
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ SCB EIC ประเมินว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยเดือน ม.ค. 2025 เร่งตัวสูงถึง 13.6%YOY อยู่ที่ 25,277 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เร่งขึ้นจาก 8.7% ในเดือนก่อน โดยตัวเลขเดือนนี้สูงกว่าคาดการณ์มาก (SCB EIC ประเมินที่ 6.9% และค่ากลาง Reuters Poll 7.2%) สาเหตุหลักมาจากการส่งออกทองคำ วัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์ขาขึ้น และการเร่งส่งออกก่อนนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐฯ จะเริ่มมีผลเป็นวงกว้าง
มูลค่าการส่งออกไทยเดือน ม.ค. ปี 2025 ขยายตัวดี สาเหตุหลักมาจากการส่งออกทองคำและประเด็นพิเศษเกี่ยวกับทองคำ โดยการส่งออกทองคำขยายตัวสูงมากถึง 148.9% เทียบกับ 7.2%
สำหรับประเด็นพิเศษที่เกิดขึ้นนี้ SCB EIC ประเมินว่า มีส่วนทำให้มูลค่าการส่งออกของไทยเดือน ม.ค. 2025 ที่ขยายตัวสูงถึง 13.6% ขยายตัวมากถึง 7.4% นั่นคือ มูลค่าการส่งออกที่ไม่รวมทองคำ (สะท้อนกิจกรรมการส่งออกที่เกิดขึ้นจริง) โตเพียง 6.2%
ทั้งนี้ การส่งออกเดือน ม.ค. โตดีเกือบทุกหมวด ยกเว้นสินค้าเกษตร การส่งออกไปสหรัฐฯ อินเดีย และสวิตเซอร์แลนด์ขยายตัวดี จากแรงหนุนการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับ ขณะที่ส่งออกไปจีน EU28 และ CLMV ชะลอตัว
SCB EIC ประเมินมูลค่าการส่งออกไทยในไตรมาสแรกจะขยายตัวดีตามแรงส่งจากปีก่อน อานิสงส์วัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขาขึ้น แนวโน้มการเร่งสั่งซื้อของประเทศคู่ค้าก่อนนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐฯ รวมถึงราคาสินค้าส่งออกกลุ่มน้ำมันและกลุ่มเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันเพิ่มขึ้น เช่น พลาสติกและปิโตรเคมี ตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในช่วงต้นปี 2025 จากอากาศหนาวมากกว่าคาด ปัจจัยฐานต่ำในเดือน มี.ค. 2024 ที่หดตัวสูง -10.5% และการส่งออกทองคำในรูปแบบโลหะอื่นไปยังอินเดียก่อนจะปรับปรุงเกณฑ์ช่องว่างการนำเข้าทองคำ
อย่างไรก็ตาม แรงกดดันต่อการส่งออกไทยจะเพิ่มขึ้นมากในช่วงที่เหลือของปีนี้ ได้แก่
1 แนวโน้มเศรษฐกิจโลกขยายตัวชะลอลง จากผลนโยบายกีดกันการค้า การลงทุน และการเคลื่อนย้ายพรมแดน ที่จะเกิดขึ้นกับหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ส่งผลให้บรรยากาศการค้าระหว่างประเทศมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยเฉพาะช่วงครึ่งหลังปี 2025 จากผลกระทบนโยบายกีดกันการค้าในโลก รวมถึงผล Front load การเร่งผลิตและส่งออกในช่วงปลายปี 2024 และต้นปี 2025 หมดลง
2 ความต้องการสินค้าขั้นกลางที่ไทยส่งออกไปจีนเพื่อผลิตเป็นสินค้าขั้นปลายอาจชะลอตัว โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าขั้นปลายที่จีนส่งออกไปตลาดสหรัฐฯ รวมถึงปัญหาจีนผลิตล้นตลาด (China’s overcapacity) จะมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นในตลาดโลก กดดันความสามารถการแข่งขันของสินค้าไทยในการส่งออกและสินค้าผลิตขายในประเทศ
3 ราคาน้ำมันและกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน เช่น พลาสติกและปิโตรเคมี มีแนวโน้มลดลง จากนโยบายเพิ่มการขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ โดย SCB EIC มองว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปี 2025 จะอยู่ที่ 75 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ต่ำกว่าปีก่อนที่ 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
4 ปัจจัยฐานสูง การส่งออกปี 2024 ขยายตัวสูงถึง 5.4% โดยเฉพาะไตรมาส 3 และ 4 ที่ขยายตัวมากถึง 7.5% และ 10.5% ตามลำดับ (ตัวเลขระบบศุลกากร)
ทั้งนี้ SCB EIC ประเมินว่า การส่งออกของไทยปีนี้มีแนวโน้มจะได้รับผลกระทบจากมาตรการกีดกันการค้าของสหรัฐฯ เนื่องจากไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ เป็นอันดับที่ 2 ของอาเซียน และอันดับที่ 11 ของประเทศคู่ค้าสหรัฐฯ ทั้งหมด (เทียบกับอันดับ 12 ในปี 2024) โดยไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2017 ช่วงก่อนเกิดสงครามการค้ารอบแรก (รูปที่ 6) นอกจากนี้ SCB EIC ประเมินว่า ไทยอาจมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal tariffs) ของสหรัฐฯ ตั้งแต่ไตรมาส 2 เนื่องจาก ไทยเก็บอัตราภาษีนำเข้า Most Favored Nation (MFN) สูงกว่าสหรัฐฯ และค่าเฉลี่ยโลก (รูปที่ 7) ซึ่งอาจเป็นปัจจัยกดดันการส่งออกไปตลาดสหรัฐฯ เพิ่มเติมจากที่เคยประเมินไว้
ทั้งนี้ SCB EIC ประเมินแนวโน้มการส่งออกไทยปี 2025 (ณ พ.ย. 2024) ที่ 2% (ข้อมูลระบบดุลการชำระเงิน) โดย SCB EIC อยู่ระหว่างการทบทวนและเผยแพร่มุมมองใหม่ในเดือน มี.ค. นี้