บมจ.มั่นคงเคหะการ ประกาศแผนชำระคืนหุ้นกู้ 3,383 ล้านบาท

Date:

 บมจ.มั่นคงเคหะการ หรือ MK ประกาศแนวทางชำระคืนหุ้นกู้คงค้างรวมทั้งหมด 3,383 ล้านบาท โดยมีกำหนดชำระในช่วงระหว่างปี 2568 และ 2569 พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนและผู้ถือหุ้นกู้ ปูทางสู่ความมั่นคงระยะยาว หลังจากการปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจครั้งสำคัญ มุ่งเน้นธุรกิจสร้างรายได้ประจำ ภายใต้เรือธงหลักอย่าง บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด หรือ PD ซึ่งเป็นผู้นำการพัฒนาโครงการคลังสินค้าและโรงงานให้เช่า พื้นที่ Free Zone เขตปลอดอากร โชว์อัตราการเช่า (Occupancy Rate) เฉลี่ยรวมสูงกว่า 90% ต่อเนื่อง 

ล่าสุด ในช่วงไตรมาส 1/2568 บริษัทฯ ได้ชำระคืนหุ้นกู้ตามกำหนดไปแล้ว รวมทั้งสิ้น 2 ชุด คิดเป็นมูลค่ารวม 1,489 ล้านบาท ได้แก่ หุ้นกู้รุ่น MK252A ออกและเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 2/2566 ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 10 ก.พ. 2568 จำนวน 300 ล้านบาท และ หุ้นกู้รุ่น MK253A ออกและเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 3/2565 มูลค่า 1,189 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 15 มี.ค. 2568

ทั้งนี้ MK ได้เตรียมแผนชำระคืนพร้อมดอกเบี้ยให้กับผู้ถือหุ้นกู้อีก 3 ชุด รวมทั้งสิ้น 1,894 ล้านบาท ที่จะครบกำหนดชำระในเดือนมิถุนายน 2568, เดือนมีนาคม และ พฤษภาคม 2569 ตามลำดับ สะท้อนถึงศักยภาพการบริหารจัดการสภาพคล่อง และการรักษาความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงินได้เป็นอย่างดี

นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัทฯ เล็งเห็นความสำคัญของการชำระหุ้นกู้ตามกำหนด และคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย เราขอขอบคุณนักลงทุน และผู้ถือกู้หุ้นทุกราย ที่ไว้วางใจและให้การสนับสนุนการออกหุ้นกู้ของ MK เป็นอย่างดีเสมอมา แผนการชำระหุ้นกู้ในครั้งนี้ทำเห็นถึงแนวโน้มที่ดีภายหลังการปรับโครงสร้างเต็มรูปแบบ เน้นที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า กระจายความเสี่ยงในพอร์ตของธุรกิจ พร้อมเดินหน้าสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต” 

สำหรับการออกหุ้นกู้ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้นำเงินไปใช้ตามวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการเงิน ปัจุบัน MK มีโครงการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าที่ดำเนินการโดย บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ที่พัฒนาแล้วและอยู่ระหว่างการพัฒนา บน 3 ทำเลยุทธศาสตร์ สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา และ อยุธยา 

อีกทั้งยังมีโครงการในอนาคตที่มีแผนจะพัฒนาอีก 3 โครงการ ตั้งอยู่บริเวณคลัสเตอร์ศูนย์กลางอุตสาหกรรม อาทิ โครงการ BFTZ 8 ถ.เทพารักษ์ เป็นต้น โดยหากพิจารณาโครงการใน Pipeline ทั้งหมดแล้ว จะเห็นได้ว่า มีโอกาสเติบโตในระยะยาวผ่านการลงทุนในทรัพย์สินโครงการอื่น ๆ ที่ PD เป็นผู้พัฒนา ตลอดจนการระดมทุนผ่านการออกหน่วยทรัสต์เพิ่มทุน รวมถึงการขายทรัพย์สินเข้ากอง PROSPECT REIT

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ เติมความรู้พร้อมรับมือเหตุฉุกเฉิน

ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ เติมความรู้พร้อมรับมือเหตุฉุกเฉิน และแผนบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ

ธพส. เดินหน้า “Road to Sustainnovation” 

ธพส. เดินหน้า “Road to Sustainnovation” ยึด ESG ยกระดับบุคลากรขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน

21 ปี ธพส. นำองค์กรสู่ความยั่งยืน

21 ปี ธพส. “เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ” นำองค์กรสู่ความยั่งยืน

“ในหลวง-พระราชินี” เตรียมพระราชทานเหรียญกล้าหาญให้ทหาร

“ในหลวง-พระราชินี” เตรียมพระราชทานเหรียญกล้าหาญให้ทหาร-ตชด.-ทหารพราน ที่ปฏิบัติงานชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งรายบุคคลและหน่วย