นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” ระบุว่า
17 ปีผ่านไป “ทักษิณ” ยังขี้โม้เหมือนเดิม
ผมได้ติดตามนายทักษิณ ชินวัตร แสดงวิสัยทัศน์ในรอบ 17 ปี บนเวที Vision for Thailand 2024 ในหัวข้อ “ทิศทางเศรษฐกิจจะขับเคลื่อนไปอย่างไร ทิศทางการเมืองไทยนับต่อจากนี้“ ท่ามกลางผู้เข้าร่วมฟัง ซึ่งมีทั้งคนใกล้ชิดในแวดวงการเมือง นักธุรกิจจำนวนมาก และได้เปิดประเด็นว่า ไปอยู่เมืองนอกเสียนาน 17 ปี กลับไปเรียน Post-Doctoroal (นักวิจัยหลังจบปริญญาเอก) ตอนบินกลับมาเครื่องบินผมมันบินช้า กว่าจะถึงบ้านใช้เวลา 6 เดือน แวะโรงพยาบาลตำรวจก่อน แสดงให้เห็นถึงจิตใต้สำนึกของนายทักษิณ ยังฝังใจไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม ทั้งที่คนทั้งประเทศต่างสงสัยและตั้งคำถามว่า เวลาที่ช้าไป 6 เดือน ทำไมนายทักษิณไม่แวะที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ก่อนจะกลับบ้าน
การแสดงวิสัยทัศน์ของ นายทักษิณ ในครั้งนี้ไม่ต่างอะไรกับการแถลงนโยบายของรัฐบาลอุ๊งอิ๊งฉบับย่อ เหมือนเป็นการฉายหนังตัวอย่าง ก่อนหนังเรื่องจริงจะออกฉายในโรงหนัง หรือก่อนที่นโยบายรัฐบาลฉบับสมบูรณ์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะแถลงในที่ประชุมรัฐสภาช่วงเดือนกันยายนนี้
ผมได้ติดตามรับฟังการพูดของนายทักษิณตั้งแต่ต้นจนจบ ปัญหาต่างๆที่นายทักษิณนำมาเสนอก็เป็นปัญหาเดิมๆ ที่มีการพูดกันมายาวนาน เช่นโครงการครัวไทยไปครัวโลก พูดกันมา 20 กว่าปีแล้ว โครงการเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งถกเถียงกันมาเป็นเวลายาวนาน เรื่องธุรกิจใต้ดินที่ผิดกฎหมาย ก็เป็นเรื่องที่นายทักษิณคิดมาตั้งแต่ยุครัฐบาลทักษิณ การแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ตให้กลุ่มเปราะบาง กลุ่มคนพิการ ซึ่งปรับเปลี่ยนเป็นการแจกเงินสด ซึ่งในอดีตที่ผ่านมานายทักษิณเคยต่อต้าน และโจมตีรัฐบาลที่แจกเงินว่า คนมีปัญญาเขาไม่แจกเงินกัน แต่รัฐบาลชุดนี้กลับมีนโยบายแจกเงินเสียเอง
ในช่วงสนทนากันนายทักษิณได้แสดงความเห็น เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย ซึ่งต้องถามว่า พรรคเพื่อไทยประกาศจะแก้รัฐธรรมนูญให้เสร็จภายใน 1 ปี จนถึงวันนี้ล่วงเลยมา 1 ปี การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ยังไม่เกิดขึ้น มิหนำซ้ำยังมีเงื่อนไขห้ามแก้หมวด 1 และหมวด 2 ด้วย ถ้าหากนายทักษิณและพรรคเพื่อไทย มีความจริงใจก็ รีบทำให้สำเสร็จ เพราะเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากอยู่แล้ว
ในการแสดงวิสัยทัศน์ครั้งนี้ ได้แสดงให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของนายทักษิณ คือผู้มีอำนาจตัวจริงทางการเมืองในยุคนี้ และมีความมั่นใจในตัวเองสูง ยังเป็นคนขี้โม้ โอ้อวดเหมือนเดิม ประกาศว่าเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้งมาเป็นที่ 1 แน่นอน วันเวลาที่เปลี่ยนไป ไม่ได้ทำให้นายทักษิณเปลี่ยนแปลงอะไรเลย