นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER ผู้ประกอบกิจการโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช Specialty Hospital ผู้นำอุตสาหกรรมด้านความงามของประเทศไทยและเอเชีย เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจของ MASTER ในช่วงครึ่งปีหลังยังมีมุมมองเชิงบวกและน่าจะเติบโตต่อเนื่อง เนื่องจากธุรกิจจะเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน โดยเฉพาะไตรมาส 3/2567 จะมีอัตราการเติบโตมากขึ้น และปกติจะเติบโตสูงสุดของปี ประกอบกับได้รับอานิสงส์จากอุตสาหกรรมความงามโดยรวม ในประเทศเติบโต 8-10%
นอกจากนี้ประเมินว่าทิศทางการเติบโตต่อเนื่องไปยังแนวโน้มไตรมาส 4/2567 โดยสอดคล้องกับการขยายห้องผ่าตัดใหม่ และลูกค้าที่เข้ามาทำหัตถการอย่างต่อเนื่อง ผ่านการทำการตลาดของบริษัท ขณะที่ความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น จากการบริหาร ค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
“คาดครึ่งปีหลัง 2567 จะดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังโดยปกติ คนจะเริ่มจับจ่ายใช้สอย และการใช้จ่ายจะสูงกว่าครึ่งปีแรก สอดคล้องกับการที่บริษัทได้ขยายฐานการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งคาดจะช่วยให้ยอดใช้จ่ายการทำศัลยกรรม โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นประมาณ 8% ทั้งนี้คาดว่าการลงโฆษณาจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ ซึ่งแผนการลงโฆษณาเป็นไปตามปกติที่จะเน้นลงโฆษณาในไตรมาส 2 เช่นในปี2566 เนื่องจากผู้ใช้บริการจะใช้เวลาในการตัดสินใจทำศัลยกรรมหลังเห็นโฆษณาประมาณ 3-6 เดือน และคาดว่าจะเห็นผลชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง” นางสาวลภัสรดา กล่าว
ทิศทางของลูกค้าต่างชาติมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ โดยสัดส่วนลูกค้าในประเทศ 75.4%และสัดส่วนลูกค้าต่างชาติอยู่ที่ 24.6%
สำหรับเป้าหมายในปี 2567 MASTER วางแผนเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อน โดยเน้นเติบโตทั้งด้าน Organic และ Inorganic พร้อมกันนี้ MASTER ยังมองการเติบโตด้วยกลยุทธ์แบบ Merger and Partnership (M&P) ภายใต้กลยุทธ์ Cross Boder – Cross Selling และ Cross Synergy ซึ่งจะเป็นแรงสนับสนุนการสร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน เป็นรายได้ที่เข้ามาเพิ่มเติมนอกเหนือจากรายได้หลักของ MASTER
ด้านบล. เอเซีย พลัส ออกบทวิเคราะห์ บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER ซึ่งเป็นผู้นำในวงการศัลยกรรมความงามด้วยมาตรฐานระดับสากล มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขากว่า 142 คน ผ่านเครือพันธมิตรทั้งหมด 91 สาขา ครอบคลุม 60% ของพื้นที่ในประเทศไทยพร้อมด้วยประสบการณ์การผ่าตัดด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้บริการทุกช่วงวัย ขับเคลื่อนธุรกิจสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดความงามที่มีศักยภาพสูง
สำหรับแนวโน้มการเติบโตในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าจะมาจากทั้ง Organic และ Inorganic growth ภายใต้กลยุทธ์ Merger and Partners เพื่อวางตำแหน่งเป็น Specialty hospital
ฝ่ายวิจัยคาดการณ์กำไรในปี 2567-2571 จะเติบโตเฉลี่ย 18% ต่อปี ประเมินราคาเหมาะสมอยู่ที่ 65 บาท/หุ้น ให้น้ำหนักการลงทุน Outperform