เสนอลูกค้าเวลธ์หาจังหวะลงทุนต่างประเทศ

Date:

ศรชัย สุเนต์ตา

นายศรชัย สุเนต์ตา ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Office and Product และผู้ช่วย ผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารฝ่าย SCB Chief Investment Office (SCB CIO) ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2566 ผู้ลงทุนทั่วไป และกลุ่มผู้ลงทุนที่มีความมั่งคั่งระดับสูง ( Ultra High Net Worth) ให้ความสนใจลงทุนในผลิตภัณฑ์ตราสารหนี้ต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง

ส่งผลให้ผู้ลงทุนเพิ่มน้ำหนักลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำมากขึ้น เช่น ตราสารหนี้ ทั้งนี้ จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ล่าสุด ในเดือน ม.ค. 2566 พบว่า มีผู้ลงทุนรายย่อยที่ลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศผ่านตัวแทน มีมูลค่าประมาณ 1,226.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.96% จากเดือน ธ.ค. 2565 และเพิ่มขึ้น 58.65% จากเดือนเดียวกันของปี 2565 ส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ ผ่านกองทุนรวม มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 4,088.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.69% จากเดือน ธ.ค. 2565 และเพิ่มขึ้น 11.24% จากเดือนเดียวกันของปี 2565

นายศรชัย กล่าวว่า กลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมสำหรับปี 2566 ยังคงให้น้ำหนักการลงทุนในต่างประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดี ให้กับพอร์ตลงทุน นักลงทุนควรหาจังหวะ และโอกาสเข้าลงทุนในต่างประเทศด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเฉพาะในช่วงที่ค่าเงินบาทแข็งค่า แนะนำให้แลกเงินดอลลาร์สหรัฐ เก็บไว้ในบัญชีเงินฝากสกุลเงินตราต่างประเทศ (FCD) และหาจังหวะลงทุนในช่วงเวลาที่เหมาะสม หรือหากรับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำ -ปานกลาง สามารถลงทุนในเงินฝาก พันธบัตรรัฐบาล หรือหุ้นกู้คุณภาพดีในต่างประเทศ เช่น ในสหรัฐฯ ที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง ทำให้การลงทุนในตราสารหนี้ มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่น่าสนใจ และหากรับความเสี่ยงได้สูงขึ้น ก็สามารถไปลงทุนในหุ้นต่างประเทศ หรือลงทุนผ่านผลิตภัณฑ์ตราสารอนุพันธ์ประเภทต่างๆ ได้

“ ข้อดีของการมีบัญชีเงินฝาก FCD คือ ผู้ลงทุนสามารถพักเงินดอลลาร์สหรัฐที่แลกไว้ในบัญชีนี้ เพื่อรอนำเงินไปลงทุนต่อในต่างประเทศโดยตรง และเมื่อได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนกลับมาในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ก็ฝากไว้ในบัญชีเงินฝาก FCD เพื่อนำกลับไปลงทุนในต่างประเทศใหม่ได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากผู้ลงทุนสามารถรอจังหวะที่เหมาะสม เพื่อแลกเปลี่ยนกลับมาเป็นเงินบาท หรือรอนำเงินดอลลาร์สหรัฐที่เก็บไว้ ไปใช้ในต่างประเทศได้เลย” นายศรชัย กล่าว

ทั้งนี้ การลงทุนในเงินฝาก พันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้คุณภาพดี ในต่างประเทศ ที่ลงทุนในรูปของเงินดอลลาร์สหรัฐ SCB CIO แนะนำ 7 ผลิตภัณฑ์ที่เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ได้แก่ US Treasury ลงทุนโดยตรงในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้น , ETF US treasury ลงทุนผ่านกองทุนรวมต่างประเทศ ที่ไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (ช่วงอายุ 1-3 ปี) , Capped Floored Floater ลงทุนในตราสารอนุพันธ์อ้างอิง ดอกเบี้ยลอยตัว , Fund link note ลงทุนในตราสารอนุพันธ์อ้างอิงผลตอบแทนของกองทุนตราสารหนี้ แบบรับประกันเงินต้น และ KIKO (Foreign Equity) ลงทุนในตราสารอนุพันธ์อ้างอิง ผลตอบแทนของหุ้นต่างประเทศแบบไม่รับประกันเงินต้น นอกจากนี้ ยังสามารถลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่ใช้เงินบาทลงทุน โดยมีนโยบายไปลงทุนในต่างประเทศ และมีโอกาสรับผลตอบแทนเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้นต่างประเทศ (SCBFST) และ Dual Currency Investment การลงทุนในตราสารอนุพันธ์อ้างอิงผลตอบแทนของหุ้นต่างประเทศ

ทั้งนี้ การลงทุนในตราสารหนี้ยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในปีนี้ โดย ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปมากขึ้น โดยคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องครั้งละ 0.25% จนถึงเดือนพฤษภาคมนี้ หลังจากนั้นคงไว้ คาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายสูงสุดรอบนี้จะอยู่ที่ 5.25 – 5.50% ตลอดปี 2566 และเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในปี2567 ดังนั้น ทำให้ผู้ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลหรือหุ้นกู้คุณภาพดีในสหรัฐฯ มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการที่อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับสูง

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

เคทีซีแกร่งต่อเนื่อง ครึ่งปีแรกโชว์กำไร 3,755 ล้าน

เคทีซีแกร่งต่อเนื่อง ครึ่งปีแรกโชว์กำไร 3,755 ล้าน คล่องส่วนแบ่งตลาดโตทุกผลิตภัณฑ์

พาณิชย์” ยันเดินหน้าร่วมมือจีน ขับเคลื่อนการค้า

"พาณิชย์” ยันเดินหน้าร่วมมือจีน ขับเคลื่อนการค้า การลงทุน ความร่วมมือเศรษฐกิจ

นายกฯ บินด่วนอุบลฯ เยี่ยมให้กำลังใจทหาร

นายกฯ ควง ’บิ๊กเล็ก‘ บินด่วนอุบลฯ เยี่ยมให้กำลังใจทหาร เหยียบระเบิดช่องบก

คปภ. เดินหน้ายกระดับการกำกับดูแล

คปภ. เดินหน้ายกระดับการกำกับดูแล เสริมเกราะธุรกิจประกันภัยไทย สู่มาตรฐานสากล