“ความท้าทายของเราคือการขยายการผลิตข้าวยั่งยืนและกระตุ้นความต้องการข้าวยั่งยืน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางสิ่งแวดล้อมและเป้าหมายทางสังคมระดับโลกที่วางไว้ร่วมกัน” Inge Jacobs หัวหน้าด้านการจัดหาที่ยั่งยืนนานาชาติของ Mars Food & Nutrition กล่าวในระหว่างการประชุมและนิทรรศการข้าวยั่งยืนระดับโลกครั้งที่ 3 จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ เมื่อไม่นานมานี้
การประชุมและนิทรรศการข้าวยั่งยืนระดับโลกครั้งที่ 3 ที่ผ่านมา จัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ (UNCC) กรุงเทพมหานคร โดยเวทีข้าวยั่งยืน (Sustainable Rice Platform: SRP) งานนี้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญกว่า 240 คนจากทั่วโลกเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับวิธีการเปลี่ยนแปลงวงการข้าวทั่วโลก ขับเคลื่อนความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม ความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ และความเป็นธรรมทางสังคม วิทยากรจากองค์การสหประชาชาติ ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการวิจัย ภาคประชาสังคม พร้อมด้วยแทนจากหน่วยงานต่างๆในประเทศไทย เช่น กรมการข้าว สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ สถาบันเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ มูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ บริษัท แคปปิตอลไรซ์ จำกัด บริษัท ยูนิเวอร์แซล ไรซ์ จำกัด บริษัท อุทัย โปรดิวส์ จำกัด ร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์และความท้าทายในการปฏิบัติตามมาตรฐานข้าวยั้งยืน SRP รวมถึงโอกาสในการขยายการดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงในทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้าวทั้งในไทยและต่างประเทศ โดย มาตรฐานข้าวยั้งยืนของ SRP เป็นมาตรฐานความยั่งยืนภาคสมัครใจสำหรับข้าวมาตรฐานแรกของโลก ซึ่งออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้เกษตรกรตั้งแต่รายย่อยจนถึงรายใหญ่ นำแนวปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพในด้านการบริหารจัดการที่เป็นมิตรกับสภาพภูมิอากาศและยั่งยืนมาใช้
งานครั้งนี้เน้นย้ำถึงความหลากหลายของโครงการที่ช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงวงการข้าวยั่งยืน โดยมีการนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีสำหรับเกษตรกร เครื่องมือการลงทุนและการสนับสนุนทางการเงินในระดับท้องถิ่น และแนวทางความร่วมมือในการลดการปล่อยคาร์บอนในตลาดข้าวทั่วโลก ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถบรรลุผลลัพธ์ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้
การประชุมที่จัดโดยเวทีข้าวยั่งยืนนี้ยังได้มีการอภิปรายถึงปัจจัยการเปลี่ยนแปลง รวมถึงข้อกำหนด กฎระเบียบ การเปลี่ยนแปลงของตลาด การรายงานความยั่งยืนขององค์กร และเครื่องมือทางการเงินที่เป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตของวงการข้าวยั่งยืน
นางสาว กุลศิริ กลั่นนุรักษ์ ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนาข้าว กรมการข้าว กล่าวในพิธีเปิด โดยได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของข้าว ซึ่งไม่เพียงแค่เป็นแหล่งอาหารสำคัญ แต่ยังเป็นหัวใจของวัฒนธรรม เศรษฐกิจ และวิถีชีวิตของไทย “ข้าวเป็นส่วนสำคัญของสังคมไทยมานานหลายศตวรรษ ส่งเสริมการดำรงชีวิตของเกษตรกรหลายล้านคน รักษาวิถีชีวิตและชุมชน และที่สำคัญเป็นส่วนประกอบหลักในอาหารไทยและภาคการส่งออกสินค้าเกษตรของไทย”
“กรมการข้าวมุ่งมั่นที่จะสนับสนุน SRP และเราภาคภูมิใจที่ได้เป็นผู้นำโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการที่มุ่งส่งเสริมข้าวยั่งยืนทั่วประเทศ โดยหนึ่งในโครงการเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก (GEF) และดำเนินการร่วมกับ UNEP, GIZ และ SRP โดยในช่วง 4 ปีข้างหน้า โครงการนี้มีเป้าหมายที่จะอบรมเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 45,000 คนให้ใช้มาตรฐาน SRP”
“ส่งเสริมความร่วมมือเพื่อกระตุ้นการนำแนวทางที่ยั่งยืนและปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำมาใช้ในวงกว้างคือเป้าหมายหลักของ SRP” Dr. Wyn Ellis ผู้อำนวยการ SRP กล่าวในระหว่างพิธีเปิดงาน
“ข้าวตั้งอยู่บนจุดตัดของสองความท้าทายระดับโลก คือ ระบบอาหารที่ยั่งยืนและการดำเนินการต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ SRP มุ่งเน้นแนวทางที่เชื่อมโยงการดำเนินการด้านคาร์บอนและความต้องการของเกษตรกรรายย่อย ผ่านกรอบความยั่งยืนที่ครอบคลุม ทั้งการดำรงชีวิตของเกษตรกรรายย่อย ประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร ความหลากหลายทางชีวภาพ สิทธิของแรงงาน และการเสริมพลังผู้หญิงในห่วงโซ่คุณค่าข้าว”
ในการกล่าวปาฐกถาหัวข้อหลักในงาน Chris Brett หัวหน้าด้านธุรกิจการเกษตร จากกลุ่มธนาคารโลก ได้กล่าวแสดงความยินดีต่อ SRP สำหรับความก้าวหน้าในการเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการดำเนินการระดับโลก และรายงานความเน้นย้ำที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการเงินเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสำหรับภาคข้าวในกลุ่มผู้พัฒนาระดับโลก “เราเดินหน้าทำงานเพื่อใช้ประโยชน์จากการเงินทุนสนับสนุนและตลาดคาร์บอน เพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงในวงการข้าวไปสู่การปฏิบัติที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ”
“เรากำลังก้าวหน้าอย่างมากในการพัฒนาเครื่องมือและนวัตกรรมด้านการเงินที่ส่งเสริมการนำเทคโนโลยีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำมาใช้ในวงกว้าง พร้อมเสริมสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้กับเกษตรกรรายย่อย อย่างไรก็ตาม การสนับสนุนทางการเงินจากภาครัฐและการลงทุนจากภาคเอกชนในระดับที่สูงกว่าจะเป็นสิ่งสำคัญในการบรรลุเป้าหมายเหล่านี้”
ในการกล่าวปาฐกถาหัวข้อหลักของ Dr. Yvonne Pinto ผู้อำนวยการทั่วไปจากสถาบันวิจัยข้าวนานาชาติ (IRRI) ซึ่งเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้ง SRP ได้กล่าวว่า SRP ยืนอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญในบริบทของปัจจัยขับเคลื่อนหลักในระดับโลก “ตลาดโลกสำหรับข้าวยั่งยืนกำลังพัฒนาเนื่องจากการผสมผสานของความต้องการด้านความมั่นคงทางอาหาร ความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สิ่งจูงใจทางเศรษฐกิจสำหรับเกษตรกร ความชอบของผู้บริโภคที่ต้องการความยั่งยืน และการลงทุนอย่างต่อเนื่องในนวัตกรรมทางการเกษตร”
“เรามองเห็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับใหญ่ผ่านข้อปฏิบัติข้าวยั่งยืน และการสร้างเส้นทางสู่การลดคาร์บอนและการกักเก็บคาร์บอนปริมาณมหาศาล พร้อมกับการสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเกษตรกร สิ่งแวดล้อม และสังคม”
วิทยากรได้พูดคุยแลกเปลี่ยนถึงวิธีการที่สมาชิกและพันธมิตรของ SRP ทั่วโลกใช้ในการส่งเสริมข้าวยั่งยืน โดยนำเสนอกรณีศึกษาระดับประเทศและผ่านการอธิปรายจากผู้อภิปรายจากทั่วโลก งานนี้ยังมีการเปิดตัวแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อการตรวจสอบย้อนกลับข้าว SRP ชื่อว่า RiceTrace ยกระดับการดำเนินงานและรับรองมาตรฐานข้าวยั่งยืน และมีการเปิดตัวร่างมาตรฐานข้าวยั่งยืน SRP ฉบับ 3.0 เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมแสดงความคิดเห็น และรายงานความคืบหน้าในการพัฒนา SRP Low Carbon Assurance Module ร่วมกับพันธมิตรหลัก โดยมีเป้าหมายเพื่อวัดและตรวจสอบการลดก๊าซเรือนกระจกในการเพาะปลูกข้าวยั่งยืน นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัวรายงานใหม่จาก IFC สองฉบับ ซึ่งสำรวจโอกาสทางตลาดและการเงินสำหรับข้าวยั่งยืน และการเปรียบเทียบมาตรฐาน SRP กับแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดระดับโลกที่เกี่ยวข้องกับ SRP
เกี่ยวกับเวทีข้าวยั่งยืน (Sustainable Rice Platform: SRP)
เวทีข้าวยั่งยืน (Sustainable Rice Platform: SRP) เป็นความร่วมมือของหลากหลายองค์กรระดับโลก ประกอบด้วยสมาชิกสถาบันกว่า 100 รายจากภาครัฐ ภาคเอกชน การการวิจัย ภาคประชาสังคม และภาคการเงิน SRP ทำงานร่วมกับสมาชิกและพันธมิตรเพื่อมุ่งเน้นการเปลี่ยนแปลงของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้าวทั่วโลก ผ่านการปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรรายย่อย ลดผลกระทบทางสังคม สิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากการผลิตข้าว และนำเสนอความมั่นคงในการจัดหาข้าวที่ผลิตอย่างยั่งยืนให้ตลาดข้าวโลก
SRP ส่งเสริมประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรและความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระบบริเวศข้าว (ทั้งในฟาร์มและตลอดห่วงโซ่คุณค่า) และส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงตลาดโดยสมัครใจผ่านการพัฒนามาตรฐานการผลิตที่ยั่งยืน ตัวชี้วัด แรงจูงใจ และกลไกการเข้าถึงเพื่อส่งเสริมการนำแนวปฏิบัติที่มีการปรับตัวเข้ากับสภาพภูมิอากาศและยั่งยืนมาใช้ในวงกว้างในหมู่เกษตรกรรายย่อย
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเวทีข้าวยั่งยืน ติดต่อ info@sustainablerice.org หรือเยี่ยมชม www.sustainablerice.org