ยังไม่จบสำหรับการเดินสายขายฝันของ นายกฯ เซลล์แมน ทำให้ เศรษฐกิจ ยังต้องรอนายกฯ เซลล์แมน กลับมาดูแล เศรษฐกิจไทย ต่อไป
แม้ว่า เสร็จงานเดินสายจากประเทศหนึ่ง นายกฯ เซลล์แมน ก็ขึ้นเครื่องบินช้ามประเทศไปอีกประเทศหนึ่ง เพื่อขายฝันการค้า เศรษฐกิจไทย ต่อไป
หากนายกฯ เซลล์แมน ไม่ได้ควบตำแหน่งขุนคลังด้วย การไปเดินสายทัวร์ต่างประเทศนานแค่ไหน เศรษฐกิจไทย ก็จะไม่เคว้งขนาดนี้ เพราะไม่นายกฯ นักขาย ก็ยังมีขุนคลัง เป็นเสาหลักนำพาเศรษฐกิจไทยเดินให้หลุดพ้นจากวิกฤตได้
แต่เมื่อ นายกฯ เซลล์แมน นั่งทับตำแหน่งขุนคลังอีกตำแหน่งหนึ่งด้วย ทำให้ช่วงเวลาที่นายกฯ เซลล์แมน เพลินเดินสายทัวร์ขายฝันเศรษฐกิจไืทยในต่างแดน ทำให้เศรษฐกิจไทยตกอยู่ในสูญญากาศ เพราะไม่มีทั้งนายก และขุนคลัง ที่จะเป็นหัวเรือนำพาเศรษฐกิจให้เดินต่อได้
ในทางเศราฐกิจ ตำแหน่งขุนคลัง แทบจะมีความสำคัญมากกว่าเศรษฐกิจเสียอีก ในต่างประเทศที่เจริญแล้ว ต่างเลือกคนเก่งการเงินการคลัง มานั่งในตำแหน่งนี้เต็มเวลา
เพราะไม่น่าจะมีนายกฯ ที่ไหนเก่งขนาดนั่งควบตำแหน่งขุนคลัง เพราะไม่นอกจากไม่เกิดประโยชน์กับประเทศแล้วยังสูงสุดแล้ว ยังทำให้เศรษฐกิจได้รับความเสียหายอีก
สำหรับ นายกฯ เซลล์แมนของไทย นอกจากเดินสายเพลินทัวร์ในต่างประเทศ เป็นเวลานานแล้ว กลับมาถึงในประเทศก็ยังเทพจรลงเท้าเดินสายในต่างจังหวัดอีก ทำให้ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา นายกฯ เซลล์แมน แทบไม่ได้เข้ากระทรวงทำหน้าที่ขุนคลังเลย
ที่สำคัญ นายกฯ เซลล์แมน ยังไม่เคยมีวิสัยทัศน์ เรื่องการเก็บรายได้ การปรับโครงสร้างภาษี เพื่อให้เกิดความมั่งคงการเงินการคลังของประเทศในระยะยาว
ตรงข้ามนายกฯ เซลล์แมน ยังมีแผนกู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อมาแจกเงินดิจิทัล ซึ่งขัดกับวินัยการเงินการคลังของประเทศ ซึ่งหากสวมหมวกขุนคลังแบบมืออาชีพแล้ว ย่อมรู้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ หรือไปแล้วได้ไม่คุ้มเสีย
เมื่อนายกฯ เซลล์แมน ยังเลือกที่จะนั่งทับตำแหน่งขุนคลังไว้อย่างนี้ ทำให้เศรษฐกิจไทยตามหาขุนคลังมากขึ้น เพราะการมีขุนคลังแต่ไม่มีเวลานั่งเก้าอี้ทำงานเลย ย่อมเป็นวิกฤตเศรษฐกิจในที่สุด
เพราะไทยตอนนี้ วิกฤตเศรษฐกิจแล้ว ยังมีปัญหาสังคมเกลื่อนเมือง การไม่มีทั้งนายกฯ และขุนคลัง จึงเป็นเรื่องที่น่าห่วงสำหรับเศรษฐกิจและสังคมไทยจะดื่งแย่ลงไปมากกว่านี้