![](https://jaihindnews2.com/wp-content/uploads/2025/02/ใจฮิน-แนวนอน-ตัวเล็ก-ปี68-Recovered-Recovered-76.png)
ดร.เจนจิรา รัตนเพียร โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับมาตรการของรัฐบาลไทยที่สั่งตัดไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์ และงดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงใน 5 จุดชายแดนเมียนมา โดยระบุว่าเป็นมาตรการจำเป็นเพื่อสกัดกั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมข้ามชาติที่ใช้พื้นที่ฝั่งเมียนมาเป็นฐานปฏิบัติการ แม้จะส่งผลต่อแก๊งอาชญากรรมน้อยเพราะคงจะเตรียมสำรองทรัพยากรไว้อยู่แล้ว แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไร
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า แม้ไทยและเมียนมาจะมีพรมแดนติดต่อกันกว่า 2,000 กิโลเมตร และมีความสัมพันธ์ที่พึ่งพาอาศัยกัน แต่ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่สร้างความเสียหายให้ประชาชนไทยมายาวนานควรได้รับการจัดการโดยภาครัฐอย่างจริงจัง ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับความสัมพันธ์บ้าง แต่ในสายตาของคนไทยถือเป็นความสำคัญอันดับแรกของรัฐบาล
“นี่คือปัญหาระดับชาติ คนไทยทั้งประเทศได้รับผลกระทบจากการหลอกลวงของขบวนการเหล่านี้ มาเป็นระยะเวลานานมากแล้ว และที่ผ่านมาทั้งฝ่ายการเมืองและราชการ ต่างรู้ดีว่ามีอาชญากรข้ามชาติ มาประกอบ ธุรกิจผิดกฎหมายในพื้นที่ดังกล่าว แต่ไม่มีมาตรการเด็ดขาด มีแต่มาตรการติดตามหลังถูกหลอกลวง มาตรการส่งเสริมความรู้ให้กลุ่มเสี่ยง แต่มาตรการจัดการต้นทางยังไม่เคยเห็น วันนี้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ต้องเอาจริงเอาจัง หลังมีมาตรการเริ่มตัดไฟ ฟ้า น้ำมัน และอินเทอร์เน็ต ควรมีมาตรการอื่นตามมา เพื่อกดดันให้อาชญากร ดำเนินงานต่อไม่ได้ ” ดร.เจนจิรา กล่าว
ดร.เจนจิรา ยังระบุว่า จนถึงวันนี้ คนไทยยังมีข้อสงสัยที่เก็บไว้ในใจ ว่าภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่ มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาตินี้ด้วยหรือไม่ ถึงไม่มีมาตรการอะไรออกมาเลย ดังนั้น เพื่อเป็นการพิสูจน์ตัวเอง และการรักษาภาพลักษณ์ของหน่วยงานที่สังกัด ก็ควรเร่งออกมาตรการ เพื่อกวาดล้างให้อาชญากรรมประเภทนี้หมดไป
สำหรับกระแสคัดค้านและแรงกดดันจากชาวเมียนมาที่ออกมาประท้วงเพื่อให้ไทยผ่อนปรนมาตรการดังกล่าวนั้น โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เรายังมีความจำเป็นต้องกดดัน จนกว่าอาชญากรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะปิดกิจการไป ซึ่งก็หวังไว้เป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือจากเพื่อนบ้านให้ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานของเราด้วย ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันในการกำจัดขบวนการอาชญากรข้ามชาติ เชื่อว่ารัฐบาลไทยไม่ได้ต้องการสร้างความเดือดร้อนให้เพื่อนบ้าน หากไม่จำเป็น แต่เราไม่มีทางเลือก มิฉะนั้น เราจะกลายเป็นผู้สนับสนุนอาชญากรรมข้ามชาติไปโดยปริยาย” ดร.เจนจิรา กล่าว