นายกฯ ปิดประชุมเอกอัครราชทูตฯ ขอทำงานยึดประโยชน์ประเทศ

Date:

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานและมอบนโยบายในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 ภายใต้หัวข้อ การทูตเชิงรุกที่ตอบโจทย์ประชาชนจากนโยบายสู่การปฏิบัติ โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ พร้อมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ ผู้บริหารกระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วม

นายกฯ กล่าวมอบนโยบายช่วงหนึ่งว่า ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่รายงานและสรุปผลของการประชุม รัฐบาลมุ่งเน้นไปทางไหน และต้องการการซัพพอร์ตจากทีมไทยแลนด์อย่างไรได้บ้าง ดิฉันเดินทางไปประชุมอาเซียนได้เจอผู้นำครบทุกประเทศ การประชุมอาเซียนเป็นการประชุมที่เตรียมตัวเยอะและค่อนข้างเหนื่อย แต่ถือว่าคุ้มค่ากับการสร้างความสัมพันธ์ และเมื่อเกิดเหตุอะไร เราสามารถพูดคุยกันได้และเป็นอีกอย่างที่ได้ผล ทั้งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ก็พูดเหมือนกันว่าทุกคนคือมนุษย์ที่ต้องการสร้างความสัมพันธ์แบบมนุษย์ด้วยกัน ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะเป็นทางการ แต่การเป็นเพื่อนเป็นคนที่พึ่งพาพึ่งอาศัยกัน มันก็คือมนุษย์ด้วยกันทุกคนที่ต้องการความสัมพันธ์ที่สื่อสารกันง่ายและเข้าใจกันง่ายอันนี้ถือว่าจำเป็นเช่นกัน

นายกฯ กล่าวว่า อยากให้ทุกคนช่วยกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะโลกปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงเยอะ อย่างกรณีนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง ส่วนหนึ่งมาจากการสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศของเขา ส่วนหนึ่งมาจากข่าวที่มีการบิดเบือน ซึ่งเรื่องเฟกนิวส์ จะหยุดทันที แก้ทุกข่าวคงไม่ไหว สิ่งที่ทำได้คือเอาข้อมูลที่ถูกต้องเข้าสู่ระบบ จะแบบทางการหรือแบบส่วนตัวก็ได้ เพราะทุกท่านถือเป็นคนที่มีความน่าเชื่อถือ เราต้องการต่อสู้กับเฟกนิวส์เราต้องเอาข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์เข้าสู่โซเชียลมีเดีย ต้องมีทีมโซเชียลมีเดียที่เข้มแข็งอันนี้จะช่วยรัฐบาลได้มาก และในเรื่องของเศรษฐกิจ ผลไม้ไทยมีชื่อเสียงไปทั่วโลก กระทรวงการต่างประเทศจะช่วยได้ในส่วนที่มีการติดขัด เช่นเรื่องด่านชายแดนที่ก่อนหน้านี้ต้องใช้เวลานานถึง 14 วัน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เพิ่มห้องแลปในการตรวจ หากใครอยู่ประเทศไหนที่มีปัญหาก็ให้ช่วยเข้าไปคุย อยากให้ทำเชิงรุกมากขึ้น และสิ่งหนึ่งที่เราโปรโมทก่อนหน้านี้ การสร้างความมั่นคงทางอาหารให้ประเทศต่างๆ เราต้องเตรียมแผนตรงนี้ไว้และโปรโมทต่อไป รวมถึงเรื่องการแพทย์หลายประเทศอยากมาอยู่บ้านเราหลังเกษียณ ประเทศไหนมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ เราสามารถนำตรงนั้นมาเพิ่มจุดแข็งของเราได้ รวมถึงช่วยโปรโมทเมืองรอง เมื่อต่างชาติมาอยู่จะได้มีสิ่งใหม่ๆไว้รองรับ นอกจากนี้เรายังเดินหน้าเชื่อมโครงสร้างพื้นฐานอย่างเรื่องแลนด์บริดจ์หลายประเทศสนใจ ทั้งในส่วนที่เป็นของรัฐบาลและเอกชน เขาทำการบ้านกันแล้ว ขอฝากตรงนี้ถ้าใครขอข้อมูลก็ให้ประสานกัน และอยากให้ทำ เขตการค้าเสรี (FTA ) ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น รัฐบาลพยายามสนับสนุนการลงทุนของเอกชนไทยในต่างแดนให้มากขึ้นด้วย 

นายกฯ กล่าวอีกว่า การสื่อสารในทุกระดับมีความสำคัญควรประสานกันเยอะๆเพื่อให้ความเข้าใจทุกอย่างลงไปถึงประชาชนทุกกลุ่มจริงๆ อย่างการเข้าใจผิดเฟกนิวส์ขอเน้นย้ำว่าต้องมีช่องทางการสื่อสารที่สามารถกระจายได้เยอะ ซึ่งท่านทูตแต่ละที่อาจจะมีกลุ่มคนหรือชุมชนของประเทศไทย เป็นย่านของประเทศไทย เราสื่อสารได้ แต่ข้อมูลในโซเชียลก็สำคัญเพราะฉะนั้นขอให้ทำทั้งสองทางนี้ควบคู่กันไป

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนท่าทีและจุดยืนขอยกตัวอย่าง 3 เรื่องที่ขาดการชี้แจงในต่างประเทศ 1.เรื่องมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา การดำเนินการของรัฐบาล รวมถึงพัฒนาการต่างๆว่าไปถึงไหนแล้ว ความจริงสามารถสื่อสารได้เลยให้กับประเทศที่เราอยู่ ว่าเราไปถึงไหนแล้วและขั้นตอนต่อไปจะทำอะไรบ้าง อยากให้มีการสื่อสารที่ถูกต้องจากกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือ  2.สถานการณ์การเมืองในประเทศเพื่อให้นานาประเทศเข้าใจถึงเหตุผลและความจำเป็นของการดำเนินนโยบายของไทยในเรื่องนี้ด้วยว่าจุดยืนของเรา และอาเซียนพร้อมจะเป็นตัวช่วยที่จะทำให้เกิดความสงบสุขในเมียนมาถือเป็นสิ่งที่เราสื่อสารโดยตรงกับเมียนมา จึงถือเป็นสิ่งที่อยากให้ช่วยสื่อสาร 

นายกฯ กล่าวต่อว่า และ3.เรื่องกรณีข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ทุกท่านมีหน้าที่ในการอธิบายเหตุผลให้กับมิตรประเทศเข้าใจว่าความจำเป็นที่ไทยต้องดำเนินมาตรการต่างๆ เหตุผลที่ไทยยึดมั่นในกฎของทวิภาคีเป็นเพราะอะไร รวมถึงความช่วยเหลือที่ไทยมีให้กับกัมพูชามาตลอดตั้งแต่อดีตและปัจจุบันและตอนนี้ก็ยังช่วยเหลือทั้งอยู่เมียนมา และกัมพูชา จึงอยากให้เน้นย้ำในเรื่องนี้ว่าเราไม่ได้มีความต้องการที่จะให้เกิดความรุนแรงขึ้น ตัวดิฉันเองยังประสานกับกองทัพตลอดพูดคุยกันแต่มีเสียงเชียร์ให้เกิดการทะเลาะ เกิดความรุนแรงเราไม่ได้ต้องการให้เกิดเรื่องนั้น การเชียร์กันในโซเชียล เราไม่ได้อยู่หน้างาน คนที่อยู่หน้างานคือคนที่ต้องเสี่ยง ดิฉันเองได้พบและพูดคุยกับคนหน้างาน ไม่มีใครอยากให้เกิดความรุนแรง เพราะเขาถูกฝึกมาแล้วว่าจะต่อสู้อย่างไร จะรบอย่างไร แต่เขาไม่อยากให้เกิดความรุนแรง ฉะนั้นในประเทศต้องสามัคคีกันไว้ ย้ำจุดยืนว่าเราจะแก้ปัญหาด้วยความสันติ คือสิ่งที่สำคัญที่อยากให้ช่วยสื่อสารในเรื่องนี้ เราคุยด้วยเหตุผลและการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ น่าจะมีการเข้าใจกันมากขึ้นระหว่าง 2 ประเทศ อยากให้เข้าใจเชิงยุทธศาสตร์ร่วมกันขอให้ทุกท่านเริ่มที่จะทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง

นายกฯ กล่าวอีกว่า อยากได้การรายงานทุกด้าน เราจะประชุมออนไลน์ร่วมกันว่าจะฝากรัฐมนตรีว่าเราจะ สามารถอัพเดทกันได้อย่างไร อาจมีการนั่งพูดคุยกันเป็นกลุ่มย่อยประมาณ 10 คน ซึ่งดิฉันเองอยากมาด้วยจะได้สามารถพูดคุยกับทุกท่านได้ และรับฟังแต่ละประเทศ หากมีภูมิภาคไหนมีประเด็นสำคัญ เพราะวันนี้ทุกท่านนั่งฝั่งดิฉันอย่างเดียว ฉะนั้นขอมอบการบ้านให้รัฐมนตรี ในเรื่องนี้ด้วย  ทั้งนี้ ขอให้ทีมประเทศไทยแลนด์ทุกคนมองเห็นประโยชน์ของประชาชน ประเทศชาติเป็นสำคัญ ซึ่งทราบอยู่แล้วว่าทุกคนก็คิดอย่างนั้นก็ขอให้ทุกท่านทำงานด้วยความคิดที่ว่าเราจะบูรณาการร่วมกัน เพื่อพัฒนาประเทศของเรารวมกันโดยทุกท่านเป็นกำลังสำคัญ ในแต่ละจุดที่จะทำให้ประเทศเราขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างแข็งแรง

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

กต. แถลง วงประชุม JBC วันแรก บรรยากาศเป็นไปด้วยดี

กต. แถลง วงประชุม JBC วันแรก บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ยืนยันไทยไม่รับอำนาจศาลโลก ต้องพูดคุยผ่านทวิภาคีเท่านั้น

“พิชัย” ลุย ปลื้มชาวมาเลย์ชอบสินค้าไทย

“พิชัย”ลุย Lotus’s กรุงกัวลาลัมเปอร์ ปลื้มชาวมาเลย์ชอบสินค้าไทย เดินหน้าดันสินค้าเจาะตลาดโมเดิร์นเทรดในมาเลเซีย

สำนักงาน คปภ. เปิดเวทีเสริมสร้างความรู้บุคลากร

สำนักงาน คปภ. เปิดเวทีเสริมสร้างความรู้บุคลากร หลักและวิธีการบังคับใช้กฎหมาย ว่าด้วยการประกันภัย ทางอาญา ทางปกครอง และทางพินัย