
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) ครั้งที่ 1/2568 ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการดูแลสินค้าเกษตรทุกชนิด โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ จำเป็นต้องมีมาตรการบริหารจัดการแบบรอบด้าน เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาควบคู่กับต้นทุนของเกษตรกร ไม่ให้เกิดภาระเกินจำเป็นต่อผู้เลี้ยงสัตว์และผู้บริโภคในระยะยาว โดยกระทรวงพาณิชย์ได้รับฟังข้อมูลและข้อเสนอจากทุกภาคส่วน ทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการอาหารสัตว์ โรงงานแปรรูป และสมาคมการค้าพืชไร่ เพื่อหาแนวทางร่วมกันในการที่จะช่วยรักษาเสถียรภาพราคาและตลาดของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในภาพรวม”
นางศุภจี กล่าวต่อว่า “จากรายงานสถานการณ์ผลผลิตในช่วงนี้เป็นช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดในปริมาณมาก เพื่อให้เกษตรกรได้รับความเป็นธรรมในการนำผลผลิตไปขาย กรมการค้าภายในและ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดได้มีการเข้าไปตรวจการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มาตั้งแต่ต้นฤดู เพื่อป้องกันการเอาเปรียบเกษตรกร โดยจะมีการตรวจสอบราคาที่รับซื้อข้าวโพด การหักความชื้น–สิ่งเจือปน และความเที่ยงตรงของเครื่องชั่งทุกจุดรับซื้อ
และในช่วงนี้ที่ผลผลิตออกกระจุกตัว ได้ระดมตรวจเข้มการรับซื้อในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ ที่การรับซื้อติดขัด โดยสามารถแจ้งมายังกรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัด เพื่อจะได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบได้ทันที จึงขอให้พี่น้องเกษตรกรเชื่อมั่นว่าจะมีการซื้อขายที่เป็นธรรม”
ด้าน นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า “ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ยังคงราคารับซื้อจากเกษตรกรสำหรับข้าวโพดสดความชื้น 30% ในราคา 7.05 บาทต่อกิโลกรัม และราคารับซื้อหน้าโรงงานอาหารสัตว์สำหรับข้าวโพดแห้งความชื้น 14.5% ราคา 9.80 บาทต่อกิโลกรัม โดยราคารับซื้อจะขึ้นอยู่กับแหล่งผลิตและระยะทาง ซึ่งเป็นราคาที่สะท้อนต้นทุนจริงของเกษตรกร โดยรัฐมนตรีพาณิชย์ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกำกับดูแลการรับซื้อในพื้นที่อย่างเข้มงวด หากพบการกดราคา หักความชื้นเกินจริง หรือมีพฤติกรรมไม่เป็นธรรม จะต้องดำเนินการตามกฎหมายทันที
นอกจากนี้ การประชุมวันนี้ได้มีการพิจารณายกเว้นมาตรการควบคุมการนำเข้าข้าวสาลีสำหรับผู้ผลิตอาหารกุ้งในปี 2569 จำนวน 6 ราย ปริมาณรวม 134,356 ตัน หลังกรมประมงตรวจสอบข้อมูลการใช้จริงแล้ว โดยการยกเว้นดังกล่าวเป็นรายปี และต้องไม่กระทบต่อเสถียรภาพราคาข้าวโพดและวัตถุดิบอื่นในประเทศ อีกทั้งได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการภายใต้ นบขพ. จำนวน 5 คณะ ได้แก่ คณะอนุกรรมการพิจารณาชดเชยดอกเบี้ยในการเก็บสต็อก คณะอนุกรรมการบริหารจัดการระดับจังหวัด คณะอนุกรรมการติดตามสถานการณ์ตลาดและวัตถุดิบทดแทน คณะอนุกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2568–2572 และคณะอนุกรรมการกำกับดูแลการนำเข้าในกรอบ WTO เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและความรัดกุมในการบริหารจัดการทั้งระบบ เพื่อรักษาเสถียรภาพของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทั้งระบบ ”
สำหรับผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของไทย ปีการผลิต 2568/69 คาดว่ามีประมาณ 5.36 ล้านตัน เพิ่มขึ้นราว 8% จากปีก่อน เนื่องจากน้ำดี อากาศดี เกษตรกรปรับเปลี่ยนจากพืชอื่นมาปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มากขึ้น โดยในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดราว 34% ของผลผลิตทั้งปี ขณะที่ความต้องการใช้ ในอุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์ปี 2568 ปริมาณ 9.2 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 2% จากปี 2567 จากความต้องการใช้ข้าวโพดในภาคปศุสัตว์ที่ขยายตัว




