“นภินทร” บุกตลาดอัญมณีฮ่องกง 

Date:

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้นำคณะผู้บริหารสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT เยือนฮ่องกง เพื่อสำรวจตลาดอัญมณี โดยได้พบ 2 บริษัทผู้ผลิตเครื่องประดับที่มีชื่อเสียง ได้แก่ บริษัท Luk Fook Jewellery และ Chow Tai Fook โดยหลังจากการพบหารือ 

นายนภินทร ได้เปิดเผยว่า “สำหรับการมาฮ่องกงในครั้งนี้ผมกับคุณสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการ GIT ได้เข้าพบบริษัท Luk Fook Jewellery แบรนด์เครื่องประดับ Fine Jewelry ที่มีชื่อเสียงในฮ่องกง และได้รับการยอมรับเรื่องสินค้าคุณภาพสูง ผลิตและจำหน่ายสินค้า เครื่องประดับทองคำ เพชร และหยก เพื่อหารือเรื่องเทรนด์การผลิตอัญมณีและเครื่องประดับในตลาดจีนปัจจุบัน รวมถึงกลยุทธ์และการจัดการธุรกิจที่ส่งผลให้เกิดการขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว ทั้งในฮ่องกง จีน และมาเก๊า รวมถึงการเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยโอกาสนี้ผมได้เชิญชวน บริษัท Luk Fook Jewellery มาลงทุนในด้านการผลิตที่ไทย โดยตั้งโรงงานในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนช่างฝีมือไทยอีกด้วย ปัจจุบัน บริษัท Luk Fook Jewellery มีสาขาเกือบ 4000 สาขา ทั่วโลก และบริษัท มีความสนใจอย่างยิ่งที่จะมาตั้งโรงงานในไทยเพื่อเป็นศูนย์กลางส่งออกไปยังยุโรปและอเมริกา”

นอกจากนี้ รมช.นภินทรฯ และคณะยังได้พบกับ Chow Tai Fook กลุ่มบริษัทเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงในฮ่องกง โดยในปัจจุบัน GIT มีความร่วมมือในการตรวจสอบออกใบรับรองและการจัดหลักสูตรฝึกอบรมด้านอัญมณีศาสตร์ให้กับพนักงานใน บริษัท  Chow Tai Fook อาทิ หลักสูตรตรวจสอบทับทิมและแซฟไฟร์ ทั้งด้านตรวจคุณภาพ และตรวจการปรับปรุงคุณภาพ และการใช้เครื่องมือขั้นสูงในการตรวจสอบซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ค้าปลีกเครื่องประดับรายใหญ่ของโลก 

โดยนายนภินทรฯ กล่าวว่า “ผมได้หารือแลกเปลี่ยนสถานการณ์การเติบโตของตลาดอัญมณีและเครื่องประดับ และการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง เพื่อนำมาปรับใช้กับผู้ประกอบการไทย และเชิญชวนให้ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเครื่องประดับของ Chow Tai Fook เนื่องจากไทยมีความพร้อม ในเรื่องของช่างฝีมือ นักวิชาการ ที่มากความสามารถ และยังเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับการสนับสนุนโดยรัฐบาลไทยอีกด้วย”

ปัจจุบันฮ่องกงเป็นตลาดคู่ค้าอัญมณีกับไทยโดยภาพรวมมูลค่าการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทย (ไม่รวมทองคำ) ในรอบ 7 เดือนแรกของปี 2567  มีมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.65 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยไทยสามารถส่งออกไปยังฮ่องกง สหรัฐอเมริกา อินเดียเยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ เบลเยียม และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดสำคัญ

สำหรับการส่งออกไป ฮ่องกง ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น เนื่องจากการ ส่งออกสินค้าหลักอย่างพลอยเนื้อแข็งเจียระไน รวมทั้งสินค้าสำคัญรองมาอย่างเพชรเจียระไน เครื่องประดับทอง และพลอยเนื้ออ่อนเจียระไน ได้สูงขึ้นร้อยละ 12.67, ร้อยละ 3.89, ร้อยละ 13.56 และร้อยละ 15.81 ตามลำดับ

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

”พิชัย“ ต้อนรับ ทัพนักธุรกิจรายใหญ่สหรัฐฯ

"พิชัย" ต้อนรับ ทัพนักธุรกิจรายใหญ่สหรัฐฯ USABC ชวนลงทุน-ตั้งฐานการผลิตอุตสาหกรรมใหม่ในไทย

นายแพทย์บุญ ได้กระทำในนามส่วนตัวไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับ THG

ก.ล.ต. ชี้ นายแพทย์บุญ ได้กระทำในนามส่วนตัวไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับ THG

บจ. SET งวด 9 เดือน กำไรอ่อนตัวลงจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน

ผลประกอบการ บจ. SET งวด 9 เดือน ได้รับแรงสนับสนุนจากธุรกิจท่องเที่ยว แต่กำไรอ่อนตัวลงจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน จากราคาน้ำมันที่ลดลง

หนี้ครัวเรือน เสียเพิ่มเป็น 1.16 ล้านล้านบาท

หนี้ครัวเรือน เสียเพิ่มเป็น 1.16 ล้านล้านบาท สถาบันการเงินให้กู้เพิ่ม ทำให้ยอดหนี้ครัวเรือนไตรมาสสามลดลง