สื่อรับเงินเทา เป็นข่าวที่บาดใจทุกคนที่อยู่ในวงการสื่อสารมวลชน
ศึกสีกากี เรื่องเงินบ่อนพนันออนไลน์ ที่แฉข้อมูลใส่กันไปมาไม่หยุด แม้ว่านายกฯ เซลล์แมน จะโขว์อำนาจย้ายทั้ง 2 ฝ่ายเข้ากรุ และแต่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงเอาผิดต่อไป
แต่ปรากฎว่า การโยกย้ายไม่สามารถสงบศึกได้ เพราะยังมีสงครามตัวแทนสีกากีทั้งสองฝ่ายสู้กันไม่หยุดหายใจ แฉเส้นทางเงินบ่อนออนไลน์ที่ไปถึงบุคคลต่าง สนุกยิ่งกว่าหนังสอบสวน
แต่ต้องมาพีค ตอนที่แฉกันไปมา มีสื่อไปพัวพันเส้นทางของการรับเงินเทาด้วย ถือเป็นมะเร็งร้ายของวงการสื่อมวลชน ที่ตั้งตัวว่าเป็นหมาเฝ้าบ้าน แต่กลับมาพลาดเสียเอง เป็นเรื่องที่ไม่ควรให้อภัย
หากผู้อ่าน ได้อ่านมาถึงตรงนี้ ต้องขอบอกว่า บทความวิพากษ์วิจารณ์ชิ้นนี้ รู้สึกว่าเขียนได้ง่ายกว่าทุกชิ้นที่ผ่านมา เพราะเป็นการตำหนิด้านมือของอาชีพตัวเอง
ซึ่งการเขียนบทความนี้ก็เพื่อให้ผู้ติดตามเว็บไซต์ หรือ เพจข่าวนี้ ได้เข้าใจว่า การเป็นสื่อเราวิพากษ์วิจารณ์นักการเมือง ในเรื่องที่คิดว่าทำไม่ถูกไม่ควรได้อยู่ทุกวันได้
เราก็ต้องกล้าวิพากษ์วิจารณ์ด้านมืดของอาชีพตัวเอง ได้ด้วยเช่นกัน ไม่เช่นนั้นสื่อก็จะกลายเป็นผู้วิเศษ ตำหนิแต่คนอื่น แต่ไม่ตำหนิความผิดของตัวเอง
เรื่องสื่อพัวพันเส้นทางการรับเงินสีเทา เป็นเรื่องใหญ่ ที่วงการสื่อไม่ควรนิ่งเฉย ต้นสังกัดหรือองค์กรต่างๆ ควรตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน และรายงานให้สาธารณะชนได้รับทราบผล เพื่อพิทักษ์ความน่าเชื่อถือของวงการสื่อ ที่ยิ่งวันยิ่งถดถอยไม่แพ้อาชีพนักการเมืองเช่นกัน
วิกฤตสื่อครั้งนี้ นับเป็นบทพิสูจน์สำคัญ ว่าสื่อจะกู้วิกฤต หรือ จะมองข้าววิกฤตเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น วงการสื่อก็จะเสื่อมไปเรื่อยไม่สามารถตรวจสอบนักการเมืองข้าราชการน้ำเสียได้อีกต่อไป
เพราะสื่อเอง ก็ยังไม่สามารถกรองน้ำเสียให้กลับมาเป็นน้ำดี ให้สังคมกลับมาเชื่อถือกระบวนการทำงาน ในการตรวจสอบนักการเมือง ข้ารากชการ หรือ แม้แต่เอกชน ที่เอาเปรียบตักตวงผลประโยชน์ประเทศชาติใส่ตัวเองและพวกพ้อง