กองทัพอากาศอินโดนีเซีย สั่งซื้อเฮลิคอปเตอร์แอร์ 4 ลำ

Date:

กองทัพอากาศอินโดนีเซียได้สั่งซื้อเฮลิคอปเตอร์แอร์บัส เอช145(H145) จำนวน 4 ลำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการปรับปรุงการฝึกอบรมให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น โดยคำสั่งซื้อดังกล่าวประกาศขึ้นในระหว่างงานแสดงทางอากาศนานาชาติบาหลี (Bali International Airshow) ซึ่งจัดขึ้นในสัปดาห์นี้

ภายใต้ข้อตกลงระหว่างกองทัพอากาศอินโดนีเซีย และบริษัท พีที เดอร์กานทารา อินโดนีเซีย (PT Dirgantara Indonesia หรือ PTDI) แอร์บัสจะส่งมอบเฮลิคอปเตอร์ H145 แบบ 5 ใบพัดให้กับทาง PTDI ซึ่งจะเป็นผู้ดูแลในการประกอบ รวมทั้งติดตั้งอุปกรณ์สำหรับทำภารกิจและงานปรับแต่งอื่น ๆ จนเสร็จสิ้น ที่โรงงาน ณ เมืองบันดุง ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อส่งมอบให้กับกองทัพอากาศเป็นครั้งสุดท้าย โดยเฮลิคอปเตอร์ทางการทหารแบบอเนกประสงค์สำหรับรองรับภารกิจหลากหลายเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในการฝึกทางการทหาร  ภารกิจด้านการค้นหาและกู้ภัยขนาดเบา

วินเซนต์ ดูบรูล (Vincent Dubrule) หัวหน้าฝ่ายเอเชียแปซิฟิกของ แอร์บัส เฮลิคอปเตอร์ กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ทางอินโดนีเซียได้เลือกแอร์บัส H145 ลำแรก เข้าร่วมเป็นอากาศยานในฝูงบินสำหรับการฝึกฝูงใหม่ของประเทศ เรามั่นใจอย่างเต็มที่ว่าเฮลิคอปเตอร์ H145 ซึ่งสามารถตอบโจทย์อเนกประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงนี้ จะส่งผลดีในการฝึกนักบินทหาร ขณะเดียวกันก็จะร่วมเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยอีกด้วย เรามุ่งหวังที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรที่เราเชื่อมั่นอย่าง PTDI เพื่อให้การสนับสนุนกับฝูงบินของอินโดนีเซีย”

กีตา อัมเปริอาวัน (Gita Amperiawan) ประธานผู้อำนวยการ PT Dirgantara Indonesia กล่าวว่า“เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่กองทัพอากาศอินโดนีเซียไว้วางใจสั่งซื้อเฮลิคอปเตอร์ H145 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการปรับปรุงการฝึกอบรมให้มีความทันสมัยของประเทศ ความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงแต่เสริมความแข็งเกร่งให้กับการเป็นพันธมิตรระยะยาวระหว่าง PTDI และแอร์บัสเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการจัดหาโซลูชันที่มีทั้งความก้าวหน้าทางนวัตกรรมและความเชื่อมั่นไว้วางใจ สำหรับความต้องการด้านการปฏิบัติการระดับประเทศอีกด้วย ด้วยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดนี้ PTDI จะไม่เพียงแต่สนับสนุนการส่งมอบเฮลิคอปเตอร์ H145 เท่านั้น แต่ยังจะช่วยเพิ่มศักยภาพของเราในแง่ของการบูรณาการและการประกอบอากาศยานในโรงงานของเราอีกด้วย เราเชื่อมั่นว่าความร่วมมือนี้จะสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินแห่งชาติของอินโดเนียเซีย และช่วยรักษาความสัมพันธ์ระหว่าง PTDI และแอร์บัสให้ยืนยาวต่อไป ซึ่งเราจะยังคงมุ่งมั่นเสริมสร้างความแข็งแกร่งเพื่ออนาคตที่ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น”

แอร์บัส เฮลิคอปเตอร์ และประเทศอินโดนีเซียมีความสัมพันธ์ยาวนานมาร่วม 50 ปี โดยเริ่มตั้งแต่ปี  2519 เมื่อ PTDI ได้รับใบอนุญาตในการผลิตเฮลิคอปเตอร์ เอ็นบีโอ-105 (NBO-105) เป็นครั้งแรก และ PTDI ได้กลายเป็นซัพพลายเออร์รายสำคัญสำหรับชิ้นส่วนเฮลิคอปเตอร์แอร์บัส เอช255 (H225) ในส่วนท้ายลำตัวและโครงอากาศยานหลักของแอร์บัส ในปี 2551 และพัฒนาเป็นการผลิตเต็มรูปแบบในอินโดนีเซียในปี 2554 ต่อมาทั้งสองบริษัทได้ขยายความร่วมมือทางอุตสาหกรรมในปี 2560 เพื่อรวมการให้การสนับสนุนและบริการสำหรับฝูงบินเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพอินโดนีเซียโดยเฉพาะ และล่าสุดได้ขยายความร่วมมือเพื่อศึกษาด้านการพัฒนาการผลิตโครงสร้างอากาศยานสำหรับแพลตฟอร์มเฮลิคอปเตอร์ของผู้ผลิต การผลิตเฮลิคอปเตอร์ในขั้นตอนลำดับสุดท้ายให้เสร็จสมบูรณ์ และการเพิ่มความสามารถในการบำรุงรักษา ซ่อมแซม และยกเครื่อง (MRO) ในพื้นที่อีกด้วย

เฮลิคอปเตอร์ H145 รุ่นล่าสุดซึ่งเป็นรุ่นขายดีที่สุดของแอร์บัสนั้น ได้เพิ่มนวัตกรรมใบพัดแบบ 5 ใบเพื่อประกอบภารกิจอเนกประสงค์ ทำให้เฮลิคอปเตอร์ H145 มีความสามารถบรรทุกน้ำหนักเพิ่มขึ้น 150 กิโลกรัม ความเรียบง่ายของการออกแบบใบพัดหลักแบบใหม่ที่ไม่มีลูกปืนทำให้การบำรุงรักษานั้นง่ายขึ้น พร้อมช่วยปรับปรุงความสามารถในการให้บริการและความเชื่อมั่นไว้วางใจ และเพิ่มความสะดวกสบายในการบินสำหรับทั้งผู้โดยสารและลูกเรือ

ปัจจุบันมีเฮลิคอปเตอร์ตระกูล H145 ประจำการอยู่ทั่วโลกมากกว่า 1,700 ลำ ซึ่งมีชั่วโมงบินรวมมากกว่ากว่า 7.9 ล้านชั่วโมง ชุดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์การบินดิจิทัลแบบเฮลิโอนิกส์ (Helionix) ของแอร์บัสซึ่งประกอบด้วยระบบการบินอัตโนมัติ 4 แกนที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งเพิ่มความปลอดภัยและลดภาระงานของนักบิน นอกจากนี้การมีเสียงรบกวนต่ำเป็นพิเศษยังทำให้ H145 เป็นเฮลิคอปเตอร์ที่มีเสียงเงียบมากที่สุดในเฮลิคอปเตอร์รุ่นเดียวกัน ขณะที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับรุ่นคู่แข่งที่เทียบเคียงกัน เฮลิคอปเตอร์ตระกูล H145 ได้ถูกใช้ในการฝึกอบรมบุคลากรทางทหารโดยกองกำลังทั่วโลก ซึ่งรวมถึงกองทัพบกสหรัฐฯ กองทัพสหราชอาณาจักร และกำลังจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพเยอรมันในเวลาอันใกล้นี้

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

กรุงเทพประกันภัย  9 เดือน ปี 2567 กำไร 2,290.7 ล้านบาท

กรุงเทพประกันภัย ประกาศผลการดำเนินงาน 9 เดือน ปี 2567 ทำกำไร 2,290.7 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับรวม 23,122.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.2%

คดีอาญา เพิ่มขึ้นร้อยละ 33.3

สศช. รายงานภาวะสังคมไทยไตรมาสสาม ปี 2567 คดีอาญา เพิ่มขึ้นร้อยละ 33.3

ธอส. ร่วมแสดงความยินดีอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน

นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธอส. ร่วมแสดงความยินดีอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน

อัพเดทสถานการณ์ ตลาดรถยนต์ไทย 

Krungthai COMPASS ชวนอัพเดทสถานการณ์ตลาดรถยนต์ไทย พร้อมวิเคราะห์ 3 ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากยอดขายต่ำสุดในรอบ 15 ปี