CKPower สานต่อ “โครงการหิ่งห้อย” ปีที่ 8

Date:

บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower (ชื่อย่อหลักทรัพย์: CKP) หนึ่งในผู้นำในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคและมีคาร์บอนฟุตพรินต์ต่ำที่สุดรายหนึ่ง เดินหน้าสานต่อการจัดโครงการหิ่งห้อยปีที่ 8 ชูแนวคิด “จุดประกายการเรียนรู้ เปิดประตูสู่ความยั่งยืน” ผ่านการส่งมอบอาคารห้องสมุด ประหยัดพลังงาน พร้อมสร้างองค์ความรู้ด้านพลังงานหมุนเวียน และการอนุรักษ์ ปกป้อง ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้กับนักเรียน ณ ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านแม่มุใน บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) อุปถัมภ์ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่

นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower กล่าวว่า ภายใต้กรอบการดำเนินงานสร้างคุณค่าสู่สังคม หรือ CSR Strategy Framework เป็นระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ. 2565-2569) ของ CKPower ยังคงเดินหน้าใช้ขีดความสามารถของบุคลากรในองค์กร โดยเฉพาะในด้านวิศวกรรมไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพื่อพัฒนาชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจผ่านโครงการหิ่งห้อย โดยได้ริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2559 จากความมุ่งมั่น ตั้งใจในการใช้ความเชี่ยวชาญด้านพลังงานหมุนเวียน วิศวกรรม เข้าไปเสริมสร้างศักยภาพของชุมชนและสังคมในพื้นที่โดยรอบโรงไฟฟ้าและพื้นที่ห่างไกล ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันก้าวสู่ปีที่ 8 โดยยังคงมีหมุดหมายสำคัญในการเพิ่มการเข้าถึงพลังงานหมุนเวียนให้กับชุมชนและปลูกฝัง DNA ของพนักงานให้มีจิตอาสาร่วมกันส่งต่อความรู้การอนุรักษ์ ปกป้อง ฟื้นฟู ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้กับเยาวชนอย่างสม่ำเสมอและสอดคล้องกับแผนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs)

นายธนวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า โครงการหิ่งห้อยปีที่ 8 CKPower ได้ส่งมอบอาคารห้องสมุดใหม่ในรูปแบบอาคารประหยัดพลังงานด้วยการเพิ่มช่องแสงจากธรรมชาติ เพิ่มอากาศถ่ายเท สามารถลดการใช้ไฟฟ้าภายในอาคาร โดยได้รับการสนับสนุนที่ดีจากจิตอาสา CKPower Group กว่า 250 คน ผนึกพลังพัฒนาพื้นที่ให้สามารถใช้ประโยชน์ได้มากยิ่งขึ้นผ่านการปรับปรุงพื้นที่โดยรอบให้เหมาะสมกับการใช้งานและส่งเสริมสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ ควบคู่ไปกับการส่งต่อความรู้ด้านพลังงานหมุนเวียน โดยห้องสมุดเดิมได้ปรับนำไปใช้ในการเรียนการสอนสำหรับเด็กประถมศึกษาปีที่ 5 และ 6 ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้สร้างอาคารเรียน รวมถึงบ้านพักสำหรับนักเรียนและครู โดยติดตามและสนับสนุนภาคการศึกษาในมิติต่างๆ ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2561

ทั้งนี้ ผลลัพธ์จากโครงการหิ่งห้อยตลอด 8 ปี คือ การที่ CKPower ได้เพิ่มการเข้าถึงพลังงานหมุนเวียนให้ชุมชนถึง 100,330 วัตต์ เพิ่มความรู้ทางด้านพลังงานหมุนเวียนแก่ครูผู้นำและเยาวชนแล้ว 9,513 คน และเพิ่มความรู้สู่การปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 4,377 คน ผ่านกรอบดำเนินงานสร้างคุณค่าสู่สังคม (CSR Strategy Framework 2565 – 2569) ซึ่งครอบคลุมทั้งมิติสังคม สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ ได้แก่ 1.หิ่งห้อยพลังงานหมุนเวียนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี โดยมุ่งเน้นเรื่องการเข้าถึงและเพิ่มความรู้เกี่ยวกับพลังงานหมุนเวียน เพื่อส่งมอบพลังงานสะอาดให้กับชุมชนและสังคม

2.หิ่งห้อยเพื่อการอนุรักษ์ ปกป้อง ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเสริมสร้างองค์ความรู้และขยายพื้นที่อนุรักษ์ เพื่อปกป้องและฟื้นฟูทรัพยากรป่า และ 3.หิ่งห้อย นวัตกรรมสร้างโอกาสเพื่อชุมชน โดยมุ่งต่อยอดนวัตกรรมสู่การพัฒนาอาชีพ ซึ่งดำเนินการผ่านโครงการ จัดทำผ่านโครงการ One Powerplant One Product (OPOP) มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนควบคู่กับการสนับสนุนการสร้างอาชีพและเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า

CKPower ยังคงเดินหน้าสานต่อโครงการหิ่งห้อยตามกรอบสร้างคุณค่าสู่สังคมเพื่อบรรลุเป้าหมายภายในปี 2569 ร่วมกับพนักงานในองค์กรทุกระดับ  ชุมชน และภาคีเครือข่าย ทั้งในประเทศไทย และสปป.ลาว โดยมุ่งการส่งเสริมการเข้าถึงพลังงานหมุนเวียน และจัดตั้งกองทุนพลังงานหมุนเวียนเพื่อให้เกิดการดูแลร่วมกันในระยะยาว รวมถึงขยายกลุ่มครูและเยาวชนผู้นำทางด้านพลังงานหมุนเวียน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน และสร้างผลกระทบเชิงบวกในวงกว้างต่อไป นายธนวัฒน์  กล่าวทิ้งท้าย

เกี่ยวกับ “บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower”

บริษัทประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานประเภทต่าง ๆ 3 ประเภท จำนวน 18 แห่ง รวมขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 3,640 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย (1) โรงไฟฟ้าพลังน้ำ 3 แห่ง คือ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 ภายใต้ บริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 46% (ถือผ่าน บริษัท เซาท์อีสท์ เอเชีย เอนเนอร์จี จำกัด) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 615 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี ภายใต้ บริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 42.5% ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 1,285 เมกะวัตต์ และ โครงการไฟฟ้าพลังน้ำ หลวงพระบาง ภายใต้ บริษัท หลวงพระบาง พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 50% ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 1,460 เมกะวัตต์ (2) โรงไฟฟ้าระบบโคเจนเนอเรชั่น 2 แห่ง ภายใต้ บริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 65% ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 238 เมกะวัตต์ และ (3) โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ 13 แห่ง ภายใต้ บริษัท บางเขนชัย จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 100% จำนวน 11 แห่ง ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 28 เมกะวัตต์ ภายใต้บริษัท นครราชสีมา โซล่าร์ จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 30% จำนวน 1 แห่ง ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 6 เมกะวัตต์ และภายใต้บริษัท เชียงราย โซล่าร์ จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 30% จำนวน 1 แห่ง ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 8 เมกะวัตต์

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

DEXON ตรวจสอบกังหันลม เดินหน้าเป้าหมาย Net Zero ของไทย

DEXON ตรวจสอบกังหันลม โครงการ Wind Farm เดินหน้าเป้าหมาย Net Zero ของไทย

กยศ. คำนวณหนี้ใหม่ เรียบร้อยแล้ว 556,000 บัญชี

กยศ. คำนวณยอดหนี้ใหม่ เรียบร้อยแล้ว 556,000 บัญชี โดยจะแสดงยอดหนี้ทางแอปพลิเคชัน กยศ. Connect ตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป

“ฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์” เร่งเดินหน้าปิดดีล FTA ไทยอียู

“ฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์” เร่งเดินหน้าปิดดีล FTA ไทยอียู เชื่อเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการ ประชน และเศรษฐกิจไทยมากขึ้น

Solis อินเวอร์เตอร์ ซีรีส์ S6-GC(80-125)K C&I ได้รับการรับรอง ISO

Solis อินเวอร์เตอร์ ซีรีส์ S6-GC(80-125)K C&I ได้รับการรับรอง ISO 14067:2018 Product Carbon Footprint จาก TÜV Süd