สายการบินเอมิเรตส์เป็นผู้ดำเนินการเครื่องบินโดยสารแบบลำตัวกว้างรายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งล่าสุดเอมิเรตส์ได้ประกาศคำสั่งซื้อครั้งใหญ่เพื่อขยายฝูงบินและขับเคลื่อนแผนการเติบโตในอนาคตให้สอดคล้องกับวาระเศรษฐกิจดูไบ (D33) ทั้งหมดนี้ ประกอบด้วยคำสั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 777-9s และโบอิ้ง 777-8s จำนวน 90 ลำ รวมถึงโบอิ้ง 787s จำนวน 5 ลำ มูลค่า 52 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเครื่องบินแอร์บัส A350-900 อีก 15 ลำ มูลค่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ขณะนี้ สายการบินเอมิเรตส์มียอดสั่งซื้อเครื่องบินโดยสารแบบลำตัวกว้างทั้งหมด 310 ลำ ซึ่งมีกำหนดการรับมอบเครื่องบินลำใหม่จนถึงปี 2035
นอกจากนี้ สายการบินเอมิเรตส์ยังได้ประกาศการลงทุนมูลค่า 950 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อสร้างศูนย์วิศวกรรมล้ำสมัยแห่งใหม่ที่ Dubai World Central (DWC) ซึ่งสร้างขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อรองรับฝูงบินของเอมิเรตส์และข้อกำหนดในการปฏิบัติงานในช่วงปี 2040 ศูนย์วิศวกรรมแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1 ล้านตารางเมตร โดยจะเป็นศูนย์ที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในอุตสาหกรรมสายการบิน ซึ่งจะช่วยเสริมจุดยืนด้านการบินระดับโลกของดูไบไปอีกขั้น
ทั้งนี้เพื่อให้แน่ใจว่าฝูงบิน A380 ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงยังคงอยู่ในสภาพดีเยี่ยม สายการบินเอมิเรตส์ได้ลงนามในข้อตกลงมูลค่ากว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อยืดอายุการใช้งานของเครื่องบินเจ็ทสองชั้นดังกล่าว นอกจากนี้ สายการบินยังได้ลงนามในข้อตกลงด้านการบำรุงรักษา การซ่อมแซมและบริการยกเครื่อง การจัดหาชิ้นส่วน การซ่อมแซมส่วนประกอบ และการสนับสนุนทางเทคนิค เพื่อให้มั่นใจว่าฝูงบิน A380 ยังคงเป็นไปตามมาตรฐานที่เข้มงวดของเอมิเรตส์ ผ่านความเชี่ยวชาญของพันธมิตรในตลาดหลังการขายด้านการบินและการบริการ MRO เพื่อก้าวไปสู่ทศวรรษหน้าอย่างมั่นคง
จากความตั้งใจในการพัฒนากลุ่มผู้มีความสามารถด้านวิศวกรรมของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สายการบินเอมิเรตส์ พร้อมด้วยสำนักงานการบินพลเรือนทั่วไปของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (GCAA) และที่ปรึกษาและการฝึกอบรมการบินระหว่างประเทศ (IACT) ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) เพื่อดูแลและจัดการโซลูชันการฝึกอบรมตามมาตรฐานที่เฉพาะเจาะจงของสายการบิน
อีกทั้ง สายการบินเอมิเรตส์และโบอิ้งยังได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูงต่าง ๆ ได้แก่ การตรวจสอบเครื่องบินโดยใช้โดรน การใช้เครื่องมือสร้างสิ่งแวดล้อมเสมือน (AR) เพื่อฝึกฝนความแม่นยำและประสิทธิภาพ และการเปิดตัวระบบการบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์รุ่นต่อไป เป็นต้น
นอกจากนี้ สายการบินเอมิเรตส์ และ สายการบินคอนดอร์ ได้จับมือในการให้บริการเที่ยวบินร่วมแบบอินเตอร์ไลน์ เพื่อเพิ่มทางเลือกในการเชื่อมต่อสำหรับลูกค้า ที่สามารถเข้าถึง 70 เส้นทางที่ดำเนินการโดยทั้งสองสายการบินทั่วยุโรป แอฟริกา เอเชีย ออสเตรเลเซีย และตะวันออกกลาง ด้วยบัตรโดยสารเพียงใบเดียว บวกกับการเคลื่อนย้ายสัมภาระแบบไร้รอยต่อ
