นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank กล่าวว่า SME D Bank ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงสูงสุด 0.25% ต่อปี ประกอบด้วย ประเภทเงินกู้ยืมสำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate : MRR) ลด 0.25% ต่อปี จาก 8.05% ต่อปี เหลือ 7.80% ต่อปี , ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate : MOR) ลด 0.25% ต่อปี จาก 8.05% ต่อปี เหลือ 7.80% ต่อปี และประเภทเงินกู้ขั้นต่ำ (Minimum Laon Rate : MLR) ลด 0.10% จาก 7.50% ต่อปี เหลือ 7.40% ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป เพื่อช่วยลดภาระให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย รวมถึง ช่วยกระตุ้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศ อีกทั้ง สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่มีมติเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จาก 2.50% ต่อปี เหลือ 2.25% ต่อปี เพื่อช่วยบรรเทาภาระหนี้ให้กับประชาชน และภาคธุรกิจ
ขณะเดียวกัน SME D Bank ยังจะตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากไว้ให้นานที่สุด เพื่อสร้างโอกาสให้หน่วยงาน องค์กร กลุ่มนิติบุคคล สถาบัน หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน มีทางเลือกในการหาแหล่งฝากเงินผลตอบแทนสูง ที่มีความมั่นคงและปลอดภัยสูงสุด
นายพิชิต กล่าวเสริมว่า นอกจากการลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวแล้ว ธนาคารยังพร้อมบริการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำพิเศษ ช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีลดภาระ มีสภาพคล่องเพียงพอ และสนับสนุนให้เดินหน้าสู่ธุรกิจสีเขียวเติบโตอย่างยั่งยืน เช่น สินเชื่อ “SME Green Productivity” ช่วยยกระดับเพิ่มผลิตภาพให้ธุรกิจเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อัตราดอกเบี้ยเพียง 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก เงินสูงสุด 10 ล้านบาท ผ่อนนานสูงสุด 10 ปี อีกทั้ง ปลอดชำระเงินต้นสูงสุด 12 เดือน มีหรือไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ก็กู้ได้ ควบคู่บริการด้านการพัฒนา ผ่านแพลตฟอร์ม “DX by SME D Bank” (dx.smebank.co.th) เสริมแกร่งธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ครบถ้วนในจุดเดียว ทั้งด้านแหล่งความรู้ ที่ปรึกษาธุรกิจ ตลอดจนช่องทางขยายตลาด เพิ่มรายได้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357