การใช้ น้ำมันเชื้อเพลิง รอบครึ่งปีแรกของปี 2567

Date:

นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เผยภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงรอบครึ่งปีแรกของปี 2567 เฉลี่ยเดือนมกราคม – มิถุนายน อยู่ที่ 156.68 ล้านลิตร/วัน ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 0.05 โดยน้ำมันเตามีการใช้ลดลงร้อยละ 19.7 NGV ลดลงร้อยละ 16.8 และน้ำมันกลุ่มเบนซินลดลงร้อยละ 0.9 ขณะที่การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.0 LPG เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ณ สถานีบริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0

การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เดือนมกราคม – มิถุนายน 2567 เฉลี่ยอยู่ที่ 31.67 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกัน ของปีก่อนร้อยละ 0.9 โดยการใช้แก๊สโซฮอล์ อี85 ลดลงมาอยู่ที่ 0.07 ล้านลิตร/วัน เบนซิน ลดลงมาอยู่ที่ 0.42 ล้านลิตร/วัน แก๊สโซฮอล์ อี20 ลดลงมาอยู่ที่ 5.50 ล้านลิตร/วัน และแก๊สโซฮอล์ 95 ลดลงมาอยู่ที่ 17.60 ล้านลิตร/วัน ขณะที่ปริมาณการใช้แก๊สโซฮอล์ 91 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 7.76 ล้านลิตร/วัน ปริมาณการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินที่ลดลงอาจเนื่องมาจากปัจจัยด้านฤดูกาลการเติบโตของยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเปิดใช้รถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองซึ่งเชื่อมโยงกับสายอื่น ๆ ส่งผลให้ปริมาณการใช้มีการปรับตัวลดลง

การใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ณ สถานีบริการ เดือนมกราคม – มิถุนายน 2567 เฉลี่ยอยู่ที่ 68.61 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.0 โดยน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดามีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 3.0 มาอยู่ที่ 68.46 ล้านลิตร/วัน และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 2.5 มาอยู่ที่ 0.15 ล้านลิตร/วัน ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 33 บาท/ลิตร จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2567 ผ่านการบริหารเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 

การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เดือนมกราคม – มิถุนายน 2567 เฉลี่ยอยู่ที่ 15.74 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 17.0 โดยมีปัจจัยมาจากการฟื้นตัวในภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจจากปีก่อน ประกอบกับนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวของรัฐบาล เช่น นโยบายฟรีวีซ่า การเพิ่มเที่ยวบินพิเศษในช่วงเทศกาล การลดหย่อนภาษีสำหรับพื้นที่ท่องเที่ยวเมืองรอง อีกทั้งคณะรัฐมนตรีมีมติปรับมาตรการอนุญาตให้ชาวต่างชาติจาก 93 ประเทศ เดินทางเข้าราชอาณาจักรได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า (สามารถพำนักในประเทศไทยไม่เกิน 60 วัน) เพื่อเป็นไปตามเป้าหมายที่มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยว โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป คาดว่ามาตรการนี้จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น

การใช้ LPG เดือนมกราคม – มิถุนายน 2567 เฉลี่ยอยู่ที่ 18.35 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 3.7 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของภาคปิโตรเคมี ร้อยละ 8.7 มาอยู่ที่ 8.38 ล้านกก./วัน ภาคขนส่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 มาอยู่ที่ 2.32 ล้านกก./วัน โดยปริมาณการใช้ LPG มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากการดำเนินงานของภาคปิโตรเคมี ในขณะที่การใช้ในภาคอุตสาหกรรมลดลงร้อยละ 3.3 มาอยู่ที่ 1.96 ล้านกก./วัน และภาคครัวเรือนลดลงร้อยละ 0.3 มาอยู่ที่ 5.70 ล้านกก./วัน 

การใช้ NGV เดือนมกราคม – มิถุนายน 2567 เฉลี่ยอยู่ที่ 2.90 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของ

ปีก่อนร้อยละ 16.8 ทั้งนี้ ปตท. มีมติเห็นชอบแผนช่วยเหลือราคา NGV ในระยะ 2 ปี โดยปัจจุบันดำเนินการอยู่ในระยะที่ 2 (1 กรกฎาคม 2567 – 31 ธันวาคม 2568) ซึ่งเป็นการตรึงราคาให้กับกลุ่มรถแท็กซี่และรถโดยสารสาธารณะที่ถือบัตรสิทธิประโยชน์ฯ โดยสิทธิประโยชน์จะแตกต่างไปตามประเภทของรถ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการกลุ่มรถโดยสาร สำหรับกลุ่มผู้ใช้รถทั่วไป ราคาจะเป็นไปตามกลไกตลาด หลังจากถูกตรึงมาเป็นระยะเวลา 6 เดือน (ตั้งแต่ มกราคม ถึง มิถุนายน 2567)

การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง เดือนมกราคม – มิถุนายน 2567 เฉลี่ยอยู่ที่ 1,045,345 บาร์เรล/วัน ลดลง

จากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 2.3 คิดเป็นมูลค่าการนำเข้ารวม 99,470 ล้านบาท/เดือน โดยเป็น

การนำเข้าน้ำมันดิบ อยู่ที่ 982,242 บาร์เรล/วัน ลดลงร้อยละ 0.9 คิดเป็นมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 94,683 ล้านบาท/เดือน สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) อยู่ที่ 63,102 บาร์เรล/วัน ลดลงร้อยละ 19.5 คิดเป็นมูลค่าการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ที่ 4,787 ล้านบาท/เดือน 

การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เดือนมกราคม – มิถุนายน 2567 เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล 

น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG โดยมีปริมาณส่งออกอยู่ที่ 162,741 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 16,832 ล้านบาท/เดือน

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

ยันอีกแล้ว ผู้ทำผิด ตึก สตง. ถล่ม ต้องถูกดำเนินคดีค่ะ

อิงค์ ยันอีกแล้ว ผู้ทำผิด ตึก สตง. ถล่ม ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายค่ะ

รัฐมนตรีคลังจนแต้ม จี้พิจารณาตัวเองด่วน

รัฐมนตรีคลังจนแต้ม ทีมเศรษฐกิจสองนายกรัฐมนตรี ไม่รู้เรื่องรู้ราวเอาเสียเลย แนะนำให้ท่านทบทวนตัวเองและทีมงานเป็นการด่วน

ผลสำรวจ นิด้าโพล เห็นควรปรับ ครม. ทันที

ผลสำรวจ นิด้าโพล เห็นควรปรับ ครม. ทันที ลงความเห็น 2 พิชัย ไม่ควรไปต่อ

ปรับภูมิใจไทยออก: ยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก

ปรับภูมิใจไทยออก เพื่อไทยอยู่ในลักษณะกลืนไม่เข้าขายไม่ออก หรือจะเรียกว่ายักตื้นติดกึกยักลึกติดกัก ก็ได้