ซัดรัฐบาล ลดขึ้นภาษีเอื้อคนรวย ทำร้ายคนจน

Date:

“ธีระชัย” ซัดรัฐบาล ปรับภาษีเพื่อคนรวยมากกว่าคนจน

“ธีระชัย” ซัดรัฐบาลทำตามทักษิณ ปรับภาษีเพื่อคนรวยมากกว่าคนจน

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟสบุ๊ก “Thirachai Phuvanatnaranubala – – ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล” ระบุว่า 

คลังปรับภาษีเพื่อคนรวยหรือคนจน?

The Better เผยแพร่แนวคิดรัฐมนตรีคลัง ซึ่งตรงกับที่คุณทักษิณเคยแย้มในเวทีหาเสียง อบจ.

ㆍขึ้นภาษีแวตเป็น 15-25%

ㆍลดภาษีนิติบุคคล 20% เหลือ 15%

ㆍดันจีดีพีปี 2568 โต 5%

ㆍทำงบขาดดุลกระตุ้นลงทุน

ㆍให้แบงก์ชาติลดดอกเบี้ย

ㆍทำค่าเงินบาทให้อ่อนดันส่งออก

ถ้าเป็นแนวคิดจริง ผมเห็นว่าเป็นการปรับภาษีเพื่อคนรวยมากกว่าคนจน

1 การขึ้นภาษีแวตจะกระทบคนจนอย่างกว้างขวาง

รัฐบาลแจกเงินฟรีอุดหนุนการบริโภคแบบมือเติบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จนกระทั่งมาถึงวันนี้ คงตาสว่างแล้วว่าทำให้กระเป๋าฉีก จึงต้องสาละวนหารายได้เพิ่ม เพื่อมาฉุดรั้งไม่ให้ขาดดุลงบประมาณปีนี้และปีต่อๆไปดิ่งลงเหว

ผมเตือนว่าการขึ้นภาษีแวตจะกระทบคนจนอย่างกว้างขวาง ทั้งจากปัญหาชักหน้าไม่ถึงหลังที่รุนแรงขึ้น และจะนำไปสู่เงินเฟ้อ ยิ่งจะทำให้ความหวังที่แบงก์ชาติจะลดดอกเบี้ยเลือนลาง

รวมทั้งเมื่อกำลังซื้อประชาชนลดลง อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจที่รัฐบาลพยายามจะกระตุ้นให้ตัวเลขสูงขึ้น ก็จะกลับแผ่วลง

ผมเองเห็นด้วยที่จะต้องขึ้นภาษีแวตเพื่อเริ่มกระบวนการใช้คืนหนี้สาธารณะ แต่ควรจะขึ้นเพียงเล็กน้อย เช่น 1% 

และควรจะใช้โอกาสนี้ ปรับโครงสร้างภาษีให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้น โดยเพิ่มภาษีแวตสำหรับสินค้าฟุ่มเฟือย เป็นขั้นบันใด อาจจะสูงขึ้นเป็น 15% เป็นต้น

2 การปรับลดภาษีนิติบุคคลเพื่อคนรวย

คุณทักษิณเคยพูดบนเวทีว่า ไทยจำเป็นต้องลดภาษีนิติบุคคลเพื่อแข่งขันกับประเทศอื่น โดยลดลงไปเท่ากับอัตราของประเทศในกลุ่มพัฒนาแล้ว OECD

แนวคิดว่าไทยต้องลดภาษีนิติบุคคลให้เท่ากับประเทศพัฒนาแล้ว เพื่อจูงใจให้นักลงทุนต่างประเทศมาลงทุนในไทยนั้น จะถูกต้อง ก็ต่อเมื่อไทยมีสภาพเศรษฐกิจสังคมเท่ากับประเทศเหล่านั้น

ธุรกิจข้ามชาติมีการถ่ายเทยักย้ายการลงทุนไปมา ระหว่างสหรัฐกับยุโรปและประเทศพัฒนาก้าวหน้าอื่นๆนั้น จะเปรียบเทียบหลายด้าน อัตราภาษี กฎระเบียบที่เอื้ออำนวยต่อการขยายธุรกิจ กติกาแรงงานที่ยืดหยุ่น ต้นทุนพลังงาน การกีดกันการค้า ฯลฯ

แต่ธุรกิจข้ามชาติที่เล็งพิจารณาจะมาลงทุนในไทยนั้น ส่วนใหญ่หวังจะได้รับการส่งเสริมการลงทุนอยู่แล้ว โดยยกเว้นภาษีนิติบุคคลระยะเวลาหนึ่ง 

ดังนั้น รัฐมนตรีคลังจะต้องอธิบายได้ว่าการลดภาษีนิติบุคคลจะช่วยดึงดูดนักลงทุนรายใหม่ได้อย่างไร

ในทางกลับกัน รัฐบาลนี้อาจจะมองเลียนแบบตัวอย่างมาตรการของสหรัฐในสมัยทรัมป์ยุคแรก ที่มีการลดภาษีนิติบุคคลอย่างมาก จาก 35% เหลือ 21% 

ที่ปรากฏว่า ทำให้ตลาดหุ้น Dow Jones พุ่งขึ้นในช่วง 4 ปี จากระดับ 2 หมื่นจุดไปเป็นระดับ 3 หมื่นจุด ทำให้นักลงทุนทั้งคนอเมริกันและคนต่างชาติได้ประโยชน์เต็มที่

ทรัมป์นำเสนอการลดภาษีนิติบุคคลดังกล่าวต่อรัฐสภา โดยอ้างว่าเมื่อนิติบุคคลมีกำไรเก็บอยู่ในมือมากขึ้น ผลประโยชน์ก็จะไหลลงเป็นชั้นน้ำตก 

จะทำให้นายจ้างยินดีจ่ายค่าจ้างสูงขึ้น 

แต่ผลการศึกษากลับพบว่า ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นกระจุกตัวอยู่แต่ในมือนักลงทุน

ด้วยเหตุนี้ ผมจึงเห็นว่า การลดภาษีนิติบุคคลไม่ได้ช่วยดึงดูดนักลงทุนต่างชาติได้มากขึ้น ไม่อาจเทียบเท่ากับการยกระดับทักษะแรงงาน การปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่นในวงราชการ หรือการยกเลิกกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจ ฯลฯ

แต่ในทางกลับกัน มีแต่จะทำให้เกิดประโยชน์แก่คนรวย และกลุ่มนายทุน รวมทั้งรายได้ของรัฐที่หายไป ก็จะก่อปัญหา ไม่มีเงินชำระคืนหนี้สาธารณะที่รัฐบาลนี้ก่อขึ้นด้วย

ผมเสนอให้รัฐมนตรีคลังปรับแนวคิด ควรแก้ไขโครงสร้างภาษีเพื่อให้คนรวยต้องรับผิดชอบภาระต่อสังคมมากขึ้น 

ต่อไป ประชาชนจะได้เข็ดหลาบต่อการเลือกนักการเมืองที่เข้ามาก่อหนี้สาธารณะเพื่อสร้างความนิยม

3 การทำงบประมาณขาดดุล จะกระตุ้นได้แต่เฉพาะการลงทุนภาครัฐ

ถ้ารัฐบาลมุ่งมั่นทำงบประมาณขาดดุล เพียงเพื่อแจกเอาไปอุปโภคบริโภค ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นแก่ประเทศชาติจะไม่มากนัก

ถ้ารัฐบาลเปลี่ยนขาดดุลงบประมาณ ไปเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นแก่ประเทศชาติจะมากและยั่งยืน

ผมเคยแนะนำไว้แล้วว่า ถ้าหากรัฐมนตรีคลังหวังจะกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน ก็ยังไม่จำเป็นต้องไปวุ่นวายกับแบงค์ชาติลดดอกเบี้ย 

แต่ควรจะหารือกับแบงค์ชาติเรื่องนโยบายสถาบันการเงิน เพื่อกระตุ้นให้มีการแข่งขันเพิ่มขึ้น และเปิดประตูให้แก่คนตัวเล็กเข้าถึงระบบมากขึ้น (ดูลิงค์แนบ)

ผมขอแนะนำให้รัฐมนตรีคลังขอความเห็นจากผู้มีความรู้อย่างกว้างขวาง อย่าไปเน้นนโยบายที่สร้างประโยชน์ให้แก่คนรวยหรือกลุ่มนายทุนของพรรคการเมือง

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

กบข. แต่งตั้ง 3 บลจ. เป็นผู้จัดการกองทุนตราสารทุนไทย

กบข. แต่งตั้ง 3 บลจ. เป็นผู้จัดการกองทุนตราสารทุนไทย เพื่อลงทุนช่วยกระจายความเสี่ยง เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน

140 ล้านบาท แก้ฝุ่น ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ

140 ล้านบาท…พูดไม่หมด ??? ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ

ยินดีกับบ้านใหม่ของ พรรคเพื่อไทย

ภาพนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในฐานะหัวหน้าพรรค จุดเทียนในพิธีบวงสรวง แต่ยังต้องมีนายทักษิณ ชินวัตรผู้เป็นพ่อ คอยเป็นพี่เลี้ยงประกบติดตลอดเวลา

กดปุ่ม แจกเงินหมื่น ผู้สูงวัยกว่า 3 ล้านราย

นายกรัฐมนตรีเปิดตัวโครง แจกเงินหมื่น ผู้สูงอายุ โดยมีผู้สูงอายุที่ได้รับสิทธิในโครงการกว่า 3 ล้านราย