ปรับเกณฑ์ใช้ สินทรัพย์ดิจิทัล ชำระค่าสินค้า

Date:

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ปรับปรุงหลักเกณฑ์การห้ามสนับสนุนการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าหรือบริการ (Means of Payment : MOP) ให้ครอบคลุมผู้ประกอบสินทรัพย์ดิจิทัลทุกประเภทในปัจจุบัน และปรับปรุงหลักเกณฑ์เพื่อให้ผู้ประกอบการเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. สามารถเข้าทดสอบภายใต้โครงการ Programmable Payment Sandbox ของ ธปท. เพื่อส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินดิจิทัล โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2567

 ก.ล.ต. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องและผู้สนใจ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 เกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้บริการของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ต้องไม่มีลักษณะเป็น MOP ให้ครอบคลุมธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลทุกประเภท และการปรับปรุงหลักเกณฑ์เพื่อให้ผู้ประกอบการเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. สามารถเข้าร่วมโครงการ Programmable Payment Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ เพื่อส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินดิจิทัล โดยผู้แสดงความเห็นส่วนใหญ่เห็นด้วย ก.ล.ต. จึงออกประกาศ* โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

(1) ปรับปรุงหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการให้บริการของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ต้องไม่มีลักษณะเป็น MOP เพื่อขยายขอบเขตให้ครอบคลุมผู้ให้บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Custodial Wallet Provider) ซึ่งเป็นธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทใหม่**

(2) ปรับปรุงหลักเกณฑ์เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับความเห็นชอบจาก ธปท. ให้เข้าร่วมการทดสอบในโครงการ Programmable Payment Sandbox สามารถให้บริการหรือกระทำการอันมีลักษณะเป็น MOP ภายใต้การทดสอบดังกล่าวได้ 

(3) ปรับปรุงบัญชีรายชื่อคริปโทเคอร์เรนซีที่สำนักงาน ก.ล.ต. ประกาศกำหนด ซึ่งผู้เสนอขายโทเคนดิจิทัล ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล และผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล สามารถรับเป็นการตอบแทนหรือในการทำธุรกรรม เพื่อรองรับการดำเนินการเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลในโครงการ Programmable Payment Sandbox 

ทั้งนี้ ประกาศหลักเกณฑ์ดังกล่าวมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2567 เป็นต้นไป

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

STELLA ไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนด

STELLA ไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนด บล.เคพีเอ็ม ย้ำการเงินมั่นคง

TBN พร้อมคัมแบ็ค ตั้งธงรายได้ปี 68 โต 30-35%

TBN พร้อมคัมแบ็ค ตั้งธงรายได้ปี 68 โต 30-35% แบ็คล็อกแน่นเฉียด 400 ล้านบาท เดินหน้าลุยงานภาครัฐ-เอกชน

NCAP กางแผนปี 68 วางเป้าพอร์ตสินเชื่อโตไม่น้อยกว่า 10%

NCAP กางแผนปี 68 วางเป้าพอร์ตสินเชื่อโตไม่น้อยกว่า 10% เสริมแกร่งธุรกิจ รุกจำนำทะเบียนเล่มรถจักรยานยนต์ ภายใต้ Next Money

“พิชัย” สั่งคุมเข้มราคาสินค้า

คุมเข้มราคาสินค้า! “พิชัย” สั่งการกรมการค้าภายใน ร่วมมือพาณิชย์จังหวัด ติดตามราคาสินค้าใกล้ชิด ลดค่าครองชีพ ลดรายจ่ายประชาชน