นายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยว่า ตลอด 20 ปีของการเติบโตจนถึงทุกวันนี้ GGC ยังคงยึดมั่นและดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ “เป็นผู้นำผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม พร้อมขับเคลื่อนพลัง แห่งการสร้างสรรค์ เพื่อคุณค่าที่ยั่งยืน” สอดรับเจตนารมณ์ของ GC Group เพื่อสนองแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงให้ความสำคัญกับการพัฒนาพลังงานไทย ในเรื่อง “เชื้อเพลิงชีวภาพ” โดยทรงมีพระราชกระแสให้คิดค้นพลังงานทดแทนจากพืชผลการเกษตรที่สามารถใช้แทนน้ำมันจากปิโตรเลียม และให้จัดทำโครงการน้ำมันดีเซลสูตรสกัดจากน้ำมันปาล์ม เพื่อเปิดทางเลือกพลังงานทดแทนให้กับคนไทย
ด้วย “แรงบันดาลใจ” ดังกล่าว และความมุ่งมั่นในการพัฒนาพลังงานทดแทนชีวภาพจากพืชเศรษฐกิจของไทย เพื่อการต่อยอดภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมให้เติบโตอย่างยั่งยืน จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นของการก่อตั้งบริษัท ไทยโอลีโอเคมี จำกัด หรือ TOL ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2548 ถือหุ้นโดย บริษัท ไทยโอเลฟินส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOC เพื่อดำเนินธุรกิจโอลีโอเคมีและผลิตเมทิลเอสเทอร์รายแรกในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายการเติบโตอย่างชัดเจนสู่การเป็นผู้นำธุรกิจโอลีโอเคมีในระดับภูมิภาค นับเป็นก้าวแรกของการสนับสนุนและขับเคลื่อนการผลิตไบโอดีเซลตลอดมา เพื่อรองรับความต้องการใช้ ในประเทศ และทดแทนการนำเข้า ก้าวสู่การเป็น บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC ในปัจจุบัน พร้อมเดินหน้าสู่บทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันอย่างเต็มรูปแบบ และก้าวขึ้นเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อมในระดับสากล
ตลอดระยะเวลา 20 ปี GGC ไม่เคยหยุดพัฒนา โดยยังคงมุ่งมั่นในภารกิจและดำเนินธุรกิจ บนพื้นฐานของความยั่งยืน พร้อมร่วมสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับประเทศในมิติต่าง ๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อขับเคลื่อนและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคเศรษฐกิจของไทย ซึ่งถือเป็น ความภาคภูมิใจขององค์กรที่มีส่วนสำคัญในการยกระดับเกษตรกรในอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม ทั้งการพัฒนาองค์ความรู้และสร้างโอกาสในการเข้าถึงมาตรฐานสากล ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นรากฐานสำคัญที่จะผลักดันอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนในอนาคต
วันนี้ GGC พร้อมเดินหน้าภารกิจอย่างต่อเนื่อง ด้วยความมุ่งมั่นและแรงบันดาลใจ “ร่วมกันเติบโต…ด้วยหัวใจที่ยั่งยืน เพราะการเติบโตไปพร้อมกัน ไม่ใช่แค่ในเชิงการดำเนินธุรกิจ แต่คือการเติบโตที่มีคุณค่าต่อผู้คน สังคม และประเทศไทย”
ผ่านมา 20 ปี จนถึงปัจจุบัน GGC เป็นบริษัทแกนนำในธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Flagship Company) ของกลุ่มบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ที่ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยมีผลิตภัณฑ์หลักที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและตอบโจทย์ การพัฒนาอย่างยั่งยืนในปัจจุบัน ได้แก่
1 เมทิลเอสเทอร์ (B100) : ส่วนประกอบหลักในการผลิตไบโอดีเซล กำลังการผลิต 500,000 ตันต่อปี
2 แฟตตี้แอลกอฮอล์ : สารตั้งต้นสำคัญในผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพและสุขอนามัยส่วนบุคคล โดย GGC เป็นผู้ผลิตรายเดียวในประเทศไทย กำลังการผลิต 100,000 ตันต่อปี
3 กลีเซอรีน : วัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมยาและเครื่องสำอาง กำลังการผลิต 51,000 ตัน ต่อปี
ด้วยเป้าหมายการเติบโตในระดับสากล GGC มุ่งมั่น พัฒนา และแสวงหาโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ควบคู่ไปกับการขยายการดำเนินธุรกิจจากกลุ่มธุรกิจพลังงานชีวภาพสู่กลุ่มธุรกิจเคมีชีวภาพ สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มและผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน (High Value Products & Sustainable Products) เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต
นายกฤษฎา กล่าวทิ้งท้ายว่า “ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา GGC ยึดมั่นการดำเนินธุรกิจ ด้วยหลักความยั่งยืนพร้อมสร้างสมดุลระหว่าง สิ่งแวดล้อม สังคม ภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี (ESG) มีการบริหารจัดการความยั่งยืนที่เข้มแข็ง ตอกย้ำการเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืนในระดับสากล ตามวิสัยทัศน์ “TO BE A LEADING GREEN CHEMICAL COMPANY BY CREATING SUSTAINABLE VALUE”
