ธ.ทิสโก้ ชี้เป้า 4 ปัญหา “เรื่องเงิน” ที่คนไทยมักพลาด 

Date:

ธนาคารทิสโก้ชี้เป้า 4 ปัญหาเรื่องเงินที่คนไทยมักพลาด ใช้โอกาส “วันวางแผนการเงินโลก” ชวนวางแผนการเงินให้ถูกวิธี ทั้งการบริหารจัดการหนี้ให้อยู่ในระดับเหมาะสม เพิ่มความเสี่ยงสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูง รวมทั้งกระจายพอร์ตลงทุนควบคู่ประกันลดความเสี่ยง และวางแผนเกษียณตั้งแต่วันนี้ 

นายณัฐกฤติ เหล่าทวีทรัพย์ CFP® Head of Wealth Advisory ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า วันที่ 8 ตุลาคม 2568 นี้ ตรงกับ “วันวางแผนการเงินโลก” หรือ World Financial Planning Day 2025 ธนาคารทิสโก้ในฐานะธนาคารที่ให้ความสำคัญด้านการวางแผนการเงินแบบองค์รวม และเป็นหนึ่งในสมาชิกสมาคมนักวางแผนการเงินไทย (TFPA) จึงเดินหน้าจัดกิจกรรมและร่วมให้ความรู้ทางการเงินแก่สังคมตลอดทั้งเดือนตุลาคม และใช้โอกาสนี้เชิญชวนคนไทยวางแผนการเงินอย่างถูกวิธีเพราะปัจจุบันแม้คนไทยจะตระหนักถึงการวางแผนการเงินที่เพิ่มขึ้น แต่ยังพบว่ามีหลายส่วนที่เป็นช่องว่างที่ทำให้การวางแผนการเงินไม่ประสบความสำเร็จในระยะยาว ได้แก่ 1. ออมเงินแต่อาจแพ้เงินเฟ้อ 2. ขาดกันชนทางการเงิน 3. วางแผนเกษียณแต่ทำไม่สำเร็จ  4. เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้   

จากประเด็นดังกล่าว ธนาคารทิสโก้แนะนำให้วางแผนการเงินให้ถูกวิธี 5 ข้อ ดังนี้ 

1. ออม + ลงทุนให้เงินทำงาน 

ไม่ใช่แค่เก็บเงินสดหรือฝากออมทรัพย์ธรรมดา แต่ควรจัดสรรเงินไปลงทุนอย่างมีเป้าหมาย เช่น ตั้งเป้าหมายระยะสั้น เช่นเก็บเงินไปเพื่อไว้ท่องเที่ยว เปลี่ยนโทรศัพท์มือถือใหม่ก็ควรออมเงินลงทุนในสินทรัพย์ที่ผันผวนต่ำอย่างเงินฝากประจำ,กองทุนรวมตราสารหนี้ที่มีอายุไม่เกิน 1 ปี หรือมีเป้าหมายระยะกลาง เช่น ต้องการเก็บเงินเพื่อไปเรียนต่อปริญญาโทใน 5 ปีข้างหน้า ก็ควรจัดสรรเงินลงทุนให้อยู่ในระดับความเสี่ยงปานกลางที่ผสมระหว่างกองทุนตราสารหนี้ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ หุ้นกลุ่มกลุ่มเชิงรับ (Defensive) อย่างกลุ่มสาธารณูปโภค กลุ่มสุขภาพ  

แต่หากเป็นเป้าหมายระยะยาวเช่น ต้องการออมเงินเพื่อใช้ในวัยเกษียณอีก 25 ปีข้างหน้า ก็เน้นลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงสูงได้อย่างเช่นกองทุนรวมหุ้นที่เน้นการเติบโต อย่างหุ้นกลุ่มเมกะเทรนด์ เพื่อให้ผลตอบแทนโดยรวมทุกเป้าหมายสามารถชนะเงินเฟ้อได้และเงินงอกเงยได้ตามเป้าหมาย นอกจากนี้ควรกันเงินสำรองฉุกเฉินแยกจากเงินลงทุนให้อยู่ได้อย่างน้อย 6 เดือนของค่าใช้จ่ายต่อเดือน ซึ่งส่วนนี้ก็สามารถฝากเงินฝากออมทรัพย์ดิจิตอลที่ได้ดอกเบี้ยสูงและถอนเงินได้ทันทีที่ฉุกเฉินจำเป็นต้องใช้ 

2. ลดหนี้ 

เริ่มจากจัดการหนี้ให้สมดุลกับรายได้ ดูจากหนี้ที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงและมีระยะเวลาผ่อนสั้นๆ มารวบรวมเป็นหนี้ที่มีระยะเวลาผ่อนที่ยาวขึ้นและจ่ายดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้ภาระการผ่อนหนี้ต่อเดือนดีขึ้น จะได้มีสภาคล่องในการดำรงชีวิต และไม่ก่อหนี้เพิ่มโดยไม่จำเป็น ซึ่งโดยปกติหากรายได้ไม่สูงมากควรมีภาระหนี้ที่ผ่อนต่อเดือนไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ เพื่อให้มีเงินเหลือสำหรับค่าใช้จ่ายอื่นๆ 

3. สร้างเกาะป้องกันจากเหตุการณ์ไม่คาดคิด 

“การวางแผนประกันภัย” ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของการวางแผนทางการเงินส่วนบุคคล เป็นการถ่ายโอนความเสี่ยงที่เกิดจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันและส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สิน แม้ว่าจะขจัดความเสี่ยงได้ไม่ทั้งหมด แต่ก็ยังอุ่นใจว่าจะได้เงินจากบริษัทประกันมาช่วยบรรเทาความเสียหายจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่างๆ อย่าลืมเรื่องวางแผนปกป้องความเสี่ยงทั้งก่อนและหลังเกษียณที่สอดรับกับกระแสโลก (Megatrend Protection) เพื่อให้เกษียณอย่างมีความสุขอย่างน้อยถึงอายุ 99 ปี โดยมีคำแนะนำหลักการพื้นฐานของการเลือกประกันดังนี้ 

ทำประกันตั้งแต่ยังมีสุขภาพดี – เบี้ยถูกกว่าและมีโอกาสได้รับการคุ้มครองครบโดยไม่มีข้อยกเว้น 

ประเมินความจำเป็นตามสถานการณ์ – พิจารณาว่า เราต้องการคุ้มครองชีวิต? สุขภาพ? ทรัพย์สิน? เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายระยะสั้น-ยาว 

เลือกบริษัทมั่นคง เชื่อถือได้ – ตรวจสอบเงื่อนไขกรมธรรม์ ข้อยกเว้น และประวัติการจ่ายสินไหม 

ปรับสัดส่วนพอร์ตประกันตามช่วงวัย – เพื่อให้สอดรับกับชีวิตของเราในแต่ละช่วงอายุ 

4. เริ่มวางแผนเกษียณตั้งแต่วันนี้ 

แยก “เงินใช้วันนี้” ออกจาก “เงินเพื่ออนาคต” ที่เป็นเป้าหมายทางการเงินระยะยาว โดยใช้เครื่องมือ เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กองทุนรวมThai ESG และประกันบำนาญ เพื่อลงทุนสร้างความมั่นคงระยะยาวให้มีเงินเกษียณอย่างเพียงพอ โดยเริ่มแรกอาจจะสำรวจความต้องการหลังเกษียณว่าต้องการจะใช้เงินประมาณเท่าไหร่ต่อเดือนและคาดว่าจะมีอายุขัยกี่ปี โดยอาจจะคำนึงถึงชีวิตที่ยืนยาวจากเทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้ามากขึ้นก็อาจจะตั้งเป้าสิ้นอายุขัยราว 90 ปี เมื่อเริ่มลงทุนแล้วก็หมั่นติดตามผลตอบแทนดูว่าเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ ซึ่งหากไม่เป็นไปตามเป้าหมายก็ควรปรึกษานักวางแผนการเงิน 

 นายณัฐกฤติกล่าวอีกว่า สำหรับรายละเอียดช่องว่างที่ทำให้การวางแผนการเงินของคนไทยไม่ประสบความสำเร็จในระยะยาว 4 ข้อ ประกอบด้วย 

ออมเงินแต่อาจแพ้เงินเฟ้อ 

จากรายงานผลการสำรวจทักษะทางการเงินของไทยโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)1 ล่าสุดพบว่าแม้ระดับทักษะทางการเงินของคนไทยดีต่อเนื่อง แต่ธนาคารทิสโก้มองว่าการที่คนส่วนใหญ่เก็บออมเงินในรูปแบบเงินสด (75.4%) และบัญชีเพื่อการออม (53.3%) มีเพียง 2.6% ที่นำเงินไปลงทุนนั้น อาจทำให้เงินออมมีมูลค่าลดลงจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น 

ขาดกันชนทางการเงิน 

ข้อมูลจากธปท. ยังพบว่า คนไทยให้ความสำคัญกับการออมเงินฉุกเฉินเพิ่มขึ้นทุกช่วงวัย แต่พบว่ามีเพียง 22.2% เท่านั้นที่สามารถอยู่ได้เกิน 6 เดือนหากหยุดทำงานกะทันหันสะท้อนว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังขาด “กันชนทางการเงิน” นอกจากนี้ ในแง่ของการซื้อประกันเพื่อป้องกันความเสี่ยงนั้นก็ยังอยู่ในอัตราที่ต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ข้อมูลจากสมาคมประกันชีวิตไทย พบว่าคนไทยมีประกันชีวิตเฉลี่ย 38-39% ของประชากรทั้งหมด น้อยกว่าประเทศมาเลเซียมีอัตราการเข้าถึงที่ 56% และสิงคโปร์มีอัตราการเข้าถึงที่ 80% ของประชากรทั้งหมด 

วางแผนเกษียณแต่ทำไม่สำเร็จ 

ข้อมูลจากธปท.ยังระบุอีกว่า ในส่วนของการวางแผนการเงินเพื่อการเกษียณนั้นแม้ 61.1% ของคนไทยตั้งใจจะวางแผนและออมเงินเพื่อการเกษียณ แต่ความจริงคือมีเพียง 15.7% เท่านั้นที่วางแผนและทำได้ตามแผนที่วางไว้ นอกจากนี้กลุ่มคน Gen Z มากถึง 53.5% ยังไม่เริ่มหรือคิดวางแผนเกษียณแม้บางส่วนจะเข้าสู่วัยทำงานแล้ว สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะสถานการณ์สภาพเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อรายได้ประชาชน ส่งผลให้มีทัศนคติในเรื่องการเก็บออมและวางแผนเพื่ออนาคตลดลง เลือกที่จะมองภาพการเงินในระยะสั้นหรือเลือกมีความสุขกับปัจจุบันมากขึ้น 

เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ 

ข้อมูลจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)2 ระบุว่าหนี้ครัวเรือนไทยไตรมาส 1/2568 อยู่ที่ 87.4% ต่อ GDP แม้จะปรับลดลงมาเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2567 แต่ก็ยังอยู่ในระดับสูงกว่า ระดับ 80% ซึ่งเป็นระดับยั่งยืนตามเกณฑ์ของ Bank for International Settlements (BIS) โดยหนี้ที่เกิดขึ้นเกือบ 30% ถูกใช้ไปกับสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบัตรเครดิต เป็นต้น โดยหนี้เหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ มีระยะเวลาการผ่อนสั้นแต่ดอกเบี้ยสูง ทำให้มีภาระหนี้ต่อเดือนสูงและต้องเผชิญกับสภาวะ “เสียแต่ดอก ต้นไม่ลด”  

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

นายกฯ อนุทิน เปิดมหกรรมไหลเรือไฟโลกนครพนม

นายกฯ อนุทิน เปิดมหกรรมไหลเรือไฟโลกนครพนม ขอความขมขื่นคนไทยไหลทิ้งแม่โขง ความสุขสามัคคีจงบังเกิดกับราชอาณาจักรไทย

คปภ. Kick Off นโยบาย “OIC ESG Empower”

คปภ. Kick Off นโยบาย “OIC ESG Empower” ขับเคลื่อนสู่พนักงาน คปภ. ทั่วประเทศ ร่วมสร้างองค์กรแห่งความยั่งยืนด้าน ESG อย่างเป็นรูปธรรม

นายกฯ อนุทิน พบชาวนครพนม แจ้งข่าวดี “คนละครึ่งพลัส” ผ่านครม. แล้ว

นายกฯ อนุทิน พบชาวนครพนม แจ้งข่าวดี “คนละครึ่งพลัส” ผ่านครม. แล้ว ฝาก “กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน” แจ้งลูกบ้านรีบลงทะเบียน

CIMB THAI เร่งปั้นกองทัพ IFA ชูหุ้นกู้ตลาดรอง

CIMB THAI เร่งปั้นกองทัพ IFA ชูหุ้นกู้ตลาดรอง ดันธุรกิจ Wealth โตแรง