นายกฯ ถกรับมือสถานการณ์ตะวันออกกลาง

Date:

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์สาธารณรัฐอิสลามอิหร่านที่กระทบต่อราคาและปริมาณน้ำมันของไทย และการประชุมมาตรการเตรียมการนำคนไทยออกจากพื้นที่ตะวันออกกลาง

ภายหลังการประชุม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีห่วงใยสถานการณ์เหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างประเทศอิสราเอลกับอิหร่าน ซึ่งมีการปิดน่านฟ้าและระบบขนส่งออกนอกประเทศ โดยเฉพาะที่บริเวณช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งถือเป็นช่องแคบสำคัญที่ส่งออกน้ำมันจากตะวันออกกลาง โดยนายกรัฐมนตรีได้เชิญ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การคลัง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ และนางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมทั้ง นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าหารือเพื่อประเมินสถานการณ์การเตรียมความพร้อมด้านพลังงาน ซึ่งประเทศไทยได้สำรองน้ำมัน มีระยะเวลาประมาณ 2 เดือน ที่ประชุมฯ ได้หารือถึงการนำเข้าพลังงานจากแหล่งอื่น ๆ โดยให้กระทรวงพลังงานกลับไปสรุปเพื่อเตรียมความพร้อมหากกรณีเกิดสงครามยาวนานระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน

นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เชิญผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศ ประกอบไปด้วย รมว.การต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงที่เกี่ยวข้อง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้รายงานต่อนายกรัฐมนตรีว่าสถานการณ์ในประเทศอิสราเอลและอิหร่าน ขณะนี้ได้มีการเตรียมความพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะที่ประเทศอิหร่าน ซึ่งมีคนไทยอยู่ประมาณ 300 คน ส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่มีครอบครัวแต่งงานอยู่ที่กรุงเตหะราน ส่วนแรงงานมีอยู่ประมาณ 30 คน ซึ่งหากแจ้งความจำนงก็พร้อมจะพากลับประเทศไทย ส่วนที่อิสราเอลมีคนไทยอยู่ประมาณ 40,000 กว่าคน ซึ่งมีการแจ้งความประสงค์เดินทางกลับจากอิสราเอลประมาณ 100 คน ส่วนที่เหลือยังขอรอดูสถานการณ์ แต่ได้อพยพไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยแล้ว

“นายกรัฐมนตรีขอให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดทั้งสองประเทศ และเตรียมพร้อมอพยพคนไทยทันที เมื่อสถานการณ์รุนแรง โดยให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้กำหนดว่าจะอพยพหรือไม่ โดยให้มีการประเมินสถานการณ์รายชั่วโมง” นายจิรายุ กล่าว

นายจิรายุ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ ในส่วนหน้า เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศได้สำรวจเส้นทางการเดินทางตามแนวชายแดนของทั้งสองประเทศเพื่อมาต่อเครื่องบิน เนื่องจากน่านฟ้าของทั้งสองประเทศในขณะนี้ยังปิดอยู่ไม่มีการเดินอากาศในขณะนี้

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

กนง. มีมติ 6 ต่อ 1 คงดอกเบี้ย 1.75%

กนง. มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่เดิม 1.75%

ธ.ก.ส. เป็นเจ้าภาพจัดสัมมนา ยกระดับกระบวนการ KYC

ธ.ก.ส. เป็นเจ้าภาพจัดสัมมนา "ยกระดับกระบวนการ KYC สกัดภัยทุจริตทางการเงิน"

BCPG ร่วมกับ NT ผนึกกำลังสร้าง Data Center

BCPG ร่วมกับ NT ผนึกกำลังสร้าง Data Center แห่งอนาคต ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลไทยสู่ความยั่งยืน

คปภ. ดึงพลังผู้นำยุคใหม่ ร่วมขับเคลื่อนระบบประกันภัยไทยสู่ความยั่งยืน

หลักสูตร Super วปส. รุ่น 3 ปิดฉากอย่างสมบูรณ์ คปภ. ดึงพลังผู้นำยุคใหม่ ร่วมขับเคลื่อนระบบประกันภัยไทยสู่ความยั่งยืน