การใช้ น้ำมันเชื้อ เพลิงปี 2566 อยู่ที่ 152.30 ล้านลิตร/วัน 

Date:

นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เผยภาพรวมการใช้ น้ำมันเชื้อเพลิง เฉลี่ยเดือนมกราคม – ธันวาคม 2566 อยู่ที่ 152.30 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 0.4 โดยการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เพิ่มขึ้นร้อยละ 50.9 และการใช้ LPG เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 ขณะที่น้ำมันเตา น้ำมันกลุ่มดีเซลและ NGV มีการใช้ลดลงร้อยละ 15.8 ร้อยละ 5.7 และร้อยละ 2.5 ตามลำดับ

การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เดือนมกราคม – ธันวาคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 31.67 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.4 การใช้แก๊สโซฮอล์ 95 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 17.97 ล้านลิตร/วัน และแก๊สโซฮอล์ อี20 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.88 ล้านลิตร/วัน ขณะที่การใช้แก๊สโซฮอล์ 91 แก๊สโซฮอล์ อี85 และเบนซิน ลดลงมาอยู่ที่ 6.89 ล้านลิตร/วัน 0.16 ล้านลิตร/วัน และ 0.46 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ ทั้งนี้ ในปี 2566 รัฐบาลได้มีการประกาศนโยบายปรับลดราคาน้ำมันเบนซินลงทุกประเภทเป็นระยะเวลา 3 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2567 เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน โดยแก๊สโซฮอล์ 91 ลดลง 2.50 บาท/ลิตร เบนซินและแก๊สโซฮอล์ 95 ลดลง 1 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ อี20 และแก๊สโซฮอล์ อี85 ลดลง 80 สตางค์/ลิตร จากการลดภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันกลุ่มเบนซิน และการใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง

การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล เดือนมกราคม – ธันวาคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 68.91 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.7 โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 และน้ำมันดีเซลพื้นฐาน ปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 0.77 ล้านลิตร/วัน 0.15 ล้านลิตร/วัน และ 3.58 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ ขณะที่น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 0.8 เฉลี่ยอยู่ที่ 64.41 ล้านลิตร/วัน แต่เมื่อพิจารณาจากช่วงเดือนที่ผ่านมาปริมาณการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทั้งนี้ ภาครัฐได้มีมาตรการช่วยเหลือราคาน้ำมันดีเซล โดยใช้มาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 2.50 บาท/ลิตร ตามชนิดของน้ำมันดีเซล และกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะเข้าไปชดเชยเพื่อตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 และคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567 เพื่อช่วยค่าครองชีพประชาชน

การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เดือนมกราคม – ธันวาคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 13.50 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 50.9 เนื่องจากการฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยว ประกอบกับรัฐบาลได้มีการประกาศใช้นโยบายฟรีวีซ่า สำหรับนักท่องเที่ยวประเทศจีนและคาซัคสถาน รวมระยะเวลา 5 เดือน (กันยายน 2566 – กุมภาพันธ์ 2567) และประเทศอินเดียและไต้หวันรวมระยะเวลา 6 เดือน (พฤศจิกายน 2566 – พฤษภาคม 2567) ซึ่งคาดการณ์ว่าจะช่วยสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวเดินทางทางอากาศยานเพิ่มมากขึ้น

การใช้ LPG เดือนมกราคม – ธันวาคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 17.60 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 0.6 โดยการใช้ภาคขนส่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 อยู่ที่ 2.27 ล้าน กก./วัน ภาคปิโตรเคมีเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 อยู่ที่ 7.60 ล้าน กก./วัน ขณะที่การใช้ภาคครัวเรือนลดลงร้อยละ 0.05 เฉลี่ยที่ 5.74 ล้าน กก./วัน และภาคอุตสาหกรรมลดลงร้อยละ 1.6  มาอยู่ที่ 2.00 ล้านกก./วัน

การใช้ NGV เดือนมกราคม – ธันวาคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 3.31 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 2.5 ทั้งนี้ ปตท. มีมาตรการบรรเทาผลกระทบราคาพลังงาน โดยร่วมอุดหนุนกลุ่มรถแท็กซี่และกลุ่มรถโดยสารสาธารณะ ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2566 จนถึงสิ้นปี 2566 

การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง เดือนมกราคม – ธันวาคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 1,033,556 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 4.3 คิดเป็นมูลค่าการนำเข้ารวม 96,107 ล้านบาท/เดือน โดยเป็นการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 962,192 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4  คิดเป็นมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 90,754 ล้านบาท/เดือน สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) อยู่ที่ 71,364 บาร์เรล/วัน ลดลงร้อยละ 8.5 คิดเป็นมูลค่าการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ที่ 5,354 ล้านบาท/เดือน 

การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เดือนมกราคม – ธันวาคม 2566 เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG โดยปริมาณส่งออกอยู่ที่ 183,304 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.0 คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 19,199 ล้านบาท/เดือน

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

ยันอีกแล้ว ผู้ทำผิด ตึก สตง. ถล่ม ต้องถูกดำเนินคดีค่ะ

อิงค์ ยันอีกแล้ว ผู้ทำผิด ตึก สตง. ถล่ม ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายค่ะ

รัฐมนตรีคลังจนแต้ม จี้พิจารณาตัวเองด่วน

รัฐมนตรีคลังจนแต้ม ทีมเศรษฐกิจสองนายกรัฐมนตรี ไม่รู้เรื่องรู้ราวเอาเสียเลย แนะนำให้ท่านทบทวนตัวเองและทีมงานเป็นการด่วน

ผลสำรวจ นิด้าโพล เห็นควรปรับ ครม. ทันที

ผลสำรวจ นิด้าโพล เห็นควรปรับ ครม. ทันที ลงความเห็น 2 พิชัย ไม่ควรไปต่อ

ปรับภูมิใจไทยออก: ยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก

ปรับภูมิใจไทยออก เพื่อไทยอยู่ในลักษณะกลืนไม่เข้าขายไม่ออก หรือจะเรียกว่ายักตื้นติดกึกยักลึกติดกัก ก็ได้