เศรษฐกิจไทยตอนนี้แทบไม่เหลือความเชื่อมั่นจากนักลงทัน เนื่องจากนโยยายรัฐบาล เซลล์แมน รวนแล้วรวนอีก ไม่มีความชัดเจนอะไรเลย
การเดินสายต่างประเทศ ดึงนักลงทุนเข้ามา ยังเป็นแค่เสียงตอบรับจับมือถ่ายภาพ แต่เงินลงทุนยังไม่ขนมาจริง
การพักเดินสายต่างประเทศ และเดินสายในประเทศแทน ก็ไม่ได้เรียกความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยได้เพิ่มมากขึ้น เพราะการเดินสายเป็นงานเบี้ยหัวแตก ไปไหนสั่งนั้น ไม่ได้อยู่ในกรอบนโยบายเรือธงที่สัญญาไว้ ทำให้ เซลล์แมน รวนแล้วรวนอีก
พูดง่ายๆ คือ เซลล์แมน หนีเงานโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตที่ตามหลอกหลอนไม่ได้ จากแจกทุกคน คนละหมื่นบาท รวมเป็นเงิน 5 แสนล้านบาท
ผ่านมา 7 เดือน ยังตั้งไข่ไม่ได้ เปลี่ยนไปกลับมาไม่รู้ตรงไหนหัว ตรงไหนหางแล้ว จากแจกทุกคน แจกเป็นบางคน จากไม่ต้องกู้เลย มาเป็นกู้ทั้งก่อน
จากที่เป็นรัฐบาลแจกทันที โรคเลื่อนมาจนหมอไม่รับรักษา จากของขวัญปี 67 มาเป็นตรุษจีน มาเป็นสงกรานต์ เลยมากลางปี จนล่าสุดเลยไปถึงไตรมาส 4 ปีนี้ไปเลย
ส่วนแหล่งเงิน จากที่บอกว่าจะกู้ 5 แสนล้าน ทำไปทำมาจะมาเป็นลูกผสม ใช้งบปี 67 และ 68 ผสมกับเงินกู้ให้ได้ 5 แสนล้านบาท ซึ่งยังไม่มีใครบอกได้ว่าในแง่กฎหมายทำได้หรือไม่
ซึ่งผลที่ตามมาคือ จากที่บอกว่า จะแจกครั้งเดียวหมื่นบาท ทำท่าจะต้องสอยแจกตามเงินที่หาได้เสียแล้ว จากที่ต้องการให้เป็นพายุหมุนเศรษฐกิจ ต้องกลืนน้ำลายกลายเป็นหยอดน้ำข้าวต้มเหมือนรัฐบาลที่ผ่านมาเสียแล้ว
ดิจิทัลวอลเล็ต เผาความเชื่อมั่น รัฐบาลเซลล์แมน แทบไม่เหลือ ยิ่งทำยิ่งพัง จนเป็นที่มาของการปรับ ครม. ใหม่ คาดว่า เซลล์แมนจะเหลือแต่เก้าอี้นายกฯ และปล่อยเก้าอี้ รมว.คลัง ให้คนที่อยากมาโชว์สางแจกเงินดิจิทัล
นอกจากนี้ คาดว่า จะมีการปรับอีกหลายตำแหน่ง ท่ามกลางข่าวลือจะมีการเตะพรรคร่วมออก เอาพรรคฝ่ายค้านมาผสม ทำให้เกิดควาไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมากขึ้นไปใหญ่
ผ่านมา 7 เดือนแล้ว ผลงานรัฐบาลเซลล์แมนแทบไม่มี ขณะที่ปัญหาเศรษฐกินรุมเร้า ค่าไฟแพง ค่าแรงขึ้น ค่าน้ำมันพยุงต่อไม่ไหวเพราะถังแตก และยังต้องมาดันทุรังกู้เงิน 5 แสนล้านบาท ทำนโยบายรักษาหน้ารักษาเสียง ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือเปล่า
ในส่วนของภาคการเมืองการปรับ ครม. ยังมากระเพื่อมเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ เห็นที่ผ่านไปปี รัฐบาลเซลล์แมน 1 หรือ เซลล์แมน 2 จะไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน