
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.10 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ณ ระดับ 32.18 บาทต่อดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันศุกร์สัปดาห์ก่อนหน้า เงินบาท (USDTHB) ทยอยแข็งค่าขึ้นบ้าง เข้าใกล้โซนแนวรับสำคัญ 32.00 บาทต่อดอลลาร์ (แกว่งตัวในกรอบ 32.02-32.20 บาทต่อดอลลาร์) ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์
สำหรับ แนวโน้มเงินบาท เรายอมรับว่า เงินบาทอาจกลับไปอ่อนค่าต่อเนื่องอย่างชัดเจน “ยาก” หลังผู้เล่นในตลาดปรับเพิ่มความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด กดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง พร้อมกับการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ ขณะเดียวกัน ความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองไทยก็ดูคลี่คลายลงบ้าง ลดความเสี่ยงที่จะเห็นแรงขายสินทรัพย์ไทยจากบรรดานักลงทุนต่างชาติที่รุนแรง
อย่างไรก็ดี เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทยังคงเผชิญความเสี่ยง Two-Way risk โดยเรามองว่า ยังมีโอกาสที่เงินบาทอาจอ่อนค่าลงบ้าง หรืออย่างน้อยการแข็งค่าขึ้นขอเงินบาทก็ควรชะลอลง หลังผู้เล่นในตลาดได้ปรับเพิ่มความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดมาพอสมควร โดยล่าสุด ผู้เล่นในตลาดมองว่า เฟดมีโอกาสราว 75% ที่จะลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง ในปีนี้ ทำให้ หากอัตราเงินเฟ้อ CPI และดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง อาจทำให้ ผู้เล่นในตลาดปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดลงบ้าง หนุนให้เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อาจรีบาวด์ขึ้น กดดันทั้งราคาทองคำและเงินบาทได้ นอกจากนี้ เงินดอลลาร์อาจได้แรงหนุนเพิ่มเติม จากการอ่อนค่าของบรรดาสกุลเงินหลัก โดยเฉพาะเงินยูโร (EUR) และเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองฝรั่งเศสและญี่ปุ่นในระยะสั้น
อนึ่ง เรามองว่า ควรจับตาทิศทางราคาทองคำ (XAUUSD) และเงินหยวนจีน (CNY) อย่างใกล้ชิดด้วยเช่นกัน เนื่องจากการเคลื่อนไหวของทั้งสองสินทรัพย์อาจส่งผลกระทบต่อเงินบาทได้พอสมควร
ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า แม้เงินดอลลาร์ยังคงเผชิญ Two-way risk แต่ เงินดอลลาร์อาจรีบาวด์ขึ้น หากอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ เร่งตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้เล่นในตลาดปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดลงบ้าง ขณะเดียวกัน ความวุ่นวายของสถานการณ์การเมืองฝรั่งเศสและญี่ปุ่น อาจกดดันบรรดาสกุลเงินหลักได้
เราคงคำแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรเลือกใช้เครื่องมือในการปิดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น ท่ามกลางความผันผวนของเงินบาท รวมถึงสกุลเงินอื่นๆ ที่สูงขึ้นกว่าช่วงอดีตที่ผ่านมาพอสมควร โดยผู้เล่นในตลาดอาจเลือกใช้เครื่องมือเพิ่มเติม อาทิ Options หรือ Local Currency ควบคู่ไปกับการปิดความเสี่ยงผ่านการทำสัญญา Forward
มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 31.85-32.45 บาท/ดอลลาร์
ส่วนกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วงโมงข้างหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.00-32.20 บาท/ดอลลาร์