ออมสิน เปิดแผนธุรกิจ 4 ปี ตั้งเป้าปรับลดกำไรช่วยสังคม

Date:

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการธนาคารออมสินมีมติอนุมัติต่อสัญญาจ้างให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เป็นสมัยที่ 2 มีผลเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งเห็นชอบกรอบทิศทางการดำเนินงานธนาคารระยะ 4 ปี (2568 – 2572) ที่ก้าวต่อไปของธนาคารออมสินจะยังคงจุดยืนการเป็นธนาคารเพื่อสังคม โดยตั้งเป้าปรับลดกำไรลงมาอยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อขยายผลการสร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อสังคม (Social Impact) ซึ่งจะทำให้ธนาคารสามารถทำภารกิจและโครงการช่วยเหลือประชาชนและสร้างประโยชน์ให้สังคมได้มากขึ้น ผ่านบทบาทพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ได้แก่ 1) บทบาทการเพิ่ม/ขยายโอกาสเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างทั่วถึง 2) บทบาทการแก้ปัญหาหนี้สิน 3) บทบาทการพัฒนาชุมชน/สังคม และ 4) บทบาทการสนับสนุนภาครัฐดำเนินนโยบายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นบทบาทใหม่ที่จะช่วยขับเคลื่อนขยายผลการสร้าง Social Impact ทั้งในเชิงลึกและวงกว้างมากขึ้น เป็นการทำให้เกิดความชัดเจนว่าบทบาทการช่วยเหลือสังคมทั้ง 4 ด้านนี้  มีความสำคัญเหนือกว่าภารกิจการสร้างอัตรากำไรทางธุรกิจ 

นอกจากนี้ ธนาคารวางแผนเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐแห่งแรก ที่มีการบริหารงานแบบกลุ่มธุรกิจ  ประกอบด้วย บริษัท มีที่มีเงิน จำกัด ให้บริการสินเชื่อที่ดินและขายฝาก บริษัท บริหารสินทรัพย์อารีย์ จำกัด ดำเนินธุรกิจบริหารจัดการหนี้ NPL และ NPA บริษัท เงินดีดี จำกัด ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลกลุ่มลูกค้าฐานราก ผ่านแอปพลิเคชัน “Good Money” และบริษัท จีเอสบี ไอที แมเนจเมนท์ จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อยกระดับความสามารถด้านเทคโนโลยีสนับสนุนธนาคาร 

ทั้งนี้ ด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาล ภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ได้เห็นชอบการปรับเป้าหมายการดำเนินงานของธนาคาร ทำให้ธนาคารสามารถออกมาตรการหรือจัดทำโครงการที่สร้างผลลัพธ์เชิงบวกได้มากขึ้น อาทิ โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) โครงการสินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ รวมถึงมาตรการลดดอกเบี้ยเพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย และแก้ปัญหาหนี้สิน 

จากความสำเร็จของ “ธนาคารเพื่อสังคม” ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันธนาคารสามารถสร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อสังคม มีผู้ได้รับประโยชน์ผ่านโครงการและมาตรการต่าง ๆ เช่น การช่วยประชาชนกลุ่มเครดิตต่ำและไม่มีเครดิตให้เข้าถึงแหล่งเงินในระบบแล้วกว่า 3 ล้านคน มีผู้เข้าถึงดอกเบี้ยที่เป็นธรรมแล้วกว่า 5 ล้านคน เป็นต้น โดยธนาคารมีความมั่นคงแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจด้วยปริมาณเงินสำรองรวมเพิ่มขึ้นแตะระดับ 125,948 ล้านบาท และมีฐานลูกค้ารวม 24 ล้านรายในปัจจุบัน ทั้งนี้ การเดินหน้าภารกิจตามจุดยืนธนาคารเพื่อสังคม และตั้งเป้าขยายผลการสร้าง Social Impact ในอีก 4 ปีข้างหน้า จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการเงินและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม 

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

“ธนารักษ์” เปิดตัวโครงการ Clean Energy

“ธนารักษ์” เปิดตัวโครงการ Clean Energy ต้นแบบการใช้พลังงานสะอาดในที่ราชพัสดุ  พร้อมลงนาม MOU กับกองทัพเรือจัดทำโครงการนำร่อง

บสย. ได้รับเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติ ESG DNA

บสย. ได้รับเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติ โครงการ ESG DNA จากตลาดหลักทรัพย์ฯ

เร่งเบิกใช้งบกระตุ้น 1.57 แสนล้านบาท

เร่งเบิกใช้งบกระตุ้น 1.57 แสนล้านบาท พบใช้ไม่ทัน 2.6 หมื่นล้านบาท ให้สำนักงบโยกไปไว้งบเบิกฉุกเฉิน

SME D Bank เติมพลังเอสเอ็มอีไทยในงาน ‘SME D Market’

SME D Bank เติมพลังเอสเอ็มอีไทยในงาน ‘SME D Market’ ประจำเดือน ส.ค.68  ช่วยผู้ประกอบการ สร้างรายได้ ขยายตลาด ปลุกกำลังซื้อ กระตุ้นเศรษฐกิจไทย