
วันที่ 27 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้า เข้าร่วมติดตามการประชุมของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) ที่ศูนย์ ศป.กฉ. ตึกภักดีบดินทร์ โดยก่อนเข้าร่วมติดตามการประชุมของศูนย์ฯผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เริ่มดีขึ้นแล้ว นายกฯจะลงพื้นที่อีกหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “พรุ่งนี้ (28 พ.ย.) ตอนเช้าครับ”
ทั้งนี้นายกฯใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก่อนเดินกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมเปิดเผยว่า ได้รับข้อมูลต่างๆและดำเนินการ ซึ่งในวันที่ 28 พ.ย.ตนจะลงพื้นที่เร่งช่วยเหลือและเร่งดำเนินการจ่ายเงินเยียวยา โดยได้หารือกับสำนักงบประมาณแล้ว
เมื่อถามว่าจะพูดคุยกับประชาชนอย่างไรบ้าง ในการช่วยเหลือเยียวยา นายกฯ กล่าวว่า ขอให้ฟังความชัดเจนจากทีม ศป.กฉ. ซึ่งจะมีการแถลงวันละ 2 ครั้ง ตามข้อสั่งการของตน โดยจะมีรายละเอียดชัดเจน ไม่ต้องไปฟังจากแหล่งข่าวอื่น เพราะศูนย์นี้จะอัพเดทข้อมูลข่าวสารมากที่สุด
สำนักงบประมาณ ยันมีเงินพร้อมจ่ายเยียวยา ประเดิมครอบครับละ 9,000 บาท
นายอนันต์ แก้วกำเนิด ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า ยืนยันว่าเรื่องงบประมาณในการเยียวยาประชาชนจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ครัวเรือนละ 9,000 บาทนั้น ได้เตีรยมความพร้อมไว้หมดแล้ว เป็นไปตามข้อสังการของนายกรัฐมนตรี ที่กำชับว่าจะต้องมีความพร้อมในการจ่ายเงินให้ประชาชนทันที ส่วนขั้นตอนการฟื้นฟูหลังสถานการณ์น้ำลดนั้น ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมของงบประมาณไว้หมดแล้ว และพร้อมประสานกับกระทรวงการคลังเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง รวมถึงกระทรวงมหาดไทย เพื่อทำงานร่วมกันในการเบิกจ่ายงบประมาณในการช่วยเหลือให้ประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพและเร็วที่สุด
นายกฯ อนุทิน ไม่ตอบเด้งนายอำเภอหาดใหญ่
เมื่อเวลา 13.10 น. วันที่ 27 พ.ย. ที่กระทรวงการคลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย พยายามเลี่ยงตอบคําถามผู้สื่อข่าว โดยผู้สื่อข่าวถามว่านายกจะลงพื้นที่จังหวัดสงขลาอีกหรือไม่ นายกฯ ตอบสั้นๆ ว่า”ลงสิ “
เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามถามกรณีมีศพลอยน้ําในพื้นที่ และการเยียวยาจะเริ่มได้เมื่อไหร่ รวมกรณีอธิบดีกรมการปกครองมีคําสั่ง ย้ายนายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอําเภอหาดใหญ่ คําสั่งย้ายข้าราชการหมายความว่าไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตามเป้าหมายใช่หรือไม่ นายกฯไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว ก่อนขึ้นรถออกจากกระทรวงการคลังไปทันที

นายกฯ อนุทิน สั่ง “ศุภมาส” เดินหน้าศูนย์สื่ออุทกภัย เปิด ONE PAGE INFOGRAPHIC
นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานสื่อมวลชนและการรับข้อมูลจากประชาชน เป็นประธานการประชุมเพื่อกำหนดแนวทางการสื่อสารสถานการณ์ การช่วยเหลือ เยียวยา และการฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ โดยมีนายชัยวัฒน์ บุญชวลิต รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์
ทำหน้าที่เลขานุการ พร้อมผู้แทนหน่วยงานและสื่อมวลชนที่เข้าร่วมผ่านระบบทั้งในพื้นที่และออนไลน์ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมในช่วงท้ายของการประชุม
นางสาวศุภมาสกล่าวว่า สถานการณ์อุทกภัยที่ยังส่งผลกระทบต่อหลายจังหวัดในภาคใต้จำเป็น
ต้องมีระบบสื่อสารที่ถูกต้อง เป็นเอกภาพ และเชื่อถือได้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลชัดเจนและทันเวลา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 11/2568 มอบหมายให้ตนจัดตั้งและปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานสื่อมวลชนและการรับข้อมูลจากประชาชน เพื่อทำหน้าที่รวบรวม บูรณาการ และสื่อสารข้อมูลจากทุกหน่วยงานของรัฐให้เป็นทิศทางเดียว ลดความสับสน และลดโอกาสเกิดข่าวปลอมในสถานการณ์วิกฤติ
ต่อจากนั้น นายชัยวัฒน์ บุญชวลิต รายงานโครงสร้างและภารกิจของศูนย์ฯ ว่า ศูนย์ฯ ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางข้อมูลด้านอุทกภัยภาคใต้ โดยรับข้อมูลแบบเรียลไทม์จากสำนักงานประชาสัมพันธ์เขต 5 และเขต 6 ซึ่งดูแลพื้นที่ภาคใต้ทั้ง 14 จังหวัด รวมถึงข้อมูลจากผู้ว่าราชการจังหวัด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หน่วยทหาร และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลที่ได้รับครอบคลุมสถานการณ์น้ำ ความเสียหาย การช่วยเหลือที่อยู่ระหว่างดำเนินการ และข้อร้องเรียนของประชาชนในพื้นที่
นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ศูนย์ฯ ยังเป็นช่องทางกลางในการรับข้อมูลจากประชาชน ผ่านสายด่วนรัฐบาล 1111 สายด่วน 1784 เฟซบุ๊กกรมประชาสัมพันธ์ แอปพลิเคชันของรัฐ และระบบ Traffy Fondue โดยข้อมูลทุกเรื่องจะถูกส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ และศูนย์ฯ จะติดตามผลกลับมาเพื่อสื่อสารตอบกลับประชาชนให้ครบถ้วนและถูกต้อง
จากนั้น นางสาวศุภมาส กล่าวต่อว่า เพื่อให้ข้อมูลจากภาครัฐมีความเป็นเอกภาพและช่วยลดการแพร่กระจายของข่าวปลอม ศูนย์ฯ จะจัดทำ ONE PAGE INFOGRAPHIC ประจำวัน โดยสรุปสถานการณ์สำคัญทุกมิติไว้ในแผ่นเดียว ทั้งแผนที่แสดงระดับความรุนแรงของพื้นที่ประสบภัย จุดเสี่ยง จุดพักพิง จุดรับบริจาค สถานะน้ำและไฟฟ้า เส้นทางคมนาคม การช่วยเหลือของแต่ละหน่วยงาน ความคืบหน้าการฟื้นฟูสาธารณูปโภค การจัดการพื้นที่และ Big Cleaning การซ่อมแซมเสาสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต รวมถึงมาตรการเยียวยาทางเศรษฐกิจของกระทรวงการคลัง เช่น การพักหนี้ ลดอัตราดอกเบี้ย และสินเชื่อซ่อมแซมบ้านหรือร้านค้า นอกจากนี้ยังรวมข้อมูลเตือนภัยพื้นที่เสี่ยงดินถล่มจากฝนตกสะสมหลายวัน
นางสาวศุภมาสระบุว่า ONE PAGE INFOGRAPHIC จะเผยแพร่ทุกวัน เป็นเวลา 2 รอบ ในเวลา 11.00 น. และ 17.00 น. ผ่านเพจกรมประชาสัมพันธ์ สถานีโทรทัศน์ NBT NBT Connext ไทยคู่ฟ้า และจะถูกส่งต่อให้สื่อมวลชนทุกสำนัก เพื่อใช้เป็นข้อมูลกลางในการรายงานสถานการณ์ ลดความคลาดเคลื่อน
ลดความสับสน และทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องตามข้อเท็จจริง
นางสาว ศุภมาส กล่าวเพิ่มเติมว่า ศูนย์ฯ จะจัดทำข่าวประชาสัมพันธ์หรือ Press Release ประจำวันจากข้อมูลที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว และเผยแพร่ผ่านทุกช่องทางของกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อให้สื่อมวลชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และสามารถนำเสนอข่าวได้อย่างมีมาตรฐานเดียวกัน
ช่วงท้ายการประชุม นางสาวศุภมาสกล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่ให้ความร่วมมือ และย้ำว่าการบูรณาการข้อมูลอย่างเป็นระบบจะทำให้การช่วยเหลือประชาชนชาวใต้เป็นไปอย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพสูงสุดในช่วงสถานการณ์อุทกภัยครั้งนี้

นายกฯ อนุทิน แถลงเยียวยาผู้ประสบภัยใต้ เงินต้องถึงมือทันที
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมบูรณาการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ว่า วันนี้ตนได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการหามาตรการให้ความช่วยเหลือ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการและภาคธุรกิจ ตลอดจนหามาตรการในการช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัยในพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งในการประชุมในวันเดียวกันนี้ได้มีการประชุมกับหลายหน่วยงานมาแล้ว โดยได้เร่งเรื่องของการตั้งกรอบของการให้การช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟู เหตุที่เกิดขึ้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และจังหวัดใกล้เคียงที่ประสบภัยจากสถานการณ์น้ำท่วม ขณะเดียวกันยังมีเรื่องการจัดสรรกรอบงบประมาณและเชื่อมโยงเครือข่ายทรัพยากร เชื่อมโยงเครือข่ายการสื่อสารให้เป็นไปทิศทางเดียวกัน ซึ่งการดำเนินการตอนนี้ดำเนินการภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งมีการยกเว้นระเบียบต่างๆเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน
นายกฯ กล่าวต่อว่า การมาที่กระทรวงการคลังเน้นในเรื่องของการเยียวยาและให้ความช่วยเหลือทางด้านเศรษฐกิจให้กับผู้ที่ประสบความเดือดร้อนไม่ว่าจะเป็นบุคคลหรือนิติบุคคล ส่วนในเรื่องของการให้ความช่วยเหลือในเรื่องของความปลอดภัยชีวิตการดำรงชีพของพี่น้องประชาชน ในขณะที่เกิดเหตุนั้นตนได้เดินทางลงไปในพื้นที่อยู่ตลอดเวลาและได้มีการประสานงานกับฝ่ายปกครองและฝ่ายตำรวจฝ่ายทหาร ฝ่ายความมั่นคงต่างๆ ซึ่งตอนนี้อยู่ในพื้นที่ โดยมีการระดมทรัพยากรทุกอย่างลงไปในพื้นที่ ซึ่งมีผู้บัญชาการสถานการณ์คือผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.ทสส.) อำนวยการในพื้นที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตนรีบขึ้นมาจัดเรื่องงบประมาณในการให้การช่วยเหลือ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) สำนักงานนายกรัฐมนตรี(สลน.) และหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย. (คปภ.) ที่ต้องดูแลเพื่อเร่งจ่ายค่าประกันภัยความเสียหายต่างๆให้กับประชาชนในพื้นที่ เน้นในเรื่องการดำเนินการเหล่านี้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด
นายกฯ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีมาตรการทางด้านการช่วยเหลือทางด้านการเงินด้วย เรื่องของการลดหย่อนภาษี งด พักชำระหนี้ และการให้สินเชื่อที่ไม่มีดอกเบี้ย เพื่อซ่อมแซมฟื้นฟูบ้านเรือน ร้านค้า และการที่จะลดค่าใช้จ่ายต่างๆในการดำรงชีวิตของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งนี้รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจและได้ใช้เวลาทุกวินาทีในการเร่งดำเนินการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่กำลังประสบภัยอยู่ในขณะนี้ ตนได้ขอให้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรมว.เกษตรและสหกรณ์ ตอนนี้ทั้ง 2 ท่านประจำอยู่ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมหลายวันแล้ว และได้มีการสั่งการดำเนินการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและดำเนินการในการทำให้ระดับน้ำลดลงไปให้เร็วที่สุด พร้อมทั้งสั่งการให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่
“ผทได้รับทราบมาว่าสถานการณ์ในพื้นที่กำลังคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น และผมได้ออกคำสั่งให้รองนายกรัฐมนตรีแต่ละท่านได้รับผิดชอบในเขตจังหวัดที่เกิดน้ำท่วมในปัจจุบัน โดยร.อ.ธรรมนัสสามารถสั่งการเปรียบเสมือนเป็นข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีได้เลย ในพื้นที่จังหวัดสงขลา ส่วน นายพิพัฒน์ นายโสภณ ชารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี และนายสันติ ปิยะทัต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ได้รับการมอบหมายให้ไปดูแลในจังหวัดแต่ละจังหวัดที่สามารถสั่งการในนามรัฐบาล หรือสั่งการในนามของนายกรัฐมนตรีได้เลย“นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องระบบสาธารณสุขได้มอบหมาย นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รมว.สาธารณสุข ให้ดำเนินการให้เกิดความมั่นใจในการให้บริการคนไข้ในโรงพยาบาลในพื้นที่ รวมถึงโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง ตลอดจนการเตรียมความพร้อมในการจัดตั้งโรงพยาบาลถ้ามีความจำเป็น ซึ่งบุคลากรทางด้านสาธารณสุขเหล่านี้ ทุกท่านมีประสบการณ์ที่ได้ผ่านการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้มาแล้ว ก็ขอให้ประชาชนมีความมั่นใจ และขอให้รับฟังข้อมูลแถลงจากศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) ในทุกๆวันเพื่อจะได้มีการสื่อสารที่ถูกต้อง สถานการณ์นี้เหมือนตอนโควิด-19 ถ้าท่านไปรับฟังข่าวสารจากช่องทางอื่นๆก็จะมีความซ้ำซ้อน จึงขอให้ยึดถือข้อมูลที่ทางศป.กฉ.ได้ทำการแถลงทุกวันไว้เป็นข้อมูลที่จะสื่อสารอย่างเป็นทางการกับพี่น้องประชาชน โดยขอให้มีการแถลงช่วงเช้าและช่วงบ่ายเพื่อให้ประชาชนได้ทราบข้อมูลสถานการณ์ให้มากที่สุด
นายกฯ กล่าวอีกว่า การดูแลพี่น้องประชาชนเราดำเนินการมาตั้งแต่วันที่เกิดเหตุและยังคงดำเนินการต่อไป ยังคงมีการประสานงานอยู่ตลอดเวลาโดยตนจะให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยลงไปดำเนินการบังคับบัญชาสถานการณ์ร่วมกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.ทสส.)ในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวให้มากที่สุด
ด้านน.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.แรงงาน กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น นายกฯ ได้สั่งการโดยด่วนให้เร่งสำรวจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานประกอบการและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบ เท่าที่ทราบตัวเลขจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) ได้แจ้งตัวเลขมาว่าสถานประกอบการกว่า 1 หมื่นแห่งที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ ตลอดจนลูกจ้างเบื้องต้นประมาณ 2 แสนคน ซึ่งเป็นตัวเลขเมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา นายกฯจึงให้สั่งการให้ดูแล โดยให้ดูว่าโครงการใดๆที่จะสามารถเร่งรัดเยียวยาดูแลให้อย่างเร็วที่สุด ในส่วนกลุ่มผู้ประกันตน เรามีโครงการที่เรียกว่าสิทธิประโยชน์ กรณีว่างงานอันเกิดจากภัยธรรมชาติ ซึ่งกรณีที่ผู้ประกันตนประสบปัญหาไม่สามารถจะไปทำงานได้ กองทุนประกันสังคมก็จะดูแลในการที่จะจ่ายเงิน ค่าจ้างในวันที่ไม่ได้ไปทำงาน 50 เปอร์เซ็นต์ของค่าจ้างรายวันที่ควรจะได้ ในห้วงเวลาไม่เกิน 6 เดือน ซึ่งจะเป็นช่วงที่พอดีกับช่วงฟื้นฟูเยียวยาพอดี ตลอดจนหากผู้ประกันตนใดๆก็ตามถ้าสามารถดำเนินการได้เลยสามารถประสานกับประกันสังคมจังหวัด และสามารถแจ้งผ่านเว็บไซต์ของประกันสังคมได้ จะสามารถดำเนินการตรงนี้ได้อย่างเร่งด่วน ตลอดจนเรื่องของการฟื้นฟู ซ่อมแซมต่างๆ กระทรวงแรงงานก็จะมีศูนย์ซ่อมสร้างในการที่จะดูแลเบื้องต้นภายหลังจากน้ำลด หรือแม้แต่การซ่อมแซมบ้านเรือนและยานพาหนะเบื้องต้น ซึ่งเรามีศูนย์ดูแลโดยได้มีการประสานงานเตรียมความพร้อมไว้แล้วตามที่นายกฯได้กำหนดไว้




