวงการคลัง เพื่อขอขยายเวลาการลดเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ของแบงก์รัฐทั้ง 4 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จาก 0.25% เหลือ 0.125% ที่จะสิ้นสุดในสิ้นปี 2565 โดยขอขยายออกไปอีก 1 ปี หรือ สิ้นสุดปี 2566 เพื่อไม่ให้มีต้นทุนดังกล่าว ซ้ำเติมลูกค้าในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น ไม่เช่นนั้นจะมีผลต่ออัตราการผ่อนที่จะได้รับผลกระทบจากการไม่ขยายการลดเงินนำส่ง