นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER ผู้ประกอบกิจการโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช Specialty Hospital ผู้นำอุตสาหกรรมด้านความงามของประเทศไทยและเอเชีย เปิดเผยว่า บริษัทฯ รายงานผลการดำเนินงาน 9 เดือน (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567) มีรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาลอยู่ที่ 1,500 ล้านบาท เติบโต 8.9% จากปี 2566 และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 303 ล้านบาท เติบโต 20% จากปี 2566 โดยมาจากรายได้จากการศัลยกรรม เติบโต 10.9% จากปี 2566 รวมถึงรายได้ในหัตถการศัลยกรรมยกคิ้ว สุขภาพชาย และ ศัลกรรมหน้า เนื่องจากบริษัทฯ ทำการตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีลูกค้าเข้ามารับบริการเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า
สำหรับ 9 เดือน บริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้น เป็น 20.21% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่ทำได้ 18.40% โดยมีสาเหตุมาจากการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น ซึ่งบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการขายลดลง โดยสาเหตุหลักมาจากบริษัทฯ สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายทางการตลาด จากการลดลงของการโฆษณาผ่านทางสื่อออนไลน์ ที่ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น และ Billboard ขนาดใหญ่ที่ลดจุดโฆษณาลง นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากส่วนแบ่งของเงินลงทุนในบริษัทร่วมที่เพิ่มขึ้นและการบริหารค่าใช้จ่ายทางการขายที่ดีขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิที่สูงขึ้น
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567) บริษัทฯ มีรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาลอยู่ที่ 522 ล้านบาท เติบโต 8.9% จากปี 2566 และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 109 ล้านบาท เติบโต 9% จากปี 2566 โดยมีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้น เป็น 20.95% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่ทำได้ 20.82% สอดคล้องกับในไตรมาส 3/2567 ที่บริษัทฯ มีรายได้จากการศัลยกรรมเพิ่มขึ้น 46 ล้านบาท เติบโต 12% จากปี 2566 และมีรายได้เพิ่มขึ้นในหัตถการ สุขภาพชาย ศัลยกรรมยกคิ้ว และศัลยกรรมหน้า
“MASTER ก้าวหน้าอีกขั้นสู่การเป็น “Regional Company” โดยเสริมความร่วมมือกับ MASTER PARTNER ในระดับภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเติบโต และยกระดับความแข็งแกร่งของบริษัทไปยังตลาดอาเซียน เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนในฐานะ Regional Company โดย MASTER ตั้งเป้าหมายในปี 2568 ว่าจะต้องมีสัดส่วนจากลูกค้าต่างประเทศ 40% ของรายได้รวม” นางสาวลภัสรดา กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯ คาดผลดำเนินงานในไตรมาส 4/2567 จะเป็นช่วงสำคัญที่ผลักดันทั้งรายได้และกำไร โดยคาดจะเห็นการเติบโตที่โดดเด่นจากลูกค้าต่างชาติ ด้วยแรงหนุนจากลูกค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ อินโดนีเซีย เมียนมาร์ กัมพูชา และลาว รวมถึงในประเทศเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน (High Season) สอดคล้องกับห้องผ่าตัดใหม่ ที่พร้อมสนับสนุนการเข้ามาทำหัตถการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯ มีความมั่นใจว่าแนวโน้มผลประกอบการช่วงที่เหลือของปีจะเติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง และคาดว่ารายได้ปีนี้โต 20% จากปีก่อน