รมช.คลัง เป็นประธานเปิดะบบควบคุมและติดตามการขนส่งสินค้าน้ำมัน

Date:

ดร. เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิด “ระบบควบคุมและติดตามการขนส่งสินค้าน้ำมันที่ส่งออกนอกราชอาณาจักรทางบกด้วยอุปกรณ์ซีลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Seal)” ณ บริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่กรมสรรพสามิตนำมาใช้เพื่อยกระดับมาตรการกำกับดูแลการส่งออกน้ำมันให้มีความรัดกุม โปร่งใส และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ การนำระบบดังกล่าวมาใช้ ยังมีส่วนสำคัญในการลดความเสี่ยงจากการลักลอบนำน้ำมันที่ส่งออกไปแล้วกลับเข้ามาจำหน่ายในประเทศ อันจะช่วยป้องกันการสูญเสียรายได้ของรัฐและเสริมสร้างความเป็นธรรมทางการค้า

ดร. เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้ลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิด “ระบบควบคุมและติดตามการขนส่งสินค้าน้ำมันที่ส่งออกนอกราชอาณาจักรทางบกด้วยอุปกรณ์ซีลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Seal)” ที่เป็นเทคโนโลยีในการควบคุมและบริหาร การจัดเก็บภาษีน้ำมันของสรรพสามิต มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี เพิ่มศักยภาพในการให้บริการ รวมถึง การกำกับควบคุมและตรวจสอบการขนส่งสินค้าจากต้นทางไปยังปลายทางด้วยความรวดเร็ว ทันสมัย เกิดความโปร่งใส และยังช่วยแก้ปัญหาการลักลอบนำน้ำมันที่มีการยกเว้นภาษีเพื่อส่งออกกลับมาจำหน่ายภายในประเทศอีกด้วย โดยปัจจุบันการส่งออกสินค้าน้ำมันไปต่างประเทศจะได้รับการยกเว้นภาษีสรรพสามิต หรือผู้ประกอบการสามารถขอคืนภาษีสรรพสามิตได้หลังจากมีการส่งออกแล้ว โดยสินค้าน้ำมันที่ได้รับยกเว้นภาษีสรรพสามิตจากกรณีส่งออกไปนอกราชอาณาจักรไปยังประเทศเพื่อนบ้านนั้น จะมีทั้งที่ส่งออกไปนอกราชอาณาจักรทางบกโดยรถยนต์ และส่งออกไปนอกราชอาณาจักรทางทะเลโดยเรือ 

ดร. กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ระบบ e-Seal เป็นการนำระบบเทคโนโลยีมาใช้กับการขนส่งน้ำมันทางบก ที่ในปัจจุบันเป็นการใช้ซีลตะกั่วปิดผนึกท่อทางรับ-จ่ายน้ำมันของรถขนส่งสินค้าน้ำมันที่ส่งออกนอกราชอาณาจักร เปลี่ยนมาเป็นอุปกรณ์ซีลอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Seal : e-Seal) ที่ได้รับมาตรฐาน EU Certification Annex III และสามารถเชื่อมต่อกับระบบ GPS มีการแสดงผลการล็อคซีล การปลดล็อคซีล และการเดินทางของรถน้ำมันตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางด่านส่งออกได้ ตลอดเวลา รวมถึง การแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือเหตุผิดปกติ เช่น การเดินรถออกนอกเส้นทาง การหยุดจอดนานเกินปกติ การเกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น ซึ่งก่อนการนำมาใช้อย่างเป็นทางการในครั้งนี้ กรมสรรพสามิตได้มีการทดลองใช้ระบบ e-Seal กับรถขนส่งน้ำมันไปแล้วกว่า 9,000 เที่ยว โดยได้รับความร่วมมือจากบริษัทน้ำมันและคลังน้ำมันหลายราย ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตจะเริ่มนำระบบ e-Seal มาใช้เต็มรูปแบบ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ระบบ e-Seal ยังช่วยลดขั้นตอนการตรวจสอบแบบเดิม เนื่องจากข้อมูลเส้นทาง และสถานะการปิดผนึกถูกส่งตรงถึงเจ้าหน้าที่ปลายทาง ทำให้การตรวจปล่อยสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ อีกทั้ง ระบบสามารถแจ้งเตือนทันทีเมื่อเกิดเหตุผิดปกติ เช่น การออกนอกเส้นทางหรือการเปิดซีล โดยไม่ได้รับอนุญาต การเข้าร่วมใช้ระบบที่ได้มาตรฐานสากลยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ด้านความโปร่งใสและ   ความรับผิดชอบของผู้ประกอบอุตสาหกรรม พร้อมลดความเสี่ยงจากการถูกสันนิษฐานว่ามีการลักลอบ เนื่องจากข้อมูลจาก e-Seal สามารถใช้เป็นหลักฐานยืนยันได้อย่างชัดเจน

ดร.เผ่าภูมิฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า สินค้าน้ำมันเป็นสินค้าที่มีการจัดเก็บภาษีเป็นอันดับหนึ่งของกรมสรรพสามิตโดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 40 ของปริมาณการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต จึงเป็นสินค้าที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก การนำระบบควบคุมและติดตามการขนส่งสินค้าน้ำมันด้วยอุปกรณ์ซีลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Seal) มาใช้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับการกำกับดูแลการส่งออกน้ำมันของประเทศให้มีความรัดกุม โปร่งใส และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล อันจะเป็นรากฐานสำคัญในการเสริมสร้างความเป็นธรรมทางการค้า และสนับสนุนการพัฒนาระบบภาษีของไทยให้ก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

AOT จับมือ กรุงไทย ยกระดับบริหารการเงินด้วย Krungthai BUSINESS

AOT จับมือ กรุงไทย เดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรดิจิทัลเต็มรูปแบบ ยกระดับการบริหารจัดการทางการเงินด้วย Krungthai BUSINESS

กบข. ตอกย้ำยุทธศาสตร์ “เกษียณมีสุข“ สร้างความเข้าใจสมาชิก

กบข. ตอกย้ำยุทธศาสตร์ “เกษียณมีสุข“ สร้างความเข้าใจสินทรัพย์แก่สมาชิก พร้อมเปิดตัวแผนเกษียณสบายใจ ตอบโจทย์สมาชิกใกล้เกษียณ

EXIM BANK ร่วมบรรยายหลักสูตร ESG Leadership

EXIM BANK ร่วมบรรยายหลักสูตร ESG Leadership ส่งเสริมการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน

นายกฯ อนุทิน ประชุม นบข. ปรับโครงสร้างข้าวไทยครั้งใหญ่

นายกฯ อนุทิน ประชุม นบข. ปรับโครงสร้างข้าวไทยครั้งใหญ่ รับดีมานด์จีน–สิงคโปร์ หนุนราคา–เร่งดูดซับส่วนเกิน 3 ล้านตัน