เปิดตัว Rapid Group ฟินเทคชั้นนำระดับโลก

Date:

Rapid Group (แรพพิด กรุ๊ป) เปิดตัว 5 บริษัทแห่งอนาคต ตั้งเป้าเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการให้บริการทางการเงินระดับโลก ปฏิวัติวงการสินเชื่อสำหรับรถยนต์บนแพลตฟอร์มดิจิทัล อนุมัติเงิน คาร์ ฟอร์ แคชภายใน 30 นาที ตั้งเป้าลูกค้าใหม่ 250,000 สัญญา ทำยอดสินเชื่อทะลุ 3 หมื่นล้านบาท ภายใน 5 ปี เตรียมบริษัทในเครือระดมทุนในตลาด MAI ปี 2566

นายเดิมพัน อยู่วิทยา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Rapid Group ผู้พัฒนานวัตกรรมและปฏิวัติบริการทางการเงิน (FinTech) สำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์มือสองครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย เปิดเผยว่า การก่อตั้ง Rapid Group นั้นส่วนหนึ่งเกิดจากการที่คลุกคลีกับวงการรถยนต์มือสองซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัวมาก่อน จึงเห็นว่ามีปัญหาตรงไหนบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการให้บริการทางด้านการเงินที่ยังมีช่องว่าง ทั้งกลุ่มที่เข้าถึงเงินทุนและเข้าไม่ถึงเงินทุน จึงตัดสินใจก่อตั้ง Rapid Group ขึ้นมา โดยมีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้นำทางด้านการพัฒนาและให้บริการเทคโนโลยีทางการเงินของไทย เอเชีย และของโลกให้ได้ โดยมีเป้าหมายใหญ่นำ Rapid Group เข้าจดทะเบียนใน NASDAQ หรือ HKEX ภายในปี 2573

“เราเชื่อมั่นว่าจะสามารถอุดช่องว่างนี้ได้ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อยกระดับการให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น มุ่งเน้นการสนับสนุนระบบเศรษฐกิจใหม่ หรือ Digital Economy โดยการยกระดับการให้บริการทางการเงิน และปรับกระบวนการให้บริการให้อยู่บนแพลตฟอร์มดิจิทัลแบบครบวงจร เพื่อลดความผิดพลาดที่เกิดจากแรงงานคนและให้ได้ประสิทธิผลที่เป็นเลิศ 4 ด้าน คือ Faster, Better, Cheaper และSmarter” นายเดิมพันกล่าว

ปัจจุบัน Rapid Group มีบริษัทในเครือทั้งหมด 5 บริษัท โดยบริษัทแรกที่เปิดตัวคือ Rapid Capital (แรพพิด แคปิตอล) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อที่อยู่ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย เริ่มเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2563

นายเดิมพัน กล่าวว่า แม้ว่า Rapid Capital จะเปิดดำเนินการมาเพียงสองปีกว่า แต่ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เริ่มสร้างกำไรทันทีตั้งแต่เริ่มให้บริการ มีการเติบโตกว่า 300% ในปีที่ผ่านมา และจนถึงปัจจุบันนี้มีอัตราหนี้เสีย (Non-performing loan) ที่ต่ำกว่า 1%

“จุดเด่นของ Rapid Capital คือ เราให้บริการบนแพลตฟอร์มดิจิทัลทั้งขาเข้า (มากู้) และขาออก (มารับทะเบียนรถคืน) เราคือบริษัทแรกและบริษัทเดียวในไทยที่ดำเนินการทุกขั้นบนแพลตฟอร์มดิจิตอล ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูปรถ ถ่ายรูปลูกค้า เสียบบัตรประชาชนเข้าไอแพด ยิง OTP แล้วให้ลูกค้าเซ็นต์บนไอแพดก็เสร็จเรียบร้อย ลูกค้าสามารถรับเงินได้ทันที

โดยลูกค้าที่ทางบริษัทเคยปล่อยกู้ที่เร็วที่สุด สามารถรับเงินกู้ได้ภายใน 30 นาที สำหรับขาออกในธุรกิจสินเชื่อที่เกี่ยวกับทะเบียนรถส่วนใหญ่ บริษัททั่วไปโดยเฉลี่ยจะคืนทะเบียนรถให้ลูกค้าภายใน 7-14 วัน หลังจากปิดสัญญา แต่ Rapid Capital สามารถคืนทะเบียนรถให้ได้ทันทีหลังจากที่ปิดสัญญาภายใน 1 นาที พร้อมให้บริการกู้สั้นที่สุดเพียง 2 วัน และพักชำระเงินต้นตลอดอายุสัญญา ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการสินเชื่อรถยนต์แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน” นายเดิมพันกล่าว

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่ายอดขายในตลาดรถยนต์มือสองปี 2565 จะเติบโตได้ในช่วง 3-5% หรือคิดเป็นปริมาณการซื้อขายรถยนต์มือสองราว 6-7 แสนคัน ทำให้ยอดคงค้างสินเชื่อรถยนต์มือสอง มีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ประมาณ 5-7% ที่ระดับประมาณ 3 แสนล้านบาท และหากอ้างอิงข้อมูลการตลาดของ Rapid Capital คาดว่าปริมาณการซื้อขายรถยนต์มือสองน่าจะมีถึง 2.5 ล้านคันต่อปี ในปี 2570 รวมการซื้อขายซ้ำต่อคัน

ในปี 2564 Rapid Capital ได้ลูกค้าใหม่ทั้งหมด 2,500 สัญญา มูลค่าสินเชื่อใหม่กว่า 1,200 ล้านบาท จากเงินหมุนเวียนเริ่มต้นเพียง 300 ล้านบาทเท่านั้น นายเดิมพันกล่าวเพิ่มเติมถึงภาพรวมตลาดรถยนต์มือสองในปีที่ผ่านมาว่า แม้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด แต่กลับทำให้เกิดความต้องการรถยนต์ส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น จากความต้องการใช้รถยนต์ส่วนตัวเพิ่มขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ

“ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์มือสองเติบโตอย่างเห็นได้ชัด เราจึงมั่นใจมากว่า ด้วยความต้องการของตลาด และบริการที่ครบวงจรบนแพลตฟอร์มดิจิทัลของเราจะสามารถทำให้ Rapid Capital เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยปีนี้เราตั้งเป้าโต 30% ทั้งจำนวนสัญญาและมูลค่าสินเชื่อ และเร่งพัฒนาแพลตฟอร์มให้มีความสมบูรณ์พร้อมที่จะขยายสินเชื่อสัญญาใหม่ให้ได้ตามเป้าที่เราตั้งไว้ในอีก 5 ปีข้างหน้า นั่นคือ รองรับจำนวนสัญญาใหม่ 250,000 สัญญา มูลค่าสินเชื่อทะลุ 30,000 ล้านบาทภายในปี 2570 นอกจากนี้ เราอยู่ระหว่างการเตรียมตัวนำ Rapid Capital เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ MAI ในไตรมาสที่ 3/2566 เพื่อรองรับการขยายธุรกิจที่จะเติบโตอย่างรวดเร็วอีกด้วย” นายเดิมพันกล่าว

นอกจาก Rapid Capital แล้ว ยังมีอีก 4 บริษัทที่เตรียมจะทยอยเปิดดำเนินการเร็วๆ นี้ ได้แก่

Rapid Motors (แรพพิด มอเตอร์ส) วันสตอปคอมมูนิตี้สำหรับคนซื้อ-ขายรถ และคนรักรถมือสอง แห่งแรกของโลก ทำเลตั้งอยู่ริมน้ำเจ้าพระยาใกล้สาทรเพียง 15 นาที ออกแบบโดยสถาปนิกระดับโลก ให้บริการครบวงจร ตั้งแต่แพลตฟอร์มดิจิทัลในการนัดซื้อ-ขาย บริการตรวจสอบสภาพรถยนต์ รวมถึงบริการด้านสินเชื่ออนุมัติทันที และไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้ ให้บริการ Co-Working space, Café, Wine bar และ Chef Table ชั้นนำระดับประเทศ คาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการในไตรมาส 2/2566

Rapid FinTech (แรพพิด ฟินเทค) ผู้ให้บริการสินเชื่อโดยมุ่งเน้นสนับสนุนผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีที่เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศ เช่น โดรน โซล่าร์รูฟ และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) คาดว่าจะเปิดให้บริการในไตรมาส 2/2566

Rapid EV (แรพพิด อีวี) ผู้ให้บริการเปลี่ยนรถยนต์จากระบบเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นระบบไฟฟ้า (Electric Vehicles) แห่งแรกของโลก ที่ดำเนินกิจการในระดับ Mega Factory ที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ในการแปลงรถสันดาปเป็นรถไฟฟ้าภายใน 72 ชั่วโมง ช่วยลดการปล่อยก๊าซ CO2 ที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน และเพิ่มมูลค่าให้กับรถมือสองในระยะยาวอย่างยั่งยืน คาดว่าจะเปิดให้บริการไตรมาส 2/2567

Rapid Life (แรพพิด ไลฟ์) แพลตฟอร์มให้บริการขายประกันชีวิต แห่งแรกที่ใช้ระบบสมัครสมาชิกจ่ายค่าเบี้ยประกันรายเดือน (Subscription) ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำงาน สมัครง่ายใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที คุ้มครองทันที (หลังผ่านการตอบคำถามสุขภาพในแพลตฟอร์ม) ไม่ต้องเจอหรือตอบคำถามตัวแทน สร้างหลักประกันให้แก่ชีวิตโดยไม่ต้องแบกรับค่าเบี้ยประกันสูงๆ ลดค่าใช้จ่ายเบี้ยประกันได้อย่างมีนัยยะ เตรียมให้บริการในไตรมาส 3/2565

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

ฉายานายกฯ  “แพทองโพย”

ฉายารัฐบาล ปี 67 “รัฐบาล พ่อ เลี้ยง” ฉายานายกฯ  “แพทองโพย”

ttb analytics คาด เศรษฐกิจไทย 68 โตเพียง 2.6% 

ttb analytics คาดเศรษฐกิจไทย 2568 โตเพียง 2.6% ชี้ความเสี่ยงฉุดเศรษฐกิจไทยสูงขึ้น

กรุงศรี คอนซูมเมอร์ มองสินเชื่อบัตรปีหน้าเหนื่อนกว่าปีนี้

กรุงศรี คอนซูมเมอร์ คาดสินเชื่อบัตรปีหน้าเหนื่อยกว่าปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจไตไม่ตามคาด ต้องคืนดอกเบี้ยให้ลูกค้า

รับมือเที่ยวบินปีใหม่ สนามบินดอนเมือง 4,671 เที่ยว

รับมือเที่ยวบินปีใหม่สนามบินดอนเมือง 4,671 เที่ยว ผู้เดินทาง 7 แสนคน ฟื้นตัวใกล้ 90% เทียบก่อนเกิดโควิด