ภาคธุรกิจห่วง แผ่นดินไหว กระทบเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยมาก

Date:

คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) แถลงว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น ทุกภาคส่วนต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจให้กลับมาเร็วที่สุด โดยให้ความสำคัญกับการมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน ประกอบการพิจารณาแผนการรับมือและการจัดการกับปัญหา 

ทั้งนี้ เห็นว่า ควรใช้โอกาสนี้ สำรวจความปลอดภัยของอาคารและสิ่งปลูกสร้างจากเหตุแผ่นดินไหว  เปิดเผยข้อมูลการสำรวจอย่างโปร่งใส และตรวจสอบได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วน รวมถึงนักท่องเที่ยวและนักลงทุนจากต่างประเทศ

“ขณะนี้เศรษฐกิจไทยมีความไม่เชื่อมั่นรอบด้าน ทั้งจากมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ยกระดับขึ้น และยังมีเหตุแผ่นดินไหวในไทย ที่สร้างความไม่เชื่อมั่นทั้งคนในและนอกประเทศในวงกว้าง” ผู้บริหาร กกร. กล่าว

ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยเผชิญหลายปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้จีดีพีปี 2568 ต่ำกว่าที่เคยคาด จากกรอบประมาณการเดิมอยู่ในช่วง 2.4-2.9% ซึ่งได้คำนึงถึงผลกระทบบางส่วนจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ไว้แล้ว แต่ยังมีความไม่แน่นอนถึงขนาดและขอบเขตของมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในคืนวันนี้ ซึ่งอาจจะกระทบต่อจีดีพีเพิ่มขึ้นอีกราว 0.2-0.6%

นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยยังอาจถูกกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตามนักท่องเที่ยวจีนที่ฟื้นตัวได้ช้าและเหตุการณ์แผ่นดินไหว ฉะนั้นไทยต้องเร่งสร้างความเข้มแข็งจากภายใน โดยเร่งดำเนินการผ่าน 1) นโยบายระยะสั้น มุ่งลดผลกระทบจากความไม่แน่นอนภายนอก ปรับกรอบนโยบายมหภาคให้เอื้อต่อการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ และ 2) นโยบายระยะยาว มุ่งเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้านต่าง ๆ และยกระดับขีดความสามารถภาครัฐ

นอกจากนี้ ที่ประชุม กกร. มีความกังวลต่อนโยบายการปรับโครงการสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ (Pool Gas) ที่มีแนวคิดจะผลักภาระต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติไปให้ภาคอุตสาหกรรม เพื่อทำให้ค่าไฟฟ้าลดลง ซึ่งนโยบายดังกล่าวคาดว่าจะทำให้ราคาก๊าซภาคอุตสาหกรรมปรับเพิ่มขึ้นเกือบ 60% จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตภาคอุตสาหกรรมสูงถึง 30,000 ล้านบาทต่อปี ดังนั้น การปรับโครงสร้างราคาพลังงานจึงควรมีการศึกษาความเป็นไปได้และผลกระทบของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนอย่างสมดุล ตลอดจนพิจารณาแนวทางการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุของโครงสร้างพลังงาน ไม่ใช่การโยกตัวเลขหรือผลักภาระต้นทุนพลังงานไปให้อีกภาคส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ขอให้พิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการดำเนินการเพื่อไม่ให้เกิดภาระต้นทุนกับการผลิตของภาคอุตสาหกรรม และยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลค่าไฟฟ้าสำหรับประชาชนกลุ่มเปราะบาง

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

“ชลัช รัตนบุญนิธิ” นั่งเอ็มดี EXIM BANK คนใหม่

คณะกรรม EXIM BANK ตั้ง “ชลัช รัตนบุญนิธิ” เป็นกรรมการผู้จัดการ คนใหม่

EXIM BANK เปิดตัว ปั้น SMEs ไทยสู่เวทีการค้าโลก

EXIM BANK เปิดตัว “หลักสูตร EXIM 2X รุ่นที่ 1 ปี 2568” ปั้น SMEs ไทยสู่เวทีการค้าโลก

คปภ. จัดประชุมหารือแนวทางการลดข้อร้องเรียนด้านการประกันภัย

คปภ. จัดประชุมหารือแนวทางการลดข้อร้องเรียนด้านการประกันภัย ร่วมผลักดันระบบคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประชาชนให้มีประสิทธิภาพ

กฟผ. ติดตามสถานการณ์ฝนตกในหลายพื้นที่

กฟผ. ติดตามสถานการณ์ฝนตกในหลายพื้นที่ พร้อมดูแลความมั่นคงระบบไฟฟ้าและสถานการณ์น้ำในเขื่อนอย่างใกล้ชิด