นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการรถรับส่งพนักงานจากแหล่งที่พักอาศัยในเขตชุมชนไปยังโรงงานอุตสาหกรรม หรือสถานประกอบการโดยเฉพาะรอบเขตนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก (Eastern Seaboard) และเขตอุตสาหกรรมภาคกลาง เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจในไตรมาส 1/68 มีแนวโน้มเติบโตในเกณฑ์ดี ทั้งในส่วนของความสามารถในการทำกำไร และการเติบโตของรายได้
ทั้งนี้เป็นผลจากการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนในการเดินรถ มีจำนวนรถที่หมดค่าเสื่อมเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 20 คัน และมีจำนวนรถที่ปลอดภาระสินเชื่อเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 96 คัน นอกจากนี้บริษัทยังเดินหน้าเพิ่มจำนวนรถให้บริการกับฐานลูกค้าเดิม และขยายฐานลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนขยายการให้บริการไปยังเขตนิคมอุตสาหกรรมภาคกลาง เจาะกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมที่เติบโตสูงในเขตพื้นที่ EEC คาดว่าจะมีลูกค้าเซ็นสัญญาเพิ่มในไตรมาสแรกจำนวน 4 ราย
นอกจากนี้ ATP30 มีแผนเพิ่มจำนวนรถบัส EV จากปัจจุบันมีจำนวน 13 คัน เป็น 23 คัน ภายในไตรมาสที่ 2/68 และ 35 คันในปี 2568 เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันระบบ Solar Roof & Smart Charger อยู่ระหว่างพัฒนากำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้น จากเดิม 60 กิโลวัตต์ เป็น 240 กิโลวัตต์ เพื่อรองรับจำนวนรถบัส EV ที่มากขึ้นให้สามารถชาร์จรถทั้งหมดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และใช้เวลาชาร์จน้อยลง ช่วยยกระดับความพร้อมในการให้บริการภายในไตรมาสที่ 1/68
ปัจจุบัน ATP30 สามารถรับรู้รายได้จากการให้บริการรถรับส่งพนักงานจำนวน 729 คัน แบ่งเป็นรถบัสจำนวน 277 คัน รถมินิบัส จำนวน 51 คัน รถตู้ จำนวน 383 คัน รถกระบะ จำนวน 2 คัน และรถไฟฟ้า จำนวน 16 คัน ประกอบด้วย รถตู้มินิแวน จำนวน 3 คัน รถบัสไฟฟ้า จำนวน 3 คัน และรถมินิบัสไฟฟ้า จำนวน 10 คัน ปัจจุบันบริษัทมูลค่าสัญญาในมือ (Backlog) จำนวน 1,943 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องในอนาคต
สำหรับผลประกอบการปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 730.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 671.47 ล้านบาท จำนวน 59.14 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8.81% และมีกำไรสุทธิ 45.53 ล้านบาท เพิ่มจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 28.98 ล้านบาท จำนวน 16.55 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 57.11%
