ครม. ผ่านงบกระตุ้น ศก. 1.15 แสนล้านบาท

Date:

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้วงเงิน 157,000 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังในฐานะฝ่ายเลขานุการ คกก. นโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เสนอต่อ ครม. โดยนายกรัฐมนตรี สั่งการดังนี้ ให้คณะอนุฯ กลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ และคณะอนุฯ กำกับและติดตามผลการดำเนินงานตามแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจฯ ดำเนินการติดตาม อย่างใกล้ชิด

นายจิรายุ กล่าวว่า โดยโครงการ/รายการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฯ ที่ผ่านการพิจารณาของ คกก.ฯ จำนวน 50 หน่วยรับงบฯ 481 โครงการ 8,939 รายการ ภายในกรอบวงเงิน 115,375.27 ล้านบาท โดยให้หน่วยรับงบฯ ดำเนินการขอรับ จัดสรรงบฯ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจฯ ตามระเบียบต่อไปและให้กระทรวง/หน่วยงานต้นสังกัดกำกับดูแล ติดตาม และตรวจสอบการดำเนินงานของหน่วยรับงบฯ ให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด รอบคอบและเกิดความคุ้มค่าต่อเศรษฐกิจ

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิรองนายกฯ พิชัย รมว.คลัง / ก.การคลัง และ สภาพัฒน์ฯ ว่ามีความเห็นอย่างไร ว่าการดำเนินการเรื่องนี้นั้น จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ตามวัตถุประสงค์อย่างไร ซึ่งกระทรวงการคลังยืนยันว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างแน่นอน ขณะที่ สำนักงบฯ ได้ชี้แจงว่า ในแง่ขั้นตอนการเสนอโครงการ และการดำเนินโครงการได้ตรวจสอบทุกขั้นตอนแล้วว่า เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง  

ขณะที่ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา รายงานว่า ได้พิจารณาในประเด็น ข้อกฎหมายรวมทั้ง หนังสือจากหน่วยงานต่างๆ เช่น สตง. / ปปช. ได้มีการหารือกันในขั้นตอนการกลั่นกรองโครงการแล้ว

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า หลังจากรับฟังรายงาน ที่ประชุม ครม. มีมติ รับทราบและเห็นชอบตามที่ ก.คลัง เสนอ โดยนายกรัฐมนตรี ให้รับความเห็นหน่วยงานต่างๆ ไปดำเนินการและให้หน่วยรับงบฯ ดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบฯ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ พ.ศ. 67 อย่างเคร่งครัด ตั้งแต่กระบวนการจัดทำคำของบฯ กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง การดำเนินโครงการ ตลอดจนการติดตามและประเมินผล และให้หน่วยงานเจ้าสังกัดกำกับดูแลและตรวจสอบการดำเนินการในทุกขั้นตอนให้สอดคล้องตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด รวมทั้งดำเนินการอย่างรอบคอบ โปร่งใส เป็นธรรมและทันตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดเพื่อไม่ให้งบประมาณพับไป โดยคำนึงถึงความคุ้มค่า ประหยัด ผลสัมฤทธิ์ และประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ ตลอดจนประเด็นเรื่อง Three Lines of Defense ของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อให้การกำกับการปฏิบัติตามโครงการเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายและเป็นอย่างมีประสิทธิภาพ 

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

ธ.ก.ส. เป็นเจ้าภาพจัดสัมมนา ยกระดับกระบวนการ KYC

ธ.ก.ส. เป็นเจ้าภาพจัดสัมมนา "ยกระดับกระบวนการ KYC สกัดภัยทุจริตทางการเงิน"

BCPG ร่วมกับ NT ผนึกกำลังสร้าง Data Center

BCPG ร่วมกับ NT ผนึกกำลังสร้าง Data Center แห่งอนาคต ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลไทยสู่ความยั่งยืน

คปภ. ดึงพลังผู้นำยุคใหม่ ร่วมขับเคลื่อนระบบประกันภัยไทยสู่ความยั่งยืน

หลักสูตร Super วปส. รุ่น 3 ปิดฉากอย่างสมบูรณ์ คปภ. ดึงพลังผู้นำยุคใหม่ ร่วมขับเคลื่อนระบบประกันภัยไทยสู่ความยั่งยืน

นายกฯ ถกรับมือสถานการณ์ตะวันออกกลาง

นายกฯ ถกรับมือสถานการณ์ตะวันออกกลาง สั่งเตรียมความพร้อมด้านพลังงาน -เ ตรียมแผนอพยพคนไทยในอิหร่าน–อิสราเอล