
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” ระบุว่า
อุ๊งอิ๊ง:ไข่ในหิน
ไม่รู้สี่รู้แปด ไม่ใช่คำหยาบ
หลังจากนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.พรรคประชาชน ออกมาพูดพาดพิงถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ไม่สนใจการมาชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาลของม็อบปลาหมอคางดำ ว่า ไม่รู้สี่รู้แปดถึงความเดือดร้อนของประชาชน ทำให้สมาชิกพรรคเพื่อไทยหลายคน ออกมาตอบโต้การใช้ถ้อยคำไม่รู้สี่รูปแปดของนายวิโรจน์ ตั้งแต่ระดับเลขาธิการพรรคเพื่อไทย รัฐมนตรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โฆษกรัฐบาล ส.ส.พรรคเพื่อไทย ฯลฯ
ผมเห็นว่าการใช้คำว่า ไม่รู้สี่รู้แปด เป็นคำที่ใช้โดยทั่วไป ซึ่งตนเองก็เคยใช้มาเช่นกัน เพราะเป็นคนภาคใต้ การพูดถึงไม่รู้สี่ไม่รู้แปด หมายถึงลักษณะภูมิศาสตร์ของภาคใต้ ที่เรียกกันว่า มีฝนแปดแดดสี่ หมายความก็คือ มีฤดูฝน8เดือน ฤดูร้อน4เดือน การเปรียบเทียบไม่รู้สี่ไม่รู้แปด หมายถึงการไม่รู้ฤดูกาล ไม่รู้จักกาลเวลา ไม่รู้ดินฟ้าอากาศ หรือภาษาปักษ์ใต้เรียกว่าไม่รู้จักหวัน
เมื่อไปดูความหมายในแชทจีพีที (Chat GTP) พบว่า คำว่าไม่รู้สี่ไม่รู้แปด เป็นสำนวนไทย หมายถึง ไม่รู้อะไรเลย ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ คล้ายกับคำว่าไม่รู้อีโหน่อีเหน่ หรือไม่รู้เรื่องรู้ราว แต่สำหรับภาษาชาวบ้าน อาจจะคิดว่าไม่รู้สี่รู้แปด เป็นคำศัพท์สแลงก็ได้ แล้วแต่ใครจะคิดอย่างไร ถ้าเป็นคนคิดลึก หรือจินตนาการไปไกลว่า เป็นคำหยาบคาย ก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล
แต่ที่แปลกใจมากก็คือ คำนี้เคยใช้กันอย่างแพร่หลาย คนระดับรัฐมนตรีหรือนักการเมืองหลายคน ก็เคยใช้คำนี้มาแล้ว ไม่เห็นจะมีมีปัญหาอะไร ซึ่งขึ้นอยู่กับบริบทของการใช้ของแต่ละบุคคล แต่ครั้งนี้เป็นการใช้กับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร จึงทำให้ลิ้วล้อ บริวาร เดือดร้อนแทน ดิ้นกันพรวดพลาด ทนกับคำพูดในลักษณะเช่นนี้ไม่ได้ จึงออกมาตอบโต้กันอย่างรุนแรง
จะเห็นได้ว่า ครั้งนี้เป็นเพียงแค่การใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้นอกสภา ยังมีคนเรียงหน้าออกมาตอบโต้แทนจำนวนมาก ถ้าหากเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาผู้แทนราษฎร ลองคิดดูว่าพวกองครักษ์และส.ส.พรรคเพื่อไทย จะเรียงหน้าออกมาประท้วงมากขนาดไหน
ผมเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยและองครักษ์จะปกป้องนางสาวแพทองธาร ยิ่งกว่าไข่ในหินเสียอีก เพียงแค่ฝ่ายค้านอภิปรายด้วยข้อความที่ทำให้ระคายผิวเพียงนิดเดียว ก็จะถูกประท้วงแหลกลาญแน่นอน