คาดเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังฟื้นตัวต่อ ตลาดการเงินยังคงผันผวน

Date:

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 จะฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากภาคการท่องเที่ยว การส่งออก และการบริโภคภาคเอกชน ในขณะที่แรงกดดันจากเงินเฟ้อ และส่วนต่างดอกเบี้ยกับสหรัฐฯ ที่กว้างมากขึ้น น่าจะทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในไตรมาสนี้

“ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในไตรมาส 4 เราคาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยมีแรงผลักดันจากการภาคการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ ในขณะที่การส่งออกยังคงแข็งแกร่ง และการบริโภคภาคเอกชนดีขึ้นต่อเนื่อง มุมมองบวกดังกล่าวถือว่าต่างจากสองปีที่แล้วในช่วงโควิด” ดร.ทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) กล่าว

“อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงที่ต้องจับตามองในขณะนี้ คือเงินเฟ้อจะมีผลต่อการบริโภคไหม เราไม่อยากให้การบริโภคซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจไทยสะดุดลง ทั้งนี้เพื่อความต่อเนื่องในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย” ดร.ทิม กล่าวเพิ่มเติม

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2565 จะเติบโตร้อยละ 3.3 และ 4.5 ในปีหน้า โดยการฟื้นตัวจะชัดเจนตั้งแต่ครึ่งปีหลังของปีนี้ แต่ในขณะเดียวกัน ความผันผวนในตลาดการเงินก็ยังน่าจะยังสูงอยู่ในช่วงเวลาดังกล่าว

นอกจากนี้ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด จะยังคงขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่องในการประชุมเดือนกรกฎาคม และกันยายน และการขึ้นแต่ละครั้ง น่าจะเป็นการขึ้นดอกเบี้ยที่ค่อนข้างมาก

“การขึ้นดอกเบี้ยอย่างมากและอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาจะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินบาท และจะยิ่งทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยกับสหรัฐฯ ห่างมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ตลาดการเงินน่าจะยังคงอยู่ในภาวะผันผวนไปอีกระยะหนึ่ง เรายังไม่เห็นเฟดเริ่มส่งสัญญารการชะลอการขึ้นดอกเบี้ย” ดร.ทิม กล่าว

ทั้งนี้ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดว่ากนง. จะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในไตรมาสนี้ โดยขึ้นติดต่อกัน 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะขึ้นไปอยู่ที่ร้อยละ 1.25 ก่อนสิ้นปีนี้ จากร้อยละ 0.50 ในปัจจุบัน การประชุมนัดพิเศษนอกจากการประชุมรอบปกติ ก็อาจเป็นไปได้ ท่ามกลางความผันผวนของตลาดการเงินจากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และเงินเฟ้อในประเทศที่อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง แม้กระนั้น หลังจากการขึ้นดอกเบี้ยติดต่อกันในประเทศในปีนี้ ทำให้ในปีหน้า กนง. อาจพักการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อตามดูเศรษฐกิจก่อนก็เป็นได้

ดร.ทิม กล่าว กล่าวว่า เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณร้อยละ 7 ซึ่งสูงกว่ากรอบเงินเฟ้อ ธปท. ซึ่งตั้งไว้ที่ร้อยละ 1-3 จึงเป็นคำถามว่า ธปท. จะปรับกรอบเงินเฟ้อต่อปีในช่วงต้นปีหน้าไหม นอกจากนี้ เมื่อเศรษฐกิจกำลังค่อยๆ ฟื้นตัว เราเชื่อว่านักลงทุนน่าจะสนใจว่าหนี้สาธารณะของประเทศจะเริ่มลดลงบ้างไหม จากที่ปรับขึ้นมาอยู่ที่ประมาณร้อยละ 60 ของจีดีพีในขณะนี้ เทียบกับร้อยละ 40 ช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

อดีต รมว.คลัง มึนไอเดียทักษิณ ออกพันธบัตรรัฐบาลเป็นดิจจิทัลคอยน์

“สมหมาย ภาษี” ชี้ ไอเดียทักษิณ ออกพันธบัตรรัฐบาลเป็นดิจจิทัลคอยน์ รู้สึกว่ามันพิสดารสิ้นดี

คริปโทในทักษิโนมิคส์ ฝันเฟื่องในโลกเสมือนจริง

“ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล” ชี้ คริปโทในทักษิโนมิคส์ ฝันเฟื่องในโลกเสมือนจริง

ก.ล.ต. กล่าวโทษ บมจ.ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์

ก.ล.ต. กล่าวโทษ บมจ.ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ และอดีตผู้บริหาร กรณีปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งในสาระสำคัญของแบบ filing

ก.ล.ต. กล่าวโทษอดีตผู้บริหาร บมจ.ทรีซิกตี้ไฟว์

ก.ล.ต. กล่าวโทษอดีตประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บมจ.ทรีซิกตี้ไฟว์ กับพวกรวม 6 ราย ต่อ บก.ปอศ. กรณีทุจริต