
บริษัท ซีเนียร์ คอม จำกัด ผู้นำด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์และที่ปรึกษาด้านระบบสินเชื่อเช่าซื้อและบริหารจัดการดีลเลอร์ยานยนต์มายาวนานกว่า 33 ปี ประกาศเปิดตัวแพลตฟอร์มสินเชื่อดิจิทัลครบวงจร “H-Meter Capital Experience Version BOT Comply” อย่างเป็นทางการ ชูจุดเด่นเป็นเครื่องมือสำคัญช่วยให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบการ สามารถปรับตัวและปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ใหม่ของพระราชบัญญัติการกำกับดูแลธุรกิจเช่าซื้อที่มีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2568 ได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ในฐานะบริษัทซอฟต์แวร์ไทยหวังใช้เทคโนโลยียกระดับมาตรฐานและความโปร่งใสของธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อ สร้างความเป็นธรรมแก่ผู้บริโภค และช่วยลดภาระหนี้ครัวเรือนในภาพรวมได้
นางสาวสุพนิต อึ่งอารี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) บริษัท ซีเนียร์ คอม จำกัด กล่าวถึงวิกฤติหนี้ครัวเรือนไทยว่า ปัจจุบันหนี้ครัวเรือนไทยอยู่ในระดับ 87.4% ของ GDP ซึ่งถือเป็นหนึ่งในความเสี่ยงสำคัญต่อเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ โดยเฉพาะธุรกิจเช่าซื้อ-ลีสซิ่ง ที่มีสัดส่วนของหนี้ครัวเรือนกว่า 10% หรือมูลค่าถึง 1.6 ล้านล้านบาท
“ปัญหาหลักที่เราพบคือ ความรู้ความเข้าใจด้านการเงิน (Financial Literacy) ของผู้บริโภคในไทยโดยเฉพาะเรื่องเช่าซื้อยังไม่เพียงพอ เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่ มักเข้าใจเพียงรายละเอียดพื้นฐาน เช่น ค่างวดที่ต้องชำระ อัตราดอกเบี้ย แต่จะละเลยข้อกำหนดแฝงในสัญญา สิทธิ์ และขั้นตอนเมื่อถูกยึดทรัพย์ รายละเอียดประกันภัยและค่าบริการเสริม รวมถึงเงื่อนไขปิดสัญญาก่อนกำหนด ดังนั้นการเข้ามาควบคุมดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงจำเป็นอย่างยิ่งในการสร้างเสถียรภาพและปกป้องสิทธิของลูกหนี้“นางสาวสุพนิต กล่าว
เธอกล่าวต่อว่า ดังนั้น บริษัท จึงเปิดตัว H-Meter Capital: การปฏิวัติระบบเช่าซื้อ-ลีสซิ่ง ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้สถาบันการเงินสามารถปรับตัวได้ไวที่สุด และเริ่มต้นใช้งานได้ทันกับกำหนดการประกาศใช้ พ.ร.ฎ. เช่าซื้อ-ลีสซิ่ง ด้วยการทำงานแบบครบวงจร ใช้ได้ทั้งกลุ่มรายย่อยและรายใหญ่ สามารถบริหารจัดการสินเชื่อได้อย่างโปร่งใสและเป็นธรรม ซึ่งตอบโจทย์มาตรฐานของ ธปท. ได้อย่างสมบูรณ์
“สำหรับ แพลตฟอร์ม H-Meter Capital ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยทีมงานคนไทยเพื่อธุรกิจไทยโดยเฉพาะ ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมานานกว่า 33 ปี ทำให้เข้าใจถึงความต้องการและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจอย่างลึกซึ้ง เพราะ H-Meter Capital ถูกออกแบบมาเป็น Turnkey Solution ที่ครอบคลุมการทำงานตั้งแต่การยืนยันตัวตน การตรวจสอบเครดิต การประเมินความเสี่ยง การสร้างใบคำขอสินเชื่อ การทำสัญญา การบริหารจัดการรายการชำระเงิน ไปจนถึงการติดตามหนี้” นางสาวสุพนิต กล่าว
ทั้งนี้ ไฮไลท์เทคโนโลยี H-Meter Capital ได้แก่ ระบบยืนยันตัวตนดิจิทัล (E-KYC) และ NDID เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ
รวมทั้งเป็นปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการช่วยประมวลผลและจัดทำเอกสารได้อย่างแม่นยำ รวมถึงการปรับเงื่อนไขสินเชื่อให้เหมาะสมกับลูกหนี้แต่ละราย
นอกจากนี้ ยังมีการคำนวณที่โปร่งใส โดยคำนวณยอดปิดบัญชีพร้อมอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรมตามสัญญา ทำให้ผู้ประกอบการสามารถปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของ พ.ร.ฎ. ได้อย่างไม่ยุ่งยาก
ทั้งยังมี Dashboard สำหรับผู้บริหาร แสดงภาพรวมธุรกิจแบบ Real-Time วิเคราะห์ข้อมูล พยากรณ์กระแสเงินสดจากการรับชำระ
อย่างไรก็ตาม อีกทั้งยังมีประโยชน์สำหรับทุกภาคส่วน เพราะระบบ Turnkey ที่เหนือกว่า
ขณะที่มุมมองของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่นั้น จะมีระบบที่ครบวงจรและมีประสิทธิภาพสูง พร้อมทีมงานมากประสบการณ์ช่วยบริหารจัดการการย้ายข้อมูลเก่าขึ้นระบบใหม่ได้ครบถ้วน พร้อมดำเนินงานต่อด้วยการออกแบบการ cut-over ที่มี downtime น้อยที่สุด เพื่อช่วยบริหารจัดการพอร์ตสินเชื่อขนาดใหญ่ได้อย่างราบรื่น ลดขั้นตอนร่างเอกสาร ส่งมอบรายงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
ส่วนด้านผู้ประกอบการรายย่อย จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการทำงาน เข้าถึงระบบมาตรฐานสูงในราคาที่เข้าถึงได้ ช่วยให้แข่งขันในตลาดได้อย่างเท่าเทียม และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับองค์กร
ขณะที่ด้านมุมมองผู้บริโภค ต้องมุ่งเน้นเรื่องความโปร่งใสและเป็นธรรม โดยระบบที่ใช้ AI จะช่วยในการปรับเงื่อนไข โปรโมชั่นและคำนวณอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรมและเข้าใจในรายละเอียดสัญญาอย่างชัดเจน
อีกทั้งยังช่วยลดภาระหนี้ ด้วยการคำนวณที่แม่นยำและเป็นธรรม ผู้บริโภคสามารถบริหารจัดการหนี้สินได้ดีขึ้น ลดโอกาสในการเกิดปัญหาหนี้เสียในระยะยาว
นางสาวสุพนิต กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน H-Meter Capital เริ่มให้บริการแก่บริษัทชั้นนำในวงการสินเชื่อเช่าซื้อและลีสซิ่งหลายแห่งมาระยะหนึ่งแล้ว โดยมีบัญชีผู้ใช้งานระบบ (concurrent user) กว่า 10,000 คน ปริมาณธุรกรรมเฉลี่ยกว่า 5 ล้าน รายการต่อเดือน และมีมูลค่าพอร์ตสินเชื่อที่บริหารจัดการผ่านระบบสูงกว่า 10,000 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการดำเนินงานได้อย่างชัดเจน
ด้านแผนการต่อยอดเทคโนโลยีการเงินเพื่อขยายธุรกิจในอนาคต นางสุพิชชา อึงอารี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) กล่าวว่า แผนการขยายบริการของ H-Meter Capital ไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ ว่า “ระบบของ H-Meter Capital เป็นโซลูชันจัดการผลิตภัณฑ์การเงินที่เราออกแบบและพัฒนามาเพื่อลดความซับซ้อน และเร่งกระบวนการให้ผู้ประกอบการทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็นรายใหญ่หรือรายย่อย มีความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจและมีความโปร่งใส เป็นธรรมต่อผู้บริโภค ซึ่งการขยายการใช้งานจะเพิ่มมูลค่าทางการเงินในประเทศได้มาก
“จากความสำเร็จในปัจจุบันซีเนียร์ คอม ยังคงเดินหน้าขยายศักยภาพของแพลตฟอร์ม H-Meter Capital สู่กลุ่มธุรกิจสินเชื่ออื่นๆ ได้แก่ Locked-Phone Financing, Agricultural Machinery Financing และ Home Loans สำหรับผู้ให้สินเชื่อที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-Bank Lender) เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระดับครัวเรือนและสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน”นางสุพิชชา กล่าว