เคทีซี กำไรไตรมาสแรก 1,803 ล้านบาท

Date:

นางพิทยา  วรปัญญาสกุล  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เคทีซี หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมการดำเนินงานของเคทีซีในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมายังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เนื่องด้วยสภาวะเศรษฐกิจมีความอ่อนตัวลงมากกว่าที่คาด 

อย่างไรก็ตาม เคทีซียังสามารถทำกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมได้เท่ากับ 1,803 ล้านบาท และงบการเงินเฉพาะกิจการ 1,893 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/2566 เท่ากับ 2.4% และ 7.4% ตามลำดับ โดยเชื่อว่ากลยุทธ์การสร้างฐานลูกค้าบัตรเครดิตในกลุ่มที่มีรายได้สูงขึ้น รวมทั้งการคัดกรองคุณภาพพอร์ตทั้งบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล 

ทั้งนี้ สินทรัพย์เคทีซี ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 พอร์ตสินเชื่อรวมขยายตัวสร้างรายได้เติบโตดี และมีปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งสามารถรักษาคุณภาพสินทรัพย์ได้ดี โดยมีฐานสมาชิกรวม 3,423,147 บัญชี เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับรวม 105,347 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 2.0%) อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวม (NPL) 2.0% แบ่งเป็นสมาชิกบัตรเครดิต 2,695,453 บัตร (เพิ่มขึ้น 4.0%) เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้บัตรเครดิตและดอกเบี้ยค้างรับรวม 69,213 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 2.3%) NPL บัตรเครดิตอยู่ที่ 1.2% ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรมูลค่า 69,419 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 8.5%) สมาชิกสินเชื่อบุคคลเคทีซี 727,694 บัญชี (ลดลง 2.6%) เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้สินเชื่อบุคคลและดอกเบี้ย     ค้างรับรวม 33,149 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 2.4%) NPL สินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 2.1% และลูกหนี้ตามสัญญาเช่าในบริษัท กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง จำกัด (KTBL) 2,985 ล้านบาท (ลดลง 9.6%) เนื่องจากได้หยุดปล่อยสินเชื่อใหม่ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 แล้ว ในส่วนยอดลูกหนี้ใหม่ (New Booking) ของสินเชื่อ “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” เท่ากับ 611 ล้านบาท ขยายตัว 82.6% 

ในส่วนของรายได้รวมช่วงไตรมาส 1/2567 เพิ่มขึ้น 11.7% จากช่วงเดียวกันของปี 2566 เท่ากับ 6,763 ล้านบาท ทั้งจากรายได้ดอกเบี้ยรวม (รวมรายได้ค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงิน) รายได้ค่าธรรมเนียม และหนี้สูญได้รับคืนที่เพิ่มขึ้น 5.4% 14.7% และ 26.7% ตามลำดับ ขณะที่ค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น 20.4% จากช่วงเดียวกันของปี 2566 เท่ากับ 4,504 ล้านบาท ตามการขยายตัวของปริมาณธุรกรรม พอร์ตสินเชื่อรวม และการลงทุนพัฒนาระบบงาน รวมถึงมูลค่าการตัดหนี้สูญที่มากขึ้นจากการเปลี่ยนกรอบเวลาการตัดหนี้สูญให้เร็วขึ้น เพื่อให้พอร์ตสินเชื่อรวมหลังสิ้นสุดการใช้เกณฑ์ผ่อนปรนการจัดชั้นลูกหนี้ NPL สะท้อนภาพความเป็นจริงมากขึ้น โดยแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหาร 2,369 ล้านบาท ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) 1,683 ล้านบาท และต้นทุนทางการเงิน 451 ล้านบาท โดยมีอัตราค่าใช้จ่ายในการบริหารรวมต่อรายได้ (Cost to Income Ratio) ที่ 35.0% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2566 อยู่ที่ 32.8%

นอกจากนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 กลุ่มบริษัทมีเงินกู้ยืมทั้งสิ้น 59,344 ล้านบาท โดยมีโครงสร้างแหล่งเงินทุนเป็นเงินกู้ยืมระยะสั้น (รวมส่วนของเงินกู้ยืมและหุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระภายในหนึ่งปี) และเงินกู้ยืมระยะยาว คิดเป็นสัดส่วน 23.3% ต่อ 76.7% อัตราส่วนของหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 1.83 เท่า ลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ 2.0 เท่า ซึ่งต่ำกว่าภาระผูกพัน (Debt Covenants) ที่ 10 เท่า และมีวงเงินสินเชื่อคงเหลือ (Available Credit Line) 24,990 ล้านบาท

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

ก.ล.ต. ฟ้องปั่นหุ้น THE ปรับ 18.9 ล้านบาท

ก.ล.ต. ขอให้พนักงานอัยการฟ้องผู้กระทำความผิด 1 ราย ต่อศาลแพ่ง กรณีสร้างราคาหุ้น THE ปรับ 18.9 ล้านบาท

ไทยออยล์ แจง ถูกผู้ถือหุ้นฟ้องทำผิดกฎหมาย

บริษัท ไทยออยล์ ทำหนังสือแจงตลาดหลักทรัพย์ ปมถูกผู้ถือหุ้นฟ้องดีเอสไอ และ ก.ล.ต. ผู้บริหารทำผิดกฎหมายการลงทุน

ได้ชื่อ ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ แล้ว

พิชัย เผยชื่อ ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ถึงมือแล้ว เอาเข้า ครม. 1-2 สัปดาห์ ไม่กังวลคนต้าน “กิตติรัตน์”

แจกเงินเด็ก คนละ 600 บาท ตั้งแต่อยู่ในท้อง 4 เดือน

ครม. ไฟเขียว แจกเงินเด็ก ตั้งแต่อายุครรภ์ 4 เดือน-6 ปี ให้คนละ 600บาท เพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันได เบี้ยความพิการ  1,000 บาทแบบถ้วนหน้า