
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปภาวะตลาดเงินสัปดาห์ที่ 9-13 มิ.ย. 2568 เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบกว่า 8 เดือน แต่อ่อนค่าเล็กน้อยช่วงท้ายสัปดาห์ ขณะที่ ตลาดหุ้นไทยลงต่อเป็นสัปดาห์ที่ 5 โดยร่วงลงแรงช่วงท้ายสัปดาห์ ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน
สำหนับ สัปดาห์ที่ 16-20 มิ.ย. 2568 คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.00 – 32.80 บาท/ดอลลาร์ฯ ส่วนดัชนีหุ้นไทย แนวรับที่ 1,110 และ 1,100 จุด แนวต้านที่ 1,145 และ 1,155 จุด
สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท
เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 8 เดือน แต่อ่อนค่ากลับมาเล็กน้อยช่วงท้ายสัปดาห์ ทั้งนี้เงินบาทขยับอ่อนค่าลงเล็กน้อยในช่วงต้นสัปดาห์ตามแรงขายสุทธิพันธบัตรไทยของต่างชาติ ประกอบกับเงินดอลลาร์ฯ ยังมีแรงหนุนต่อเนื่องจากตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่คาด อย่างไรก็ดี เงินบาทพลิกแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 8 เดือนที่ 32.33 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงกลางสัปดาห์ โดยได้รับอานิสงส์จากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลกและการแข็งค่าของสกุลเงินเอเชีย ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงขายท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีการค้าของสหรัฐฯ (แม้จะมีสัญญาณความคืบหน้าของเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ) นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังมีปัจจัยลบจากตัวเลขเงินเฟ้อ CPI เดือนพ.ค. ของสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาด เงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยช่วงปลายสัปดาห์ตามภาพรวมการอ่อนค่าของสกุลเงินในภูมิภาค ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ มีแรงหนุนกลับมาบางส่วนท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียดของการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน อย่างไรก็ดี กรอบการอ่อนค่าของเงินบาทยังเป็นไปอย่างจำกัด เพราะยังคงมีแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก
สัปดาห์ระหว่างวันที่ 16-20 มิ.ย. 2568 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.00-32.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุม FOMC และ Dot Plot ใหม่ของเฟด (17-18 มิ.ย.) ธนาคารกลางญี่ปุ่น (16-17 มิ.ย.) ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (18 มิ.ย.) ธนาคารกลางอังกฤษ (19 มิ.ย.) และการกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR ของจีน (20 มิ.ย.) ฟันด์โฟลว์ต่างชาติ ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก สัญญาณการเจรจาการค้าของสหรัฐฯ และคู่ค้า สถานการณ์ระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ข้อมูลยอดค้าปลีกเดือนพ.ค. ของสหรัฐฯ ตลอดจนข้อมูลเศรษฐกิจจีนเดือนพ.ค.
สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย
ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงแรงช่วงท้ายสัปดาห์ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน ทั้งนี้ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบก่อนจะขยับขึ้นช่วงกลางสัปดาห์ หลังมีแรงหนุนจากรายงานความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ซึ่งได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นแล้ว ประกอบกับสหรัฐฯ ตอบรับเจรจาการค้ากับไทยอย่างเป็นทางการ แต่กรอบการปรับขึ้นของตลาดหุ้นไทยยังค่อนข้างจำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังมีความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจไทย ซึ่งล่าสุดธนาคารโลกได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีไทยปี 2568 ลงเหลือ 1.8% ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงแรงในเวลาต่อมา หลังจากที่ตอบรับประเด็นบวกข้างต้นไปพอสมควร โดยเผชิญแรงขายทำกำไรหุ้นบิ๊กแคปในหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยี แบงก์ และไฟแนนซ์ซึ่งมีประเด็นเรื่องความกังวลเกี่ยวกับการเข้ามากำกับดูแลธุรกิจเช่าซื้อ-ลีสซิ่งของธปท. ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงต่อในช่วงท้ายสัปดาห์ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังมีรายงานข่าวว่าอิสราเอลเปิดฉากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่ออิหร่าน ซึ่งกระตุ้นแรงขายหุ้นทุกกลุ่ม ยกเว้นกลุ่มพลังงานที่ได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวขึ้น
สัปดาห์ที่ 16-20 มิ.ย. 2568 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,110 และ 1,100 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,145 และ 1,155 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุม FOMC, BOJ และ BOE ประเด็นเกี่ยวกับนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค. ของสหรัฐฯ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพ.ค. ของยูโรโซน อังกฤษและญี่ปุ่น ตลอดจนการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR เดือนมิ.ย. และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนพ.ค. ของจีน