ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนรู้จักและเข้าใจประโยชน์ของการประกันภัยมากขึ้น และให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ โดยจะเห็นได้จากประชาชนมีการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการประกันภัยและมีความคาดหวังจากระบบประกันภัยเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้น สำนักงาน คปภ. จึงมีการพัฒนาในส่วนของการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับคนกลางประกันภัย ได้แก่ ตัวแทน นายหน้าประกันภัย รวมถึงผู้ประเมินวินาศภัย
โดยสำนักงาน คปภ. อยู่ระหว่างการดำเนินโครงการพัฒนาแพลทฟอร์ม ระบบการให้บริการการออกใบอนุญาตตัวแทน/นายหน้าประกันภัย/ผู้ประเมินวินาศภัย ทางอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร หรือ E-Licensing ซึ่งเป็นการพัฒนากระบวนการทำงานตั้งแต่การให้บริการข้อมูล การขอรับใบอนุญาต การขอต่ออายุใบอนุญาต การนำส่งข้อมูลตามที่สำนักงาน คปภ. กำหนด
นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนที่เกี่ยวข้อง ผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานที่เกี่ยวข้องกับคนกลางประกันภัยให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น และเป็นการอำนวยความสะดวกแก่คนกลางประกันภัยให้สามารถยื่นคำขอเอกสารต่าง ๆ ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และสามารถติดตามสถานะของการดำเนินการได้สะดวกยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการลดต้นทุนในการดำเนินการ โดยสำนักงาน คปภ. ตั้งเป้าหมายในการพัฒนาระบบ E-Licensing ให้แล้วเสร็จภายในปี 2566
เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า ผู้ประเมินวินาศภัยถือถือเป็นคนกลางประกันภัย ที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญต่อกระบวนการชดใช้สินไหมทดแทน โดยมีหน้าที่ตรวจสอบ วิเคราะห์สาเหตุและประเมินความเสียหายของวินาศภัย เพื่อให้การชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเกิดความเป็นธรรมต่อทุกภาคส่วน ทั้งยังมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการป้องกันการฉ้อฉลด้านการประกันภัย
ดังนั้น ผู้ประเมินวินาศภัยจึงมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบประกันภัย สำนักงาน คปภ. จึงมีความคาดหวังและมุ่งมั่นที่จะกำกับดูแลและส่งเสริมให้ผู้ประเมินวินาศภัยในตลาดให้มีมาตรฐานการดำเนินงานและศักยภาพที่สามารถตอบรับการเปลี่ยนแปลงในยุค Next Normal สามารถรองรับการแข่งขันที่สูงขึ้นจากการขยายตัวของตลาดประกันวินาศภัย และการเปิดเสรีการบริการด้านประกันภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต