ธ.ไทยเครดิต นพอร์ตสินเชื่อไมโครเอสเอ็มอีแตะแสนล้าน

Date:

นายรอยย์ ออกุสตินัส กุนารา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) เผยว่า “ผู้ประกอบการไมโครเอสเอ็มอี ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญของเศรษฐกิจไทย แม้จะมีศักยภาพในการเติบโต แต่ยังคงต้องเผชิญกับข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ด้วยเหตุนี้ธนาคารฯ จึงได้พัฒนา ‘สินเชื่อ SME กล้าให้’ โดยได้เริ่มให้บริการสินเชื่อดังกล่าวอย่างเป็นทางการในปี 2562 และได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากตลาด” 

นายรอยย์ อธิบายว่า “ตลอดระยะเวลา 6 ปี ‘สินเชื่อ SME กล้าให้’ มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง มีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากเดิม 2% ในปี 2562 ขยายตัวเป็น 8% ในปี 2567 นอกจากส่วนแบ่งทางการตลาดแล้ว สินเชื่อในกลุ่มไมโครเอสเอ็มอีของธนาคารฯ ยังมีอัตราการเติบโตที่โดดเด่นในหลายด้าน อาทิ ยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ (New Booking Volume) ตั้งแต่ปี 2562-2567 รวมกว่า 180,000 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนเคสในการปล่อยสินเชื่อรวมมากกว่า 28,000 เคส พอร์ตสินเชื่อกลุ่มไมโครเอสเอ็มอี (Loan Balance) มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี (CAGR) ระหว่างปี 2562-2567 อยู่ที่ 26.9% ปัจจุบันพอร์ตสินเชื่อกลุ่มไมโครเอสเอ็มอีของธนาคารฯ มีมูลค่ามากกว่า 100,000 ล้านบาท”

นายรอยย์ ได้กล่าวเสริมว่า “สิ่งที่ท้าทายที่สุดนอกเหนือจากการสร้างการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อแล้ว คือการทลายกรอบเดิมๆ ของระบบการพิจารณาสินเชื่อ เพื่อขยายโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อให้ได้มากที่สุด โดยยังคงต้องอยู่ภายใต้กรอบการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม ซึ่งตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา ธนาคารฯ สามารถควบคุมและบริหารความเสี่ยงได้ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ เห็นได้จากภาพสะท้อนการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อกลุ่มไมโครเอสเอ็มอีของธนาคารฯ ที่มีการเติบโตอยู่ในระดับเลขสองหลักมาโดยตลอด โดยในปี 2567 ธนาคารฯ มีอัตราการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อกลุ่มไมโครเอสเอ็มอีอยู่ที่ 12.8% จากปี 2566 มีอัตราหนี้เสีย (NPL) อยู่ที่ 3.7% สวนทางกับภาพรวมของอุตสาหกรรมที่มีอัตราการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อธุรกิจประเภทวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท อยู่ที่ -5% จากปี 2566 และมีอัตราหนี้เสีย (NPL) อยู่ที่ 7.01% สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2568 ธนาคารฯ มีแผนขับเคลื่อนองค์กรเพื่อเดินตามพันธกิจที่วางไว้ ผ่านกลยุทธ์สำคัญใน 2 ด้าน ได้แก่  1. การเติบโตของสินเชื่อหลัก 2. Digital Transformation โดยเชื่อมั่นว่า ‘สินเชื่อ SME กล้าให้’ จะเป็นผลิตภัณฑ์หลักในการขับเคลื่อนให้ธนาคารฯ สามารถก้าวไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้”

นายนาธัส กฤตวรานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริหารธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากสภาพเศรษฐกิจที่การฟื้นตัวเป็นไปอย่างล่าช้าและการชะลอตัวของสินเชื่อใหม่จากเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการไมโครเอสเอ็มอีหลายรายประสบปัญหาไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ เพื่อช่วยทลายข้อจำกัดดังกล่าว ธนาคารฯ ได้นำโมเดลการพิจารณาสินเชื่อแบบ Risk-based Pricing เข้ามาใช้เป็นครั้งแรกสำหรับกลุ่มลูกค้าไมโครเอสเอ็มอี โมเดลดังกล่าวจะช่วยผ่อนปรนให้ธนาคารฯ สามารถพิจารณาสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการภายใต้เงื่อนไขการบริหารความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ธนาคารฯ จึงได้เปิดตัว ‘สินเชื่อ SME กล้าสู้’ อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 6.95% ต่อปี ใช้เงินฝากเป็นหลักประกัน วงเงินสินเชื่อสูงสุด 5 เท่าของหลักประกัน และไม่เกิน 10 ล้านบาท เชื่อว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ประกอบการไมโครเอสเอ็มอีสามารถเข้าถึงเงินทุนในระบบภายใต้สภาวะคับขันทางเศรษฐกิจ และสามารถก้าวข้ามวิกฤตครั้งนี้เพื่อการเติบโตได้อย่างยั่งยืน”

นายนาธัส กล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกจากนี้ ธนาคารฯ ยังขยายเพดานวงเงินสูงสุดสินเชื่อ SME กล้าให้ จากเดิม 35 ล้านบาท เป็น 50 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจไมโครเอสเอ็มอีอย่างเต็มศักยภาพ ตามจุดยืนของธนาคารไทยเครดิตที่พร้อม STANDBY เคียงข้าง SME และที่สำคัญธนาคารฯ ยังมีแผนขยายจุดให้บริการลูกค้าธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี โดยการเปิด Business Center ในจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางธุรกิจ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการสินเชื่อไมโครเอสเอ็มอีได้สะดวกและครอบคลุมยิ่งขึ้น”

“พร้อมกันนี้ ธนาคารฯ ยังถือโอกาสเปิดตัวแคมเปญ ‘Always STANDBY’ ดึงบทเพลง ‘แค่มี’ ที่มีการปรับเนื้อร้องพิเศษให้เป็นแบบฉบับของธนาคารไทยเครดิตโดยเฉพาะ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘แค่มีเรา STANDBY’ นำเสนอผ่าน MV และภาพยนตร์สั้น 4 เรื่อง สะท้อนภาพชีวิตและการต่อสู้ของผู้ประกอบการไมโครเอสเอ็มอี โดยมีธนาคารไทยเครดิต STANDBY คอยอยู่เคียงข้างเป็นกองหนุนให้ผู้ประกอบการในทุกช่วงเวลา สื่อถึงกำลังใจ ความห่วงใย และความปรารถนาดีของธนาคารฯ ส่งไปยังผู้ประกอบการไมโครเอสเอ็มอีไทย หวังว่าทุกคนจะชอบครับ” นายนาธัส กล่าว

รับชม MV เพลง “แค่มีเรา STANDBY” โดย ธนาคารไทยเครดิต ได้แล้ววันนี้ ผ่านช่องทาง YouTube: Thai Credit Bank SME กล้าให้ และ Facebook: Thai Credit Bank SME กล้าให้

ข้อมูลผลิตภัณฑ์สินเชื่อ

สินเชื่อ SME กล้าสู้ เป็นผลิตภัณฑ์สินเชื่อธุรกิจแบบมีระยะเวลา (Term Loan) ใช้เงินฝากออมทรัพย์ของธนาคารไทยเครดิตเป็นหลักประกัน อนุมัติวงเงินสินเชื่อสูงสุด 5 เท่าของหลักประกันเงินฝาก สูงสุด 10 ล้านบาท* สำหรับนิติบุคคล และสูงสุด 5 ล้านบาท* สำหรับบุคคลธรรมดา อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น MRR-3.05% ต่อปี (6.95% ต่อปี) ถึง MRR+17.95% ต่อปี (27.95% ต่อปี)* ระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุด 12 ปี โดยผู้กู้ต้องมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป

สินเชื่อ SME กล้าให้เต็ม MAX ขยายวงเงินสินเชื่อสูงสุด 50 ล้านบาท* และไม่เกิน 2 เท่าของมูลค่าประเมินหลักประกัน โดยสามารถใช้ที่ดินเปล่า ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ห้องชุดพักอาศัย หรือเงินฝาก เป็นหลักประกัน อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น MRR-4.55% ต่อปี* (5.45% ต่อปี) ถึง MRR+3.20% ต่อปี* (13.20% ต่อปี) ระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุด 12 ปี โดยผู้กู้ต้องมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป

*หมายเหตุ: 

– วงเงินสินเชื่อและอัตราดอกเบี้ยพิจารณาตามคุณสมบัติของผู้กู้ เงื่อนไขอื่นๆ เป็นไปตามที่ธนาคารฯ กำหนด ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ธนาคารฯ www.thaicreditbank.com หรือ โทร. 0-2697-5454

– อ้างอิง MRR ตามประกาศของธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 2/2568 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2568 เท่ากับ 10.00% ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

SAM “ส่งมอบโอกาสเพื่อคนไทย เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน”

SAM “ส่งมอบโอกาสเพื่อคนไทย เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ร่วมออกบูท “มันนี่ เอ็กซ์โป หาดใหญ่” จัดโปรฯเด่นทรัพย์มือสองฟรี! ค่าโอน

GPSC เปิดแผนศึกษา SMR เทคโนโลยี Gen IV

GPSC เปิดแผนศึกษา SMR เทคโนโลยี Gen IV ผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด ตอบโจทย์ภาคการผลิต มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero Emissions

GPSC คว้า 5 รางวัล Asian Excellence Award 9 ปีซ้อน

GPSC คว้า 5 รางวัล Asian Excellence Award 9 ปีซ้อน ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมพลังงานระดับเอเชีย

พม. พัฒนา “App DepFund” สร้างโอกาส “คนพิการและผู้ดูแล”

พม. พัฒนา “App DepFund” สร้างโอกาส “คนพิการและผู้ดูแล” เข้าถึงบริการเงินกู้ยืมง่ายขึ้น