THREL ปักธงเบี้ยรับรวมปี 66 โต 4-5%

Date:

นายสุทธิ รจิตรังสรรค์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยรีประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ THREL เปิดเผยถึงแนวโน้มและทิศทางภาพรวมปี 2566 ว่า บริษัทฯเดินหน้าลุยตลาดต่างประเทศเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซีย, ไต้หวัน, กัมพูชา และสปป.ลาว ที่ยังมีแนวโน้มอัตราการขยายตัวในระดับสูง พร้อมมองหาโอกาสใหม่ๆขยายงานตลาดในประเทศ ทั้งงานประกันชีวิตแบบดั้งเดิม (Conventional) และงานร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่กับลูกค้า (Non-Conventional) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการผนึกความร่วมมือพันธมิตร ร่วมคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะกลุ่มมากขึ้น โดยเฉพาะด้านจิตเวช และกลุ่มผู้สูงวัย เพื่อต่อจิ๊กซอว์ New S-Curve ขับเคลื่อนการเติบโตต่อเนื่อง เบื้องต้นตั้งเป้าผลักดันเบี้ยประกันภัยต่อรับรวมเติบโต 4-5% สูงกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมประกันชีวิตที่คาดการณ์เติบโตได้ราว 0-2% พร้อมรักษาระดับ Combined Ratio (COR) ไว้ที่ 95%

ล่าสุด บริษัทฯได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ให้จ่ายเงินปันผลงวดปี 2565 แก่ผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด อัตรา 0.07 บาทต่อหุ้น คิดเป็นวงเงินรวม 52 ล้านบาท พร้อมหุ้น อัตรา 60 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสดหุ้นละ 0.0166 บาทต่อหุ้น รวมทั้งปี 2565 บริษัทฯจ่ายปันผลทั้งสิ้น 0.166 บาทต่อหุ้น คิดเป็นวงเงินรวมทั้งสิ้น 100 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 65% ของกำไรสุทธิ ซึ่งสูงกว่าขั้นต่ำของนโยบายจ่ายเงินปันผลที่กำหนดไว้ไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 24 พฤษภาคม 2566 หลังกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 9 พฤษภาคมนี้

นายสุทธิ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1 ปี 2566 เบี้ยประกันภัยต่อรับเติบโตแตะ 668 ล้านบาท ใกล้เคียงช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเบี้ยประกันภัยต่อที่ถือเป็นรายได้สุทธิเติบโตต่อเนื่องกว่า 3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แตะ 712 ล้านบาท ตามการเพิ่มขึ้นของแบบประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองสินเชื่อ และโรคร้ายแรง จากสัญญาใหม่ของงานต่างประเทศที่ทำไว้ในปี 2565

ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยรวม 739 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนราว 24% สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าสินไหมทดแทน เป็นผลจากจำนวนการเข้ารักษาในโรงพยาบาลของผู้เอาประกันที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ หลังการชะลอการตัวจากเหตุไม่เชื่อมั่นด้านความปลอดภัยจากการติดเชื้อในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด19 ในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงค่ารักษาพยาบาลที่พุ่งตามค่าเงินเฟ้อ ส่งผลให้บริษัทฯมีผลขาดทุนสุทธิ 14 ล้านบาท โดย Combined Ratio (COR) อยู่ที่ระดับ 108.2%

“บริษัทฯ เร่งดำเนินการทบทวนค่าเบี้ยประกันสุขภาพให้มีความสอดคล้องกับ medical inflation และ มุ่งเน้นความสำคัญในการคุมเข้มความเสี่ยงของการรับงาน เพื่อควบคุมคุณภาพผลการรับประกันภัยให้ combined ratio กลับสู่ระดับ 95% และยังมีการขยายงานทั้งในและต่างประเทศเพื่อการเติบโตที่มั่นคงและแข็งแกร่งในระยะยาว สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง” นายสุทธิกล่าว

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

เคทีซี เดินหน้าโครงการปันความรู้ เสริมศักยภาพพนักงาน

เคทีซี เดินหน้าโครงการปันความรู้ เสริมศักยภาพพนักงานพร้อมยกระดับการบริการ

เคทีซีปันน้ำใจกว่า 28 ล้านบาท ให้กับน้องๆ มูลนิธิเด็กโสสะฯ

เคทีซีรวมพลังสมาชิกปันน้ำใจกว่า 28 ล้านบาท ร่วมสร้างอนาคตที่มั่นคงให้กับน้องๆ มูลนิธิเด็กโสสะฯ

เคทีซี มอบทุนสนับสนุนมูลนิธิศุภนิมิตฯ กว่า 29 ล้านบาท

เคทีซี รวมพลังสมาชิกบัตรเครดิตส่งต่อโอกาส มอบทุนสนับสนุนมูลนิธิศุภนิมิตฯ กว่า 29 ล้านบาท

เคทีซีเผยยอดเช่ารถคึกคัก

เคทีซีเผยยอดเช่ารถคึกคัก เส้นทางเมืองรองได้รับความนิยมมากขึ้น