ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ เผยสุดยอดทำเลทองประจำปี 2567

Date:

แม้ภาคอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567 ยังไม่ฟื้นตัวตามที่หลายฝ่ายคาดกันไว้ หลังจากทั้งฝั่งผู้บริโภคและผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต้องโต้คลื่นความท้าทายตลอดทั้งปี โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากกำลังของซื้อผู้บริโภคที่ชะลอตัวและส่งผลต่อยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์ตามไปด้วย แผนการซื้อบ้านจึงยังไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนของหลายคน อย่างไรก็ดี ท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้ยังคงมีปัจจัยบวกหลังจากภาครัฐได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ออกมาเพิ่มเติมในเดือนเมษายน 2567 และที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ในเดือนตุลาคม 2567 ถือเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนให้ตลาดที่อยู่อาศัยมีโอกาสกลับมาฟื้นตัวในอนาคต

แม้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์จะยังไม่ฟื้นตัวดีดังเดิม แต่ในหลายทำเลยังคงมีความต้องการซื้ออย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจากแบบสอบถามความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อตลาดที่อยู่อาศัย DDproperty Thailand Consumer Sentiment Study รอบล่าสุดเผยว่าผู้บริโภคเกือบครึ่ง (48%) มองว่าทำเลที่ตั้งของโครงการถือเป็นปัจจัยภายนอกโครงการที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อ/เช่าที่อยู่อาศัยมากที่สุด รองลงมาคือต้องการโครงการที่เดินทางได้สะดวกด้วยระบบขนส่งสาธารณะ (44%) จะเห็นได้ว่าโครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลที่มีความเจริญและมีศักยภาพที่จะเติบโตในอนาคต สามารถเดินทางได้สะดวก ย่อมส่งผลให้ดีมานด์ซื้อ/เช่าที่อยู่อาศัยเติบโตตามไปด้วย

ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty) แพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย เผยข้อมูลเชิงลึกจากผู้เข้าเยี่ยมชมในเว็บไซต์ www.DDproperty.com ในรอบปี 2567 (เก็บข้อมูลระหว่างเดือนมกราคม – ธันวาคม 2567) สะท้อนเทรนด์ความต้องการซื้อและเช่าที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคชาวไทยทั่วประเทศ พร้อมอัปเดตทำเลศักยภาพที่น่าจับตามอง

“กรุงเทพฯ” ยืนหนึ่งจังหวัดยอดนิยมของคนหาบ้าน “เชียงใหม่” รั้งอันดับ 2 รับอานิสงส์การท่องเที่ยวฟื้น

กรุงเทพมหานครยังคงครองความนิยมเป็นจังหวัดที่ได้รับความสนใจซื้อ/เช่าทั่วประเทศมากที่สุดในรอบปี 2567 ขณะที่หัวเมืองท่องเที่ยวอย่างเชียงใหม่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจนครองอันดับ 2 ตามมาด้วยอันดับ 3 นนทบุรี, อันดับ 4 ภูเก็ต, อันดับ 5 ชลบุรี, อันดับ 6 ปทุมธานี, อันดับ 7 สมุทรปราการ, อันดับ 8 ประจวบคีรีขันธ์, อันดับ 9 ระยอง และอันดับ 10 ขอนแก่น

ทั้งนี้ หัวเมืองท่องเที่ยวกลับมาติดอันดับต้น ๆ จังหวัดยอดนิยมที่มีการค้นหาที่อยู่อาศัยมากขึ้น หลังจากตลาดอสังหาฯ ในปี 2567 ได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวส่งผลให้จำนวนชาวต่างชาติที่เข้ามาในไทยเพิ่มมากขึ้น หัวเมืองท่องเที่ยวจึงได้รับความสนใจซื้อ/เช่าเพื่อใช้เป็นบ้านพักตากอากาศหรือรองรับการอยู่อาศัยในวัยเกษียณเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

10 ทำเลรถไฟฟ้าน่าจับตามอง “BTS อ่อนนุช” มาแรงเกินต้าน ครองแชมป์ทำเลแนวรถไฟฟ้ายอดนิยม 

การเดินทางด้วยรถไฟฟ้ายังคงเป็นการสัญจรที่สะดวกและรวดเร็วตอบโจทย์การใช้ชีวิตในเมืองหลวง ปัจจุบันมีการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าให้ครอบคลุมการเดินทางได้มากขึ้น ส่งผลให้ทำเลแนวรถไฟฟ้าทั้งเส้นทางที่เปิดให้บริการแล้วและอยู่ระหว่างการก่อสร้างมีความต้องการซื้อ/เช่าที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

สำหรับทำเลแนวรถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT ที่ได้รับความสนใจซื้อ/เช่ามากที่สุดในรอบปี 2567 อันดับ 1 ได้แก่ BTS อ่อนนุช ทำเลศักยภาพแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ได้รับความสนใจจากคนหาบ้านอย่างต่อเนื่องด้วยปัจจัยแวดล้อมที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยมากมายทั้งเป็นย่านธุรกิจ แหล่งช้อปปิ้ง การเดินทางที่หลากหลาย และยังเป็นสถานีแรกของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายไปยังสถานีเคหะฯ ในจังหวัดสมุทรปราการ ทำให้ไม่ต้องเสียค่าโดยสารรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายเพิ่ม อีกทั้งโครงการที่อยู่อาศัยในทำเลนี้ยังมีราคาไม่แพง จึงส่งผลให้ทำเลแนวรถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช เป็นทำเลศักยภาพที่น่าสนใจทั้งเพื่ออยู่อาศัยเองหรือลงทุน

ตามมาด้วย อันดับ 2 BTS พร้อมพงษ์, อันดับ 3 BTS เอกมัย, อันดับ 4 BTS ทองหล่อ, อันดับ 5 BTS อโศก, อันดับ 6 MRT พระราม 9, อันดับ 7 BTS อารีย์, อันดับ 8 MRT ลาดพร้าว, อันดับ 9 MRT ห้วยขวาง และอันดับ 10 BTS สะพานควาย 

จากข้อมูล 10 สถานีรถไฟฟ้ายอดนิยมในกลุ่มผู้ค้นหาที่อยู่อาศัยในรอบปี 2567 พบว่า 7 ใน 10 เป็นสถานีที่อยู่ในโครงการรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ซึ่งเปิดให้บริการเป็นสายแรกของประเทศไทยและเชื่อมต่อการเดินทางสู่ใจกลางเมืองซึ่งเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่  

นอกจากนี้ ข้อมูลของกรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม พบว่า รถไฟฟ้าสายสีเขียวมีปริมาณผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสูงที่สุดในปี 2567 สะท้อนให้เห็นถึงดีมานด์ที่อยู่อาศัยและโอกาสการเติบโตในเชิงธุรกิจที่น่าจับตามอง  

10 ทำเลทองในเมืองหลวง คนกรุงปักหมุดให้ “เขตวัฒนา” นำหน้าครองใจทั้งผู้ซื้อ-ผู้เช่า 

กรุงเทพมหานครเป็นเป้าหมายหลักของผู้พัฒนาอสังหาฯ ที่ต่างเปิดตัวโครงการในหลากหลายทำเลให้ครอบคลุมความต้องการซื้อ/เช่าทุกระดับราคา ข้อมูลการเข้าชมประกาศอสังหาฯ พบว่า ”เขตวัฒนา” ยังได้รับความนิยมในกลุ่มคนหาบ้านต่อเนื่องอีกปี ครองอันดับ 1 สุดยอดทำเลในกรุงเทพฯ ที่ได้รับความสนใจซื้อและเช่ามากที่สุดในรอบปี 2567 โดยมีปัจจัยสนับสนุนทั้งการเดินทาง สาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทำให้เขตวัฒนาขึ้นแท่นทำเลทองที่ผู้ซื้อ/ผู้เช่านิยมค้นหาบ้าน/คอนโดฯ มากที่สุดของปีมะโรง

โดย 10 ทำเลในกรุงเทพฯ ที่มีความต้องการซื้อมากที่สุดในรอบปี 2567 ได้แก่

  • อันดับ 1 เขตวัฒนา
  • อันดับ 2 เขตจตุจักร
  • อันดับ 3 เขตห้วยขวาง
  • อันดับ 4 เขตคลองเตย
  • อันดับ 5 เขตประเวศ
  • อันดับ 6 เขตบางกะปิ
  • อันดับ 7 เขตสวนหลวง
  • อันดับ 8 เขตบางนา
  • อันดับ 9 เขตพระโขนง
  • อันดับ 10 เขตบางเขน

ขณะที่ 10 ทำเลในกรุงเทพฯ ที่มีความต้องการเช่ามากที่สุดในรอบปี 2567 ได้แก่

  • อันดับ 1 เขตวัฒนา 
  • อันดับ 2 เขตคลองเตย 
  • อันดับ 3 เขตห้วยขวาง
  • อันดับ 4 เขตราชเทวี 
  • อันดับ 5 เขตพระโขนง 
  • อันดับ 6 เขตปทุมวัน
  • อันดับ 7 เขตจตุจักร
  • อันดับ 8 เขตบางนา
  • อันดับ 9 เขตบางรัก 
  • อันดับ 10 เขตสาทร 

ทำเลใกล้สถานศึกษาย่าน “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” ขึ้นแท่นทำเลมาแรงน่าจับตามอง

ทำเลใกล้สถานศึกษาถือเป็นอีกตลาดที่ผู้พัฒนาอสังหาฯ หันมาให้ความสำคัญมากขึ้น มีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนอย่างนักเรียน-นักศึกษา ผู้ปกครอง และบุคลากรในสถานศึกษาที่ต้องการความสะดวกในการเดินทาง และสามารถลงทุนระยะยาวโดยประกาศขายหรือปล่อยเช่าได้เรื่อย ๆ ส่งผลให้เทรนด์แคมปัสคอนโดฯ (Campus Condo) หรือคอนโดฯ ในทำเลใกล้สถานศึกษามีการเติบโตต่อเนื่อง เนื่องจากคอนโดฯ เป็นรูปแบบอสังหาฯ ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยในเมืองหลวง และมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน 

โดยทำเลในละแวก “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” มีการค้นหาที่อยู่อาศัยเพื่อซื้อ/เช่ามากที่สุด เนื่องจากเป็นย่านธุรกิจสำคัญใจกลางเมือง ส่งผลให้กลายเป็นทำเลที่มีราคาที่ดินสูงสุดในกรุงเทพมหานคร เห็นได้จากผลการสำรวจราคาที่ดินในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เผยว่า ที่ดินบริเวณสยามสแควร์ ชิดลม เพลินจิต ครองอันดับหนึ่งราคาที่ดินสูงที่สุดของประเทศไทย โดยประมาณการไว้ที่ 3.75 ล้านบาทต่อตารางวา หรือไร่ละ 1,500 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2567 และทำเลนี้ยังเดินทางได้สะดวกด้วยรถไฟฟ้า ประกอบกับเป็นสถานศึกษาชั้นนำจึงทำให้มีความต้องการซื้อ/เช่าทั้งจากนักศึกษา บุคลากรสถานศึกษา รวมทั้งวัยทำงานในย่านนั้นเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

สำหรับ 5 ทำเลใกล้สถานศึกษาที่ได้รับความสนใจซื้อมากที่สุดในรอบปี 2567 ได้แก่

  • อันดับ 1 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • อันดับ 2 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
  • อันดับ 3 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
  • อันดับ 4 มหาวิทยาลัยศรีปทุม
  • อันดับ 5 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 

ขณะที่ 5 ทำเลใกล้สถานศึกษาที่ได้รับความสนใจเช่ามากที่สุดในรอบปี 2567 ได้แก่

  • อันดับ 1 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • อันดับ 2 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
  • อันดับ 3 มหาวิทยาลัยศรีปทุม
  • อันดับ 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์)
  • อันดับ 5 Bangkok Prep International School

ผู้ซื้อมองหาบ้าน/คอนโดฯ 2 ห้องนอน ราคาไม่เกิน 2 ล้านตอบโจทย์ Real Demand

จากข้อมูลฝั่งตลาดซื้ออสังหาฯ พบว่า ผู้ที่วางแผนซื้อที่อาศัยทั่วประเทศในรอบปี 2567 เลือกใช้ฟิลเตอร์เพื่อค้นหาบ้าน/คอนโดฯ ที่มี 2 ห้องนอนมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็กที่ต้องการแยกสัดส่วนที่พักอาศัยให้ชัดเจน รองลงมาอันดับ 2 ได้แก่ ที่อยู่อาศัย 3 ห้องนอน และอันดับ 3 สนใจซื้อที่อยู่อาศัย 1 ห้องนอน 

ทั้งนี้ ผู้ซื้อเกือบ 2 ใน 3 (64%) มองหาโครงการที่อยู่อาศัยที่ตกแต่งให้ครบแบบพร้อมเข้าอยู่ (Fully Furnished) มากที่สุด เนื่องจากช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการตกแต่ง ทำให้วางแผนการเงินได้ง่ายขึ้น และสามารถย้ายเข้าอยู่ได้ทันที ขณะที่ 28% เลือกโครงการที่ไม่มีการตกแต่งใด ๆ เพื่อที่จะได้แต่งบ้านในสไตล์ที่ชอบเองทั้งหมด ส่วนอีก 22% ต้องการโครงการที่ตกแต่งให้บางส่วน (Fully Fitted) เท่านั้น

เมื่อพิจารณาด้านราคาที่ผู้ซื้อค้นหาบนเว็บไซต์ DDproperty มากที่สุด พบว่าระดับราคาไม่เกิน 2 ล้านบาทมีการค้นหามากที่สุด สะท้อนให้เห็นความต้องการของผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) ที่ต้องการค้นหาที่อยู่อาศัยในราคาที่เอื้อมถึง และไม่จำเป็นต้องอยู่ใจกลางเมืองอีกต่อไป เนื่องจากมีการเปิดให้บริการของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายไปยังพื้นที่ชานเมืองมากขึ้น ผู้บริโภคจึงสามารถเลือกซื้อบ้าน/คอนโดฯ ในทำเลชานเมืองซึ่งมีราคาย่อมเยากว่าได้ ซึ่งช่วยลดภาระทางการเงินได้มากพอสมควร โดยระดับราคาที่อยู่อาศัยที่ชาวไทยสนใจซื้อมากที่สุดในรอบปี 2567 ได้แก่

  • อันดับ 1 ระดับราคา 1,000,000 – 2,000,000 บาท 
  • อันดับ 2 ระดับราคา 500,000 – 1,500,000 บาท 
  • อันดับ 3 ระดับราคา 500,000 – 2,000,000 บาท

4 ใน 5 ของผู้เช่ามองหาโครงการตกแต่งพร้อมอยู่ พร้อมจ่ายค่าเช่ารายเดือนไม่เกิน 15,000 บาท 

ความท้าทายทางการเงินถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้เทรนด์การเช่าที่อยู่อาศัยเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคที่ต้องการลดภาระหนี้ที่ไม่จำเป็นในยุคที่เศรษฐกิจไม่ฟื้นตัวจึงเลือกเช่าบ้าน/คอนโดฯ แทนการซื้อ ข้อมูลจากผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ฯ พบว่า ผู้ที่วางแผนเช่าที่อาศัยทั่วประเทศในรอบปี 2567 ค้นหาบ้าน/คอนโดฯ ที่มี 2 ห้องนอนมากที่สุดเป็นอันดับ 1 คล้ายกับความต้องการของผู้ซื้อ รองลงมา อันดับ 2 สนใจเช่าที่อยู่อาศัย 1 ห้องนอน และอันดับ 3 สนใจเช่าที่อยู่อาศัย 3 ห้องนอน ซึ่งความต้องการเหล่านี้แตกต่างกันไปตามจำนวนสมาชิกของแต่ละครอบครัวเป็นหลัก

โดยพบว่า 1 ใน 4 (80%) ของผู้เช่าที่อยู่อาศัยต้องการโครงการที่ตกแต่งให้ครบแบบพร้อมเข้าอยู่ (Fully Furnished) มากที่สุด เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการซื้อเฟอร์นิเจอร์ อีกทั้งยังสะดวกทั้งในการย้ายเข้า-ออกหากต้องโยกย้ายทำเลในอนาคต ส่วน 18% สนใจโครงการที่ตกแต่งให้บางส่วน (Fully Fitted) มีผู้เช่าเพียง 9% เท่านั้นที่เลือกโครงการที่ไม่มีการตกแต่งใด ๆ เลย

ขณะที่ระดับค่าเช่าส่วนใหญ่ที่มีผู้เช่าค้นหามากที่สุดอยู่ในช่วงไม่เกิน 15,000 บาท/เดือน ซึ่งถือเป็นค่าเช่าที่อยู่ในระดับปานกลาง เหมาะสมและตอบโจทย์ผู้ที่มองหาบ้าน/คอนโดฯ ให้เช่าในทำเลแนวรถไฟฟ้า มีสิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่ใช้สอยครบครัน ซึ่งถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับการซื้อที่ต้องมีภาระหนี้ในระยะยาว และยังต้องกังวลกับการปรับขึ้นของดอกเบี้ยที่ส่งผลต่อราคาผ่อนบ้าน/คอนโดฯ อีกด้วย โดยระดับราคาที่อยู่อาศัยที่ชาวไทยสนใจเช่ามากที่สุดในรอบปี 2567 ได้แก่

  • อันดับ 1 ระดับค่าเช่า 8,000 – 15,000 บาท/เดือน
  • อันดับ 2 ระดับค่าเช่า 10,000 – 15,000 บาท/เดือน 
  • อันดับ 3 ระดับค่าเช่า 6,000 – 8,000 บาท/เดือน

รู้จักกับ DDproperty 

DDproperty (ดีดีพร็อพเพอร์ตี้) เป็นแพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของไทย ในเครือ PropertyGuru Group (พร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป) ซึ่งเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ DDproperty มีส่วนในการพลิกโฉมวิธีการค้นหาบ้านมาสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ และช่วยให้คนไทยตัดสินใจซื้อ-ขาย-เช่า-ลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างมั่นใจ

ปัจจุบัน DDproperty เป็นแพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ค้นหาที่อยู่อาศัยและอสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ โดยมีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 62%* ในเมืองไทย สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเข้าชมได้ที่ www.DDproperty.com; www.PropertyGuruGroup.com รวมไปถึงช่องทางโซเชียล มีเดียของเรา ได้แก่ Facebook, Instagram, YouTube และ LinkedIn

*อ้างอิงข้อมูลจาก SimilarWeb ช่วงระหว่างเดือน ต.ค. 2566 – มี.ค. 2567

รู้จักกับ PropertyGuru Group 

พร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป เป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ1ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ค้นหาบ้านกว่า 31 ล้านราย2 ในการเชื่อมต่อกับเอเจนต์กว่า 50,000 ราย3 เพื่อเข้าเยี่ยมชมและใช้บริการบนเว็บไซต์ในแต่ละเดือน พร็อพเพอร์ตี้กูรูและบริษัทในเครือช่วยให้ผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยทั่วภูมิภาคได้เข้าถึงรายการประกาศขาย-เช่าที่มีมากกว่า 2.1 ล้านรายการ4 อีกทั้งยังมีข้อมูลเชิงลึกและโซลูชั่นต่าง ๆ ที่ช่วยให้ผู้บริโภคในสิงคโปร์, มาเลเซีย, ไทย และเวียดนาม ใช้ประกอบการตัดสินใจครั้งสำคัญได้อย่างมั่นใจ

PropertyGuru.com.sg เริ่มให้บริการครั้งแรกในปี 2550 นับเป็นการปฏิวัติตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์ ด้วยการนำระบบออนไลน์เข้ามาใช้และช่วยให้การหาบ้านมีความโปร่งใสมากขึ้น ในช่วงเวลากว่า 17 ปีที่ผ่านมา พร็อพเพอร์ตี้กูรูได้เติบโตมาเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีอสังหาฯ ที่มีการเติบโตสูง มีเว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาฯ อันดับ 1 อยู่ภายใต้การบริหาร มีแอปพลิเคชั่นที่มีรางวัลเป็นเครื่องการันตีคุณภาพ เว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านสินเชื่อบ้าน PropertyGuru Finance, SendHelper แพลตฟอร์มที่รวมบริการเกี่ยวกับการทำความสะอาด และดูแลรักษาบ้าน นอกจากนี้ ยังมีบริการที่เป็นดั่งศูนย์รวมโซลูชั่นทางธุรกิจภายใต้แบรนด์ PropertyGuru For Business ซึ่งประกอบไปด้วยแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดเพื่อช่วยส่งเสริมการขายให้กับผู้พัฒนาอสังหาฯ อย่าง DataSense, ValueNet บริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาฯ ที่สำคัญ ๆ อาทิ การจัดงานแจกรางวัลด้านอสังหาฯ กิจกรรมส่งเสริมการตลาด รวมไปถึงสื่อสิ่งพิมพ์ทั่วภูมิภาคเอเชีย 

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเข้าชมได้ที่ PropertyGuruGroup.com; PropertyGuru Group on LinkedIn

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

ชี้ “คาสิโน-พนันออนไลน์” คือเศรษฐกิจบาป

“อลงกรณ์” ชี้“คาสิโน-พนันออนไลน์”คือเศรษฐกิจบาปและวัฒนธรรมสีเทา”กัดเซาะบ่อนทำลายหลักนิติรัฐและคุณธรรมของประเทศ

10 ประเด็น ที่ต้องทำความเข้าใจกับ ทักษิณ

“เทพไท เสนพงศ์” ชี้ 10 ประเด็น ที่ต้องทำความเข้าใจกับ ทักษิณ

ยุคทองของสหรัฐ เริ่มต้นขึ้นแล้ว

ซีไอเอ็มบีไทย วิเคราะหื ยุคทองของสหรัฐ เริ่มต้นขึ้นแล้ว “ทรัมป์ 2.0” จะเห็นโลกและภูมิเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป

ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กำไรปี 2567 จำนวน 2,852 ล้านบาท

ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประกาศกำไรสุทธิ ปี 2567 จำนวน 2,852 ล้านบาท  เติบโต 77.7%