นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” ระบุว่า
ความขัดแย้งในรัฐบาล เกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็ว
หลังจากนายทักษิณ ชินวัตร ได้พูดถึงพรรคอีแอบ ในการสัมมนาพรรคเพื่อไทยที่หัวหิน ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า“พรรคอีแอบ”ที่นายทักษิณพูดนั้น หมายถึงพรรคร่วมรัฐบาลพรรคใด มีการวิเคราะห์กันไปต่างๆนานา แต่ในความคิดของคนทั่วไป น่าจะหมายถึงพรรคร่วมรัฐบาล 2 พรรค ที่เคลื่อนไหวทางการเมืองแตกต่างกับแนวทางของพรรคเพื่อไทยในบางประเด็น ซึ่งเป็นที่รู้กันอยู่ว่า น่าจะหมายถึงพรรคภูมิใจไทย และพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะทั้งสองพรรคมีประเด็นข้อขัดแย้งกับพรรคเพื่อไทยอย่างเห็นได้ชัด เช่น กรณีของพรรคภูมิใจไทยที่มีท่าทีสวนทางกับแนวทางของพรรคเพื่อไทยอยู่หลายครั้ง ล่าสุดกรณีการโหวตสวนมติวิปรัฐบาล วาระพิจารณาพรบ.ประชามติ ทำให้เพจของพรรคเพื่อไทย โพสต์คำว่า”อีแอบ“ขึ้นมาแบบตัวโตๆ และมีแกนนำพรรคเพื่อไทย และส.สหลายคนได้อภิปรายเหน็บแนม พุ่งเป้าไปยังพรรคภูมิใจไทย
ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่พรรคการเมือง ซึ่งมีจุดยืนและอุดมการณ์ที่แตกต่างกัน แต่กระโดดข้ามขั้วจัดตั้งรัฐบาลด้วยกัน เพราะสถานการณ์บังคับ หรือความจำเป็นทางการเมือง จึงมีการฮั้วประโยชน์ทางการเมืองจนเกิดดีลลับ ระหว่างนายทักษิณกับกลุ่มอนุรักษ์นิยม ตามที่สังคมรับรู้กันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ยิ่งนานวันพรรคการเมืองแต่ละพรรคก็แสดงธาตุแท้ และจุดยืนของตัวเองออกมา จนทำให้เห็นรอยปริรอยร้าวเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้ ตอนนี้น่าจะเป็นแค่จุดเริ่มต้นของความไม่ลงรอยกันในบางประเด็น ซึ่งแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลต่างก็พยายามประคับประคอง ในลักษณะแสวงจุดร่วมสงวนจุดต่างกันไปก่อน เพราะยังไม่พร้อมจะแตกหักกัน
พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลยังไม่ได้ออกปากไล่พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคแบบตรงๆ แต่ถ้าดูท่าทีของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดของนายทักษิณ ได้ออกมาพูดในวันเข้าสังกัดพรรคใหม่ ว่า“พรรคไหนค้านบ่อยๆ ควรจะแยกออกไป เมื่อเป็นพรรคร่วมรัฐบาลไม่ใช่ค้านตลอด ผมไม่ชอบหล่อคนเดียว” และประกาศว่า ”ไม่เป็นศัตรูกับใครและไม่ทำใครก่อน“ ซึ่งความหมายถึงพรรคการเมืองใดนั้น ก็น่าจะเป็นที่รับรู้กัน
ถ้าสถานการณ์ทางการเมืองของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นเช่นนี้ เชื่อว่าความขัดแย้งจะเกิดขึ้นแน่นอน ไม่ช้าก็เร็วเท่านั้นเอง