กสิกรไทย จัดหลักสูตรเข้มข้น เสริมแกร่งสตาร์ทอัพไทย

Date:

กสิกรไทยมุ่งมั่นเสริมแกร่งสตาร์ทอัพไทยปรับตัวให้เปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน และก้าวทันเทคโนโลยี เดินหน้าโครงการ  KATALYST STARTUP LAUNCHPAD 2023 ถ่ายทอดการพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจระดับโลกใน 9 สัปดาห์ ฟรี โดยผู้เข้าอบรมทุกคนจะได้รับความรู้ และสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจ รวมถึงโอกาสนำเสนอโครงการเพื่อชิงเงินรางวัลพร้อมรับการสนับสนุนเครื่องมือในการทำธุรกิจ รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท เปิดรับสมัครผู้เรียนเน้นเทคสตาร์ทอัพในกลุ่มอุตสาหกรรมการเงิน (FinTech) สิ่งแวดล้อม (ESG และ Green Technology) ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence และ Machine Learning) เทคโนโลยีด้านสุขภาพ (HealthTech) และโซลูชั่นสำหรับองค์กร (Enterprise Solution) โดยตอกย้ำเจตนารมณ์ของธนาคารในการพัฒนาสตาร์ทอัพไทยให้แข็งแกร่งเพื่อร่วมเป็นกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างความยั่งยืน

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ความยั่งยืนเป็นเรื่องที่ทุกคนในปัจจุบันให้ความสนใจ และการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนเป็นโอกาสที่มีส่วนให้ธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งธนาคารมีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมสตาร์ทอัพไทยอย่างครบวงจรทั้งเงินทุนและองค์ความรู้ เพื่อให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาทางเทคโนโลยี โดยใส่ใจถึงความยั่งยืนอย่างสมดุลทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ทำให้สตาร์ทอัพสามารถพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจ และการเติบโตอย่างยั่งยืน

ด้วยเจตนารมณ์ดังกล่าว ธนาคารจึงดำเนินโครงการ KATALYST STARTUP LAUNCHPAD 2023 ซึ่งเป็นหลักสูตรพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจเพื่อสตาร์ทอัพที่ธนาคารกสิกรไทยร่วมพัฒนาขึ้นและเป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา จัดขึ้นเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ภายใต้แนวคิด “Unleash Your Entrepreneurial Spirit for Sustainable Success” หลักสูตรการเรียนรู้อย่างเข้มข้น 9 สัปดาห์ที่จะทำให้สตาร์ทอัพพัฒนาธุรกิจและเติบโตอย่างยั่งยืน อัดแน่นด้วยองค์ความรู้การทำสตาร์ทอัพ ในแง่มุมต่าง ๆ ตั้งแต่เรื่องทีมงาน การวางรากฐาน ไปจนถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่จะทำให้ธุรกิจเติบโต ทั้งเทคโนโลยีที่กำลังมีบทบาทสำคัญ ได้แก่ Artificial Intelligence (AI) และ Machine Learning (ML) รวมทั้งแนวคิดการจัดการธุรกิจที่คำนึงถึง ESG สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจได้จริง พร้อมคว้าโอกาสใหม่ในเทรนด์ธุรกิจแห่งอนาคต

เนื้อหาของหลักสูตรภายใต้โครงการ KATALYST STARTUP LAUNCHPAD 2023 ได้รับการสนับสนุนผ่านโครงการวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด นำโดยรองศาสตราจารย์ Charles (Chuck) Eesley อีกทั้งธนาคารได้จับมือกับพันธมิตรในด้านต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้รับคำปรึกษาและคำแนะนำโดยเมนเทอร์ชั้นนำจากหลากหลายอุตสาหกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ ผู้บริหารจากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล  (DEPA) ผู้แทนจาก Amazon Web Services (AWS) รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญจาก กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG)  และบีคอน วีซี (Beacon VC) ที่จะมาให้ความรู้และแบ่งปันประสบการณ์ เพื่อผลักดันให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้ดึงศักยภาพของตัวเองและทีมออกมาได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ AWS จะมอบเครดิต AWS Activate เพื่อครอบคลุมการใช้บริการ AWS ของผู้เข้าร่วมตลอดระยะเวลาของโปรแกรม

เนื้อหาการเรียนรู้ในหลักสูตรเป็นองค์ความรู้ที่ช่วยพัฒนาศักยภาพของสตาร์ทอัพอย่างครบวงจรตั้งแต่พื้นฐานเริ่มที่ไอเดียธุรกิจ การวิเคราะห์ความต้องการลูกค้า การพัฒนาศักยภาพในการแข่งขัน การสร้างแบรนด์ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ องค์ประกอบของความเป็นผู้ประกอบการ การตลาด การบริหารเงิน การวางแผนธุรกิจ และทักษะการนำเสนอ รวมถึงโอกาสในการสร้างเครือข่ายและต่อยอดการทำธุรกิจกับผู้เข้าร่วมโครงการในรุ่นก่อน ๆ และในสัปดาห์สุดท้ายของการอบรม ทีมสตาร์ทอัพที่มีผลงานโดดเด่นจะได้รับคัดเลือกให้นำเสนอผลงานต่อคณะกรรมการ โดยผู้ชนะ 3 อันดับแรกจะได้รับทั้งเงินรางวัลและสิทธิประโยชน์จากทางพาร์ทเนอร์ของ KATALYST by KBank เพื่อต่อยอดธุรกิจ พร้อมโอกาสการร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยในด้านธุรกิจรวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคดิจิทัล

ทั้งนี้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการและผ่านเกณฑ์ของหลักสูตรทุกท่านจะมีโอกาสได้รับสิทธิประโยชน์พร้อมการสนับสนุนเครื่องมือทางด้านธุรกิจ มูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท รวมทั้งประกาศนียบัตรจาก KATALYST by KBank และประกาศนียบัตรสำเร็จหลักสูตรการเรียนรู้แบบออนไลน์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ซึ่งเป็นใบเบิกทางและโอกาสสำคัญในการขยายเครือข่ายทางธุรกิจกับบริษัทชั้นนำมากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศอีกด้วย

นางสาวขัตติยา กล่าวตอนท้ายว่า จุดเด่นของหลักสูตรนี้ คือ ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้เรียนรู้และลงมือปฏิบัติจริงทุกขั้นตอน โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญถ่ายทอดองค์ความรู้รวมถึงเทคนิคด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านเทคโนโลยี ดีไซน์ และธุรกิจ ทำให้ผู้ประกอบการสามารถผ่านหลักสูตรไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใน 3 ปีที่ผ่านมามีสตาร์ทอัพไทยเรียนจบหลักสูตรทั้งสิ้นกว่า 100 ทีม และมีหลายทีมที่นำองค์ความรู้ที่ได้ในโครงการไปต่อยอดกับธุรกิจจนประสบความสำเร็จ สำหรับปีนี้ ธนาคารจะมุ่งเน้นส่งเสริมเทคสตาร์ทอัพที่มีผลิตภัณฑ์หรือต้นแบบ (Prototype) ที่พร้อมแล้ว ในกลุ่มอุตสาหกรรมการเงิน (FinTech) สิ่งแวดล้อม (ESG และ Green Technology) ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence และ Machine Learning) เทคโนโลยีด้านสุขภาพ (HealthTech) และโซลูชั่นสำหรับองค์กร (Enterprise Solution)

ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดหลักสูตร คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ และสมัครได้ทางเว็บไซต์ของ KATALYST ที่  https://launchpad.klandingservice.com/ หรือติดตามความเคลื่อนไหวของโครงการทางเฟซบุ๊กที่ https://www.facebook.com/KATALYSTbyKBank โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ถึง 31 กรกฎาคม 2566 และเริ่มเรียนตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน ถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2566

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

ทิสโ ก้เปิดตัวประกันชีวิตสะสมทรัพย์ “TISCO My Wish Super Kids” 

ทิสโก้ เปิดตัวประกันชีวิตสะสมทรัพย์ “TISCO My Wish Super Kids” เพื่ออนาคตของบุตรหลาน

CIMB THAI ปลุกพลังผู้บริจาคโลหิต “หน้าใหม่”

CIMB THAI ปลุกพลังผู้บริจาคโลหิต “หน้าใหม่” ก้าวแรกแห่งการให้ เติมเลือดเพียงพอเพื่อสังคม

โตเกียวมารีน และ วิริยะ ขึ้นแท่นผู้นำบริษัทประกันภัยรถยนต์

ผลวิจัยชี้  โตเกียวมารีนประกันภัย และ วิริยะประกันภัย ขึ้นแท่นผู้นำบริษัทประกันภัยรถยนต์ประเภทประกันชั้น 1 ที่น่าพึงพอใจที่สุดในไทย

วิริยะประกันภัย มอบน้ำดื่มและถุงยังชีพ

วิริยะประกันภัย มอบน้ำดื่มและถุงยังชีพ ฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคเหนือ