“ไทยออยล์” กำไรสุทธิ 32,668 ล้านบาท

Date:

บัณฑิต ธรรมประจำจิต

นายบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เปิดเผยว่า ไทยออยล์มีรายได้จากการขายในช่วงไตรมาส 4/2565 ที่123,132 ล้านบาท และมีกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่มไม่รวมผลกระทบจากสต๊อกน้ำมันอยู่ที่ 11.1 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

อย่างไรก็ตาม ความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวจากการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในจีน ทำให้ราคาน้ำมันดิบมีการปรับตัวลดลง ส่งผลให้กลุ่มไทยออยล์ในไตรมาส 4/2565 ขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน 9,178 ล้านบาท มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่มรวมผลกระทบจากสต๊อกน้ำมันอยู่ที่ 1.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และกลุ่มไทยออยล์รายงานกำไรสุทธิในช่วงไตรมาส 4/2565 ที่ 147 ล้านบาท

ส่งผลให้ไทยออยล์ในปี 2565 มีรายได้รวม 505,703 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 51 จากปี 2564 และมีกำไรสุทธิ 32,668 ล้านบาท ซึ่งรวมกำไรจากการจัดประเภทเงินลงทุนและจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัท GPSC จำนวน 12,880 ล้านบาท

นายบัณฑิต กล่าวเพิ่มเติมว่า “ภาพรวมธุรกิจกลุ่มไทยออยล์ในปี 2566 นี้ คาดว่าจะยังมีแนวโน้มที่ดีขึ้นกว่าช่วงก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเติบโตและประเทศจีนมีการยกเลิกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจก็ยังคงมีความไม่แน่นอนเนื่องจากการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยและคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง เพื่อควบคุมสภาวะเงินเฟ้อ”

ทั้งนี้ ไทยออยล์ยังคงเดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก รวมถึงการต่อยอดไปยังธุรกิจปิโตรเคมีและผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง ขยายตลาดและกระจายผลิตภัณฑ์ไปสู่ต่างประเทศในระดับภูมิภาค และ แสวงหาโอกาสในธุรกิจใหม่ (New S-Curve) เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้พลังงานในอนาคต ก้าวไปสู่เป้าหมายการเติบโตที่ยั่งยืน


สำหรับบรรณาธิการ
ไทยออยล์เป็นผู้ประกอบธุรกิจการกลั่นและจำหน่ายนํ้ามันปิโตรเลียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นโรงกลั่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2504 โดยมีธุรกิจหลักคือ การกลั่นนํ้ามันปิโตรเลียม ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 275,000 บาร์เรลต่อวัน
นอกจากนี้ ไทยออยล์มีระบบการบริหารจัดการที่มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ (Operational Excellence) โดยบริหารงานเป็นกลุ่มที่มีการเชื่อมโยงธุรกิจ ทั้งธุรกิจการกลั่นน้ำมัน ธุรกิจปิโตรเคมีและธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน โดยร่วมวางแผนการผลิตก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีต้นทุนต่ำ ขณะเดียวกันมีคุณภาพสูงในระดับโรงกลั่นชั้นนำ (Top quartile) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทำให้ได้เปรียบเชิงต้นทุนการผลิต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนั้น ยังมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องหลากหลาย เช่น ธุรกิจไฟฟ้า ธุรกิจสารทำละลาย ธุรกิจบริหารการขนส่งทางท่อ ธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจผลิตสารตั้งต้นสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์สารทำความสะอาด ธุรกิจบริการจัดเก็บนํ้ามันดิบ นํ้ามันปิโตรเลียม และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี และธุรกิจให้บริการด้านการสรรหาและคัดเลือกบุคลากรสำหรับกลุ่มไทยออยล์

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

กบข. มั่นใจผลตอบแทนสมาชิกปี 68 ไม่ต่ำกว่า 3.5%

กบข. มั่นใจแผนลงทุน สร้างผลตอบแทนสมาชิกปี 68 ไม่ต่ำกว่า 3.5%

รัฐบาล หนุนตลาดทุน เพิ่มผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง

รัฐบาล หนุนตลาดทุน ออกผลิตภัณฑ์การออมระยะยาว กองทุน ThaiESGX พันธบัตรเพื่อความยั่งยืน พันธบัตรสีเขียว หรือ Green Bond

ตลาดหุ้นเจอมรสุม 12 เดือนติด

ผู้จัดการ ตลท. แจง ตลาดหุ้นเจอมรสุม 12 เดือนติด จัดงาน Thailand Focus 2025 ร่วมหาทางออก

นายกฯ จ่อแถลงข่าวที่ทำเนียบฯ หลังคำวินิจฉัยศาล 29 ส.ค.นี้

นายกฯ ยิ้มแย้ม เตรียมแถลงข่าวที่ทำเนียบฯ หลังฟังคำวินิจฉัยศาล 29 ส.ค.นี้