นายกฯ บอกมีแน่ แผนรับมือการขึ้นกำแพงภาษีสหรัฐฯ

Date:

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์​​ถึงมาตรการรับมือการขึ้นกำแพงภาษีของสหรัฐอเมริกากับประเทศต่างๆทั่วโลก จะมีความชัดเจนอย่างไรบ้าง ว่า คณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐที่เราตั้งเมื่อเดือน ม.ค. เตรียมพร้อมที่จะรับมือเรื่องนี้อยู่แล้ว 

ส่วนรายละเอียดวันนี้จะมีการคุยกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ซึ่งมีการดูกันหลายฝ่าย เรื่องของพาณิชย์ก็มีปลัดกระทรวงพาณิชย์มา ซึ่งทุกภาคส่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรามีตัวแทนมาหมดและคุยหมด ก็ต้องค่อยๆ มูฟ แผนที่มี มีแน่ แต่หากเราจะมีการเจรจาอะไรกับใครก็ไม่สามารถบอกรายละเอียดทั้งหมดได้ เพราะหากมีการเจรจาจะต้องแฟร์ๆ ทั้งสองฝ่ายว่าข้อมูลจะไม่หลุด 

เมื่อถามว่านายกฯ จะเป็นประธานเองหรือไม่ เพราะภาคเอกชนอยากให้มีทีมพิเศษที่นายกฯ เป็นประธานเจรจาเอง นายกฯ กล่าวว่า เดี๋ยวจะลองคุยกับเอกชนดูว่าอย่างไรบ้าง เพราะอยากให้ทีมเคลื่อนไหวได้ง่าย รวดเร็ว เพราะบางอย่างรอนานไม่ได้ 

นายกฯ ย้ำต้องพร้อมรับมือนโยบายเศรษฐกิจโลกของสหรัฐฯ

คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เข้าหารือกับ น.ส.แพทองธาร  เพื่อร่วมกันกำหนด ผลกระทบของประเทศไทย ในนโยบายด้านเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา  โดยมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี  ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภาครัฐ โดยผู้แทน กกร. ประกอบด้วย นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายผยง ศรีวณิช ประธานกรรมการสมาคมธนาคารไทย นายสุธีร์ สธนสถาพร ผู้อานวยการสานักงาน กกร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภาคเอกชนเข้าร่วมด้วย

“เอกชน” พอใจ รัฐบาลรับมือสงครามการค้าทรัมป์ 

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย  เปิดเผยภายหลังคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน  (กกร.) เข้าหารือกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า เป็นการหารือกันกับรัฐบาลเรื่องการเตรียมรับมือทรัมป์ 2.0 โดยเรามีการหารือกันเพื่อให้รัฐบาลกับเอกชนทำงานร่วมกัน และไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเป็นทิศทางที่ประเทศอื่นๆนั้น ก็ทำงานในลักษณะนี้เช่นกัน ถือว่าเป็นการทำงานที่เป็นประโยชน์กับประเทศและประชาชนเพื่อจะรับมือเรื่องนี้ 

เมื่อถามถึงระยะเวลาการทำงานที่อาจจะมีข้อจำกัด เพราะใกล้จะถึงระยะเวลาที่สหรัฐฯจะประกาศรายชื่อประเทศที่ถูกมาตรการทางภาษีเพิ่มเติมในวันที่ 2 เม.ย.นี้ นายสนั่น กล่าวว่า เรื่องนี้หลายประเทศจะเผชิญสถานการณ์เดียวกัน เพราะนโยบายของทรัมป์นั้น เอาแน่นอนไม่ได้ ดังนั้น ประเทศไทยต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด ตอนนี้ทั้งภาครัฐและเอกชนก็มีข้อมูลต่างๆ เมื่อมารวมกันและทำงานกันแบบทีมไทยแลนด์ โดยหากพูดไปแนวทางเดียวกัน การเจรจาก็จะไม่เสียเปรียบมากเกินไป

เมื่อถามถึงข้อเสนอของเอกชนที่เสนอให้นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในการเจรจากับทรัมป์เอง นายสนั่น กล่าวว่า ตอนนี้ภาคเอกชนเห็นความตั้งใจนายกรัฐมนตรี ซึ่งท่านได้มาเป็นประธานในการคุยกับเอกชนแล้ว ส่วนในขั้นตอนการเจรจานั้นนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานหัวหน้าคณะเจรจาเองหรือไม่นั้น ตอนนี้คงยังไม่สามารถที่จะพูดแบบนั้นได้ แต่ในขณะนี้นายกรัฐมนตรีทราบดีเกี่ยวกับเหตุการณ์แล้ว และจะต้องมีการทำงานในเรื่องนี้อย่างคล่องตัวต่อไป 

เมื่อถามว่า ส่วนที่ต้องเปิดตลาดสินค้าเพิ่มให้สหรัฐฯเอกชนมองว่าอย่างไรบ้าง นายสนั่น กล่าวว่า เพื่อประโยชน์ของประเทศก็อาจจะต้องมีข้อมูลตรงนี้ และการต่อรองที่อยู่ในมือแต่ว่าเรื่องนี้ยังเปิดเผยไม่ได้ในขณะนี้ 

นายสนั่น กล่าวด้วยว่า เอกชนมีความพอใจในการทำงานของรัฐบาลในเรื่องการเตรียมรับมือนโยบายทรัมป์ เห็นว่ารัฐบาลทำงานอย่างหนัก โดยภาครัฐและเอกชนต้องคุยกันในเรื่องนี้เพราะเราต้องมาดูว่าในการเจรจาจะมีอะไรที่แลกเปลี่ยนและไม่ทำให้เราเสียเปรียบมากเกินไป และมีความเป็นมิตรซึ่งกันและกันระหว่างไทยและสหรัฐฯ

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

ออมสิน เปิดตัวสินเชื่อสร้างเครดิต ดึงคนฐานรากได้สินเชื่อ 5 แสนราย

ออมสิน เปิดตัว สินเชื่อสร้างเครดิต สร้างโอกาส ดึงคนฐานราก 5 แสนรายเข้าสู่ระบบสินเชื่อ เป็า 1 ล้านราย ภายใน 3 ปี

JCR คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ที่ A

JCR คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ที่ A และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ที่ระดับมีเสถียรภาพ

นายกฯ พอใจผลการปราบบุหรี่ไฟฟ้า

นายกฯ ถกติดตามปราบบุหรี่ไฟฟ้า พอใจตัวเลข 2 สัปดาห์ ดีขึ้น ไม่นิ่งนอนใจ ฝากการบ้านตรวจบางตัวใส่สารเสพติด

จ่อ ลดค่าโอนและจำนอง อุ้มอสังหาฯ

คลังเร่ง ลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง พร้อมผ่อนปรนมาตรการ LTV อุ้มภาคอสังหาฯ