
นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ และโฆษก ก.ล.ต. เปิดเผย มูลค่าการระดมทุนของกองทุน Thai ESGX จำนวน 37 กองทุนจากการเสนอขายครั้งแรก (IPO) มีมูลค่าการระดมทุนรวม 840 ล้านบาท โดยผู้ลงทุนมีเวลาลงทุนใน Thai ESGX ได้ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 68 และสำหรับผู้ที่ถือหน่วยลงทุน LTF ที่ต้องการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี บลจ.ส่วนใหญ่จะเปิดให้เริ่มสับเปลี่ยนเป็นหน่วยลงทุน Thai ESGX ได้ตั้งแต่วันนี้ (13 พ.ค.) โดยต้องสับเปลี่ยนทั้งหมด ทุกกองทุน ทุก บลจ. ภายในวันที่ 30 มิ.ย. 68 ซึ่งหากพิจารณาจากใช้สิทธิลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีอื่น ๆ จะพบว่า ผู้ลงทุนมักจะรอดูสภาวะตลาดและตัดสินใจลงทุนในช่วงปลายมาตรการ
ทั้งนี้วงเงินสิทธิประโยชน์ทางภาษีภายใต้มาตรการ Thai ESGX แบ่งออกเป็น 2 วงเงิน ประกอบด้วย
วงเงินที่ 1 สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจลงทุนใน Thai ESGX ได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568 วงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกินร้อยละ 30 ของเงินได้พึงประเมิน เฉพาะในส่วนที่ไม่เกิน 300,000 บาท โดยต้องถือครองหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี (วันชนวัน นับแต่วันที่ลงทุน)
วงเงินที่ 2 สำหรับผู้ที่ถือหน่วยลงทุน LTF ณ วันที่ 11 มีนาคม 2568 ที่แจ้งความประสงค์สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF เดิม ทั้งหมดใน LTF ทุกกองทุนในทุก บลจ. (ไม่รวม class หน่วยภาษีอื่นภายใต้กองทุนเดียวกัน เช่น class SSF) มาเป็นหน่วยลงทุนของ Thai ESGX ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2568 วงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุด 500,000 บาท ตั้งแต่ปีภาษี 2568 – 2572 โดยในปี 2568 วงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุด 300,000 บาท และปี 2569 – 2572 ให้ได้รับลดหย่อนเป็นจำนวนเท่า ๆ กันในแต่ละปีภาษี