ซีไอเอ็มบี มอง กนง.ไม่ลดดอกเบี้ย ส่งผลร้ายเศรษฐกิจ

Date:

อมรเทพ

นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงดอกเบี้ย 1.75% ท่ามกลางเศรษฐกิจที่กำลังแผ่ว เงินเฟ้อต่ำ และสินเชื่อหดตัว คำถามคือ: ควรรีบลดหรือยัง? หรือการรอ คือการตัดสินใจที่ดีที่สุดแล้ว?

ในการประชุมวันที่ 25 มิ.ย. 2568 กนง. มีมติ 6:1 ให้ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.75% โดยกรรมการเสียงข้างน้อย 1 เสียงเสนอให้ ลดดอกเบี้ยลง 0.25% เพื่อช่วยลดภาระดอกเบี้ยให้กับภาคเศรษฐกิจที่เริ่มเปราะบางมากขึ้น

แม้ว่าเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีแรกจะโตดีกว่าคาดจากการส่งออกและภาคการผลิต (ทำให้ BOT ปรับ GDP ปีนี้ขึ้นจาก 2.0% เป็น 2.3%)

แต่สัญญาณจาก ครึ่งปีหลัง กลับเริ่มชัดเจนว่า “กำลังแผ่ว” ลง

การบริโภคเอกชนชะลอตามรายได้และความเชื่อมั่น

จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง แม้รายจ่ายต่อหัวยังพอช่วยพยุง

ธุรกิจไทยเผชิญแรงกดดันจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยน และสินค้านำเข้าที่แข่งขันรุนแรง

สินเชื่อโดยรวมชะลอต่อเนื่อง โดยเฉพาะ SMEs และครัวเรือนรายได้น้อย

คุณภาพสินเชื่อเริ่มแย่ลง สะท้อนผ่าน NPL และการระมัดระวังของสถาบันการเงิน

เงินเฟ้อทั่วไปต่ำกว่ากรอบเป้าหมายต่อเนื่องอีก 2 ปี

เงินเฟ้อทั่วไปปี 2568 คาดที่ 0.5% / ปี 2569 ที่ 0.8% (ต่ำกว่ากรอบเป้าหมาย 1–3%)

แล้วทำไม กนง. ยังไม่ลดดอกเบี้ย?

มองว่าเศรษฐกิจยังไม่แย่พอ

แรงส่งจาก Q1 และการส่งออก (โดยเฉพาะอิเล็กทรอนิกส์) ยังช่วยพยุงภาพรวม

ต้องการดู “พัฒนาการไตรมาสถัดไป” ก่อนตัดสินใจใช้กระสุน

ยังต้องการ “เก็บ policy space” ไว้ใช้ในอนาคต

ความไม่แน่นอนจากต่างประเทศสูงมาก (สงคราม, มาตรการภาษีสหรัฐฯ)

ถ้าลดตอนนี้ แล้วสถานการณ์โลกเลวร้ายลงอีก อาจไม่มีดอกเบี้ยนโยบายเหลือใช้

ไม่เชื่อว่าการลดดอกเบี้ยตอนนี้จะได้ผลเท่าที่ควร

เพราะกลไกการส่งผ่านนโยบายยังติดขัด​ ความเชื่อมั่นต่ำ, สินเชื่อไม่ขยาย, แบงก์ยังเข้มงวด

ลดดอกเบี้ยอาจไม่ทำให้คนกล้าใช้จ่ายหรือกู้เพิ่ม

มองว่าเงินเฟ้อต่ำ มาจากอุปทาน ไม่ใช่ดีมานด์

เช่น ราคาพลังงานและอาหารสด

ยังไม่เห็นสัญญาณ “ภาวะเงินฝืด” ที่ต้องกังวล

เงินเฟ้อคาดการณ์ระยะกลางยังอยู่ในกรอบ

แต่มุมมองที่ควรถามกลับ ก็คือ…

รอให้แย่ก่อนค่อยลด อาจสายเกินไป

ดอกเบี้ยส่งผลจริงใช้เวลา 6–12 เดือน

หากครึ่งปีหลังเศรษฐกิจดิ่ง แล้วเพิ่งลดตอนปลายปี จะช่วยไม่ทัน ยิ่งเศรษฐกิจไทยปีหน้าเสี่ยงสูง แบงก์ชาติคาดโตเพียง 1.7% ส่งออกหดตัว อุปสงค์ในประเทศซึมลง

เงินเฟ้อต่ำกว่ากรอบเป้าหมาย 2 ปีซ้อน

ถ้ากรอบเงินเฟ้อ 1–3% คือเป้าหมายจริง ก็ควร “ต้องลด” แล้ว

ระวังการสื่อสารที่อาจสะท้อนว่ากรอบนี้ไม่มีผลทางนโยบายจริง (de-anchored)

ดอกเบี้ยที่สูงไป กำลังซ้ำเติมภาคเศรษฐกิจเปราะบาง

ทั้ง SMEs ที่ถูกกดดันจากต้นทุนเงินทุน

ครัวเรือนหนี้สูง เจอภาระผ่อนหนักขึ้น

บางกลุ่มหันไปพึ่งสินเชื่อนอกระบบซึ่งอันตรายกว่า

ภาพเศรษฐกิจที่ดูดี อาจแค่ “ภาพรวม” แต่ไม่ใช่ “รายกลุ่ม”

รายได้คนส่วนใหญ่ยังไม่ฟื้น

การลงทุนเอกชนยังซบเซา

การกระจุกตัวของการส่งออกทำให้ฟื้นตัวแบบเปราะบางมาก

สรุป:

การตัดสินใจ “คงดอกเบี้ย” ของ กนง. อาจสะท้อนความระมัดระวัง และความกลัวที่จะหมดกระสุน หรือมองว่าใช้ตอนนี้ที่มีความไม่แน่นอนสูงไม่น่าจะคุ้ม

แต่ในอีกมุมหนึ่ง… ก็อาจถูกมองว่า รอจน “ช้าเกินไป” ก่อนจะลงมือ และท้ายสุดอาจจำต้องลดดอกเบี้ยลึกกว่าที่จำเป็น

และคำถามที่น่าคิดต่อคือ — ถ้าเรายึดกรอบเงินเฟ้อเป็นเป้าหมายนโยบายจริง ทำไมจึงยังไม่ปรับดอกเบี้ยให้สะท้อนความจริง?

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

กสิกรไทย เปิดตัว  AFTERKLASS Business KAMP ปีที่ 6

กสิกรไทยเปิดตัว  AFTERKLASS Business KAMP ปีที่ 6 สร้างเวทีให้เยาวชนไทยโชว์ไอเดียสุดล้ำในแคมป์นวัตกรรม AI เพื่อสังคมที่ดีกว่า

orbix เดินเกมรุกครึ่งปีหลัง

orbix เดินเกมรุกครึ่งปีหลัง เปิดตัวแคมเปญ ‘Power Up Your Life’ พร้อมลิสต์ 8 เหรียญใหม่ ตอบรับเทรนด์โลก

TQM ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดน่าน

TQM ผนึกกำลังสาขา ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดน่าน

AWC ไตรมาส 2/2568 กำไรสุทธิที่ 1,404 ล้านบาท

AWC ไตรมาส 2/2568 กำไรสุทธิที่ 1,404 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.7% พร้อมเปิด “Jurassic World: The Experience”สนับสนุนท่องเที่ยวยั่งยืนให้ประเทศไทย